NC
มนตรา_56
ริมฝีปากร้อนระอุยังคงรุกไล่
บดเบียดแนบชิด ทั้งยังแทะเล็มไปตามเรียวปากล่าง
ความอุ่นร้อนตวัดเกี่ยวจนเนื้อนิ่มแดงก่ำฉ่ำชื้น เกลียวลิ้นร้อนผ่าวสอดลึกเข้าเกาะเกี่ยวอย่างไม่ให้ร่างน้อยได้ทันตั้งตัว
จูบร้อนถูกยัดเยียดเข้าหาจนฮยอกแจแทบสำลักความร้อนระอุในรสอารมณ์ที่ได้รับ
“ท่านพี่...” ฮยอกแจครางแผ่วในลำคอปนหอบสะท้าน
เมื่อร่างสูงใหญ่ผละออกเพียงครู่
ฝ่ามือเรียวนุ่มยกขึ้นกอดคล้องลำคอแกร่งอย่างเผลอไผล แผ่นอกสะท้อนขึ้นลงอย่างสะท้านกับรสสัมผัส
และเสียงหวานก็เป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายที่ฉุดรั้งความต้องการขององค์ราชันย์ให้ขาดสะบั้นลง
เรียวปากอุ่นร้อนบดเบียดแนบชิดอีกครา
และหนักหน่วงเร่งเร้ากว่ายามแรก
ดูดกลืนทุกความคิดของวีล่าน้อยให้เหลือเพียงความว่างเปล่า
ทำได้เพียงปล่อยกายใจไปตามแรงชักนำของร่างสูงสง่าที่บัดนี้ทิ้งร่างลงแนบชิดกับเรือนร่างนุ่มเนียนจนไร้ช่องว่าง
“อาห์...”
ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้ช่วงไหล่กลมกลึง ปลดรั้งอาภรณ์สีเงินยวงให้หลุดพ้นจากเรือนร่างขาวนวลทีละน้อย
ปลายจมูกก็ดอมดมกลิ่นกายหอมหวานที่หอมฟุ้งไปทั่วทุกอณูของห้อง ริมฝีปากก็ตักตวงมธุรสหอมหวานจนเกลียวลิ้นชื้นสัมผัสเข้าหากันอย่างแนบแน่น
“ท่านพี่...ข้า...”
ฮยอกแจทำได้เพียงเอ่ยพึมในลำคอ ดวงตาคู่งามทำได้เพียงปิดปรือลง
แม้จะไม่รู้ว่าสัมผัสชิดใกล้เกินกว่าผู้ใดกำลังแตะต้องร่างกายของตนนำไปสู่สิ่งใด
แต่กลับรับรู้ได้ถึงความขลาดเขินที่เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย
“อย่าห้ามข้าเลย ฮยอกแจ”
ขณะเดียวกัน จอมภูติก็กระซิบถ้อยคำหวานริมหู
ถ้อยคำที่แฝงด้วยความเว้าวอนขอความเห็นใจ
จนวีล่าน้อยกอดรั้งไหล่กว้างแน่นขึ้นกว่าเดิม สัมผัสได้ถึงริมฝีปากร้อนระอุที่ลากไล้ผ่านผิวเนื้ออ่อนบาง
พวงแก้มนุ่ม มายังลำคอเปลือยเปล่า
ทิ้งรอยกุหลาบเป็นหลักฐานว่าส่วนใดถูกปากอุ่นแตะต้องแล้วบ้าง
อาภรณ์ที่ห่อหุ้มกายถูกรั้งออกไปจากเรือนกายขาวหมดแล้ว
อย่างที่ฮยอกแจทำได้เพียงหลับตาด้วยความขลาดเขิน
หัวสมองถูกแทนที่ด้วยความหวิวหวามที่สอดแทรกไปทั่วกายราวกับระลอกคลื่นที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดยั้ง
“อาห์...ท่านพี่...ข้า...รู้สึกแปลก...อืม...”
ฮยอกแจเกร็งตัววาบ สองมือขยุ้มเส้นผมสีดำขลับขององค์ราชันย์แน่น ใบหน้าแหงนเงยขึ้น
ดวงตาวาวรื้นด้วยหยดน้ำใส ริมฝีปากเผยอน้อยๆ เปล่งเสียงครวญครางหวานหู
เมื่อริมฝีปากอุ่นลากไล้มาถึงยอดอก
เกลียวลิ้นชื้นสัมผัสผะแผ่ว
ก่อนจะเน้นย้ำสัมผัส ไล้เลียชิมรสหวานหอมที่ใจเฝ้าปรารถนา ฝ่ามือหยาบกร้านเล้าโลมทั่วเรือนกายขาวเนียนจนเสียงครวญครางดังไม่ขาด
ร่างน้อยก็สะดุ้งเกร็งรับสัมผัสทุกครั้งที่ริมฝีปากลงแรงหนักหน่วง
ฮยอกแจใช้สองมือกำฟูกนุ่มเอาไว้แน่น
เรียวขาเบียดชิดเข้าหากัน เนื้อตัวร้อนระอุยิ่งกว่าซมไข้
รู้สึกราวกับร่างกายกำลังระเบิดเป็นเสี้ยวทุกครั้งที่ริมฝีปากกำลังลากไล้สัมผัสไปทั่ว
แผ่นท้องขาวหดเกร็ง บิดกายเร้า เมื่อปากอุ่นกำลังลากไล้ผ่านแผ่นท้องขาวเนียน
เวลานี้ ลมเย็นจากระเบียงกว้างพัดกระทบเรือนร่างเปล่าเปลือย
หากแต่ไม่อาจจะทำให้ร่างกายนี้เย็นลงได้เลย
เมื่อเนื้อตัวแข็งแกร่งกำลังบดเบียดแนบชิด มอบสัมผัสแปลกใหม่ไม่ว่างเว้นเช่นนี้
“อึ้ก...อาห์...ท่านพี่...ยะ..อย่า...”
ฮยอกแจส่ายสะบัดหน้าไปมาบนหมอนนุ่ม
เมื่อริมฝีปากร้อนระอุกำลังครอบลงที่ส่วนอ่อนไหวในทีเดียว เนื้อตัวสะดุ้งวาบ
น้ำตาหยดใสไหลอาบแก้มเนียนกับรสรักที่องค์ราชันย์ปรนเปรอให้
สัมผัสเนิบช้าที่สลับกับเร็วยิ่งทำให้ร่างน้อยเกร็งตัวรับ
เสียงสะอื้นดังในอกกับความหวามที่ร่างกายนี้กำลังเรียนรู้
“ท่านพี่...อาห์...ท่านพี่...ข้า...เหมือนจะตาย...”
แต่หากความตายทำให้รู้สึกเช่นนี้
ฮยอกแจก็ยอมตาย
เสียงครางดังหนักหน่วงกว่าเดิม
สองมือจิกลงที่ฟูกนุ่มแทบจะฉีกทึ้ง และเมื่อฮันคยองยอมผละออก
ร่างน้อยก็อ่อนยวบอย่างสิ้นแรง
ทำได้เพียงเผยอปากรับจูบอ่อนโยนที่ประทับลงที่ริมฝีปากอีกครั้ง
จากนั้น
จอมภูติก็พลิกร่างน้อยให้นอนคว่ำ ลากไล้ริมฝีปากไปตามแผ่นหลังขาว
ทิ้งรอยสัมผัสไม่ว่างเว้น ขณะที่ฝ่ามือหยาบก็สอดลึกเข้ามาระหว่างเรียวขาขาวเนียน
ก่อนที่ฮยอกแจจะผวาจิกเล็บลงกับฟูกนุ่มเต็มแรง
เมื่อปลายนิ้วยาวกำลังกดคลึงที่ทางรักสีสด
ก่อนจะชำแรกผ่านจนเสียงหวานอื้ออึงอยู่ในลำคอ
“เจ็บ...” เจ็บจนร่างทั้งร่างแทบแตกเป็นเสี่ยง
จนฮยอกแจฟุบหน้ากับฟูกนุ่ม ปล่อยน้ำตาหยดใสไหลซึมที่นอนเป็นวงกว้าง หอบหายใจสะท้าน
จนองค์ราชันย์ต้องรั้งใบหน้างามมารับจุมพิตปลอบประโลม
อาศัยจังหวะดันนิ้วเข้าไปจนสุดให้วีล่าน้อยสะท้านเยือก
จูบร้อนหยอกเย้ากับเกลียวลิ้นยังดำเนินต่อไป
มอบความสุขหรรษาดึงดูดความสนใจของร่างน้อยให้สนใจเพียงจูบร้อน ปลายนิ้วยาวเร่งเร้าหนักหน่วง
สัมผัสได้ถึงแรงตอดรัดรุนแรงที่ทำให้จอมภูติแทบคลั่งตาย
สัมผัสเนิบนาบสลับกับกดย้ำหนักจนวีล่าน้อยแทบสำลักกับความสุขที่ถูกปรนเปรอให้
เสียงหอบสะท้านดังก้อง ก่อนที่ปลายนิ้วจะถูกถอดถอน
เรือนกายแข็งแกร่งแยกรั้งเรียวขาให้แยกกว้างออกอีกนิด แล้วรั้งกายลงไปแนบชิด
แผ่นอกร้อนระอุก็แนบชิดกับแผ่นหลังเล็ก ยามที่ฮยอกแจเงยหน้าแดงระเรื่อมามอง
“ท่านพี่...ข้า...อึดอัด...อึดอัดเหลือเกิน...”
เสียงร้องขอที่เรียกจุมพิตให้ดำเนินต่อไปอีกครั้ง
พร้อมกับองค์ราชันย์ที่เกรงว่าการกระทำต่อจากนี้จะนำพาความเจ็บมาให้แก่นางในดวงใจ
หากแต่จุมพิตที่ฮยอกแจเป็นฝ่ายขยับตัวเข้าหา
เรียกร้องสัมผัสอย่างไม่รู้ตัวก็ทำให้ฝ่ามือหยาบเลื่อนไปตามช่วงไหล่ แขนเรียว จนกระทั่งสอดประสานกับฝ่ามือนิ่มทั้งสองข้าง
ก่อนที่ฮันคยองจะรั้งร่างสอดแทรกความแข็งแกร่งลงในความอุ่นนุ่มจนฮยอกแจตัวเกร็งวาบ
ร่างทั้งร่างสั่นเทาด้วยความเจ็บร้าวไปทั่วร่าง
“ฮึก...” แท่งไฟร้อนกดแช่ค้างอยู่ชั่วครู่
ยามที่ฮันคยองป้อนจูบอ่อนโยนไม่ว่างเว้นให้วีล่าน้อยได้ผ่อนคลายจากห้วงอารมณ์รุนแรงที่กำลังพัดโหมด้วยเพลิงเสน่หา
ก่อนที่จะขยับเคลื่อนอย่างเชื่องช้าเน้นย้ำอย่างอ่อนหวานซึ่งเปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นความสุขล้ำที่เสียงหวานเปล่งครางออกมาไม่ได้ขาด
อุ้งมือร้อนผ่าวก็สอดลึกเข้าไปกอบอุมส่วนอ่อนไหวนุ่มนิ่ม
ขยับเคลื่อนไปด้วยจังหวะดุจเดียวกัน
“ข้ารักข้า...ฮยอกแจ...รัก...”
ฮันคยองกระซิบคำรักไม่ว่างเว้น
ยามชักนำวีล่าน้อยให้พบพานกับความสุขที่ไม่เคยได้รู้จัก
แรงเร่งเร้ายิ่งหนักหน่วงเรียกเสียงครางอื้ออึงไปทั่ว
“ทะ...ท่านพี่...ขะ...อึ้ก....ข้าไม่...ไหว...ข้า...อึ้ก...”
วีล่าน้อยส่ายสะบัดหน้าอย่างเสียวซ่านกับอารมณ์รัก รู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ความชาวาบพุ่งเข้ามาในช่องอก รับรู้ได้ถึงคลื่นอารมณ์รักที่ถาโถมเข้ามาในกาย
ก่อนที่ความอึดอัดจะระเบิดพรูจากอุ้งมืออุ่นร้อนและแรงขับเคลื่อนในกาย
จนฮยอกแจทิ้งร่างลงกับฟูกนุ่ม หากแต่ได้อ้อมกอดแข็งแกร่งที่รัดรึงร่างเอาไว้จนได้แต่รองรับความปรารถนาขององค์ราชันย์ที่เห็นทีว่าจะไม่จบลงง่ายๆ
ความอดทนที่เฝ้ารอมาตลอด
สุดท้ายก็ถูกเติมเต็มด้วยความอ่อนหวานน่ารักของวีล่าน้อยเสียที
คลื่นความปรารถนาที่พัดโหมครั้งแล้วครั้งเล่า
ราวกับระลอกคลื่นที่ฮยอกแจก็เต็มใจจะรองรับความปรารถนานี้
หากเป็นบุรุษผู้นี้...องค์ราชันย์ฮันคยอง...ผู้เป็นดั่ง...ดวงใจ
........................................
คิดเห็นยังไง ได้โปรดบอกกล่าวกันสักนิดที่
ขอบพระคุณทุกผู้ทุกนามซึ่งเข้ามาเยี่ยมชม
^^