วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

NC [129] การเดินทางของหัวใจ III End

HBD Lee Donghae

วันนี้คนสวยแก่ขึ้นอีกปีแล้วเนอะ
มาร่วมอวยพรคนสวยของคิมคิกันดีกว่า


ขอให้พี่ชายหมวยวันหมวยคืน กล้ามเล็กลง เล็กลง และเล็กลง
มีความสุขมากๆ นะคะ คิดหวังสิ่งใดก็สมปรารถนา และที่ขาดไม่ได้ รักกับคิมคิตลอดไปนะเออ
ขอให้ไม่มีเรื่องอะไรโกรธเคืองกัน ยังไงบ้านรักหลากสีก็เชื่อนะคะว่าตัวจริงของพี่น่ะใคร ^^
(นี่อวยพรวันเกิด หรืองานแต่ง?)
ยังไงก็แล้วแต่ รักปลา หลงปลา และรักคิเฮนะคะ^^

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


[SF] KiHae
By : MAME
129 การเดินทางของหัวใจ III [หัวใจเคียงกัน] End
Note : HBD Lee Donghae

           
            ภายในตัวอาคารแสนเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง บนทางเดินกำลังพลุกพล่านไปด้วยเหล่านักศึกษาที่ทยอยกันเข้ามาเรียนในช่วงเช้า ร่างแบบบางของคนหน้าหวานก็เช่นกัน ดงแฮรีบก้าวเร็วๆ มาตามทาง แม้จะดูเร่งรีบมากแค่ไหน แต่บนใบหน้าที่แลหวานคล้ายผู้หญิงเสียมากกว่าก็กำลังอมยิ้มน้อยๆ นัยน์ตาพราวระยับไปด้วยความสุขที่เห็นได้ชัดเจน

            จนกระทั่งเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องแลคเชอร์

            แอ๊ด...

            “...เซลอิลชุกฮา ฮัมนีดา...” ดงแฮถึงกับชะงักค้างอยู่กับที่ เมื่อทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป เสียงเพลงอวยพรวันเกิดในภาษาเกาหลีก็ดังเสียลั่นห้องแลคเชอร์ขนาดกลางนั้น

            “พวกนาย..” เสียงหวานพึมพำเบาๆ ก่อนที่รอยยิ้มจะแย้มขึ้น แก้มใสซับสีเลือดจางๆ เพราะเขินที่ทุกคนมองมาทางเดียว

            “...เซลอิลชุก ฮาฮัมนีดา ซารางฮานึล ดงแฮ ชี เซลอิลชุกฮาฮัมนีดา..” ท่ามกลางเพื่อนฝูง เพื่อนสนิทอย่างฮยอกแจกำลังถือเค้กขนาดสองปอนด์เดินเข้ามายื่นให้เพื่อน

            “สุขสันต์วันเกิดนะ ไอ้เพื่อนขี้แง” ฮยอกแจว่าพลางหัวเราะเบาๆ จนดงแฮค้อนขวับ แต่ก็ก้มลงเป่าเทียนจนดับ

            “เฮ! อายุเพิ่มอีกปีแล้วนะ”

            “สุขสันต์วันเกิด” เสียงโห่ร้องและอีกหลายๆ เสียงดังตามมาหลังเทียนดับไปแล้ว จนดงแฮต้องยิ้มเสียกว้าง รู้สึกดีใจไม่น้อยที่เพื่อนจำวันเกิดเขาได้ มือเล็กรับของขวัญหลายกล่องที่ถูกยื่นมาให้

            “ขอบคุณทุกคนนะ ดีใจมากเลย” ดงแฮว่าด้วยรอยยิ้มกว้างที่ทำให้หลายๆ คนในห้องถึงกับเพ้อกับความน่ารัก แต่ก่อนจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ อาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามา จนแต่ละคนต้องรีบช่วยกันคว้าของ คว้าเค้กกลับเข้าที่เสียก่อน

            “ขอบใจพวกนายมากนะ” ทันทีที่หาที่นั่งเรียบร้อย ร่างบางก็หันมายิ้มให้เพื่อนสนิททั้งสาม ที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเจ้าของความคิดที่ซื้อเค้กมา

            “ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่วันนี้จะไปกินกันเหมือนทุกปีมั้ย” ซองมินหันมากระซิบเบาๆ แต่เรียกความสนใจจากคนทั้งกลุ่ม เพราะทุกคนรู้ดีว่าวันนี้ต่างออกไป...ดงแฮมีคนที่อยากฉลองด้วยแน่ๆ

            ตอนที่หนุ่มปริศนาที่อเมริกากลายเป็นคนรู้ใจของเพื่อนเสียอย่างนั้น แรกๆ ทุกคนก็ค้านที่ดงแฮตอบรับเสียง่ายๆ เพราะทั้งคู่พึ่งรู้จักกันไม่นาน แต่เตือนไปก็เท่านั้น ดงแฮฟังเสียที่ไหน

            ก็เจ้าตัวเล่นเอาแต่ยิ้มหวาน บอกว่าความรักไม่เกี่ยวข้องกับระยะเวลานี่ แล้วพวกเขาจะว่าอะไรได้

            และพอพวกเขาได้เจอตัวจริงของคิบอม ข้อกังขาเรื่องความไม่น่าไว้ใจก็หายไปทันที แถมยอมรับที่เพื่อนคบกับคนๆ นี้เสียด้วย

            ก็สายตาที่มองตรงมาที่เพื่อนของพวกเขามันหวานแฝงความจริงใจจนใครก็รู้สึกนี่นะ

            คำถามเรื่องการฉลองของเพื่อนทำให้ดงแฮนิ่งไปนิด ก่อนที่หน้าหวานจะซับสีเลือดจางๆ แล้วส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กไปมา

            “อ่า เราไปกินกันวันอื่นได้มั้ย วันนี้..มีนัดอ่ะ” เสียงหวานอุบอิบเบาๆ กลัวเพื่อนจะโกรธ ในเมื่อวันเกิดเขาทีไรก็พากันไปกินกันทุกที มีบ้างที่บางปี เขากลับบ้านต่างจังหวัด แต่ก็น้อยครั้ง ส่วนใหญ่จะอยู่กับเพื่อนที่สนิทกันมาหลายปีมากกว่า แล้วพอมาปีนี้ต้องปฏิเสธ เสียงมันเลยอ่อนอ่อยจนหลายคนหัวเราะ

            “เอ้า ดูทำหน้าเข้า แค่ไม่ไปกินด้วยกันวันนี้ พวกเราไม่ตายหรอก รู้หรอกว่า ถ้าวันนี้พวกฉันบังคับนายไปด้วย นายได้ตายเพราะความคิดถึงพี่คิบอมแน่ๆ” เรียวอุคแซวด้วยรอยยิ้ม แต่ทำให้ดงแฮยู่หน้าใส่

            “พวกนายอ่ะ ฉันจริงจังนะ”

            “อ้าว พูดอย่างนี้หรือว่าปีนี้จะไม่ฉลองกับพี่คิบอม” ฮยอกแจแย้งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเพื่อนเริ่มทำหน้ามุ่ย ดงแฮถึงกับหน้าร้อนผ่าวแล้วตอบอุบอิบ

            “ฉลองสิ ก็พี่คิบอมว่างตอนเย็นนี่นา” เสียงหวานพึมพำบอก เข้าใจคิบอมดีว่าชายหนุ่มมีงานที่ต้องรับผิดชอบ แล้วกว่าจะว่างก็เป็นช่วงเย็นมากแล้ว แต่เท่านี้ก็ดีแล้ว แค่ได้มีเวลาร่วมกัน ดงแฮก็ไม่เรียกร้องอะไรแล้ว

            “ก็แค่นั้น...ว่าแต่ ทำไมวันนี้นายดูมีความสุขจัง อ่ะแน่ะ มีอะไรดีๆ หรือเปล่า”ฮยอกแจกระเซ้าเพื่อนเล่นเมื่อเห็นว่าดงแฮเอาแต่ยิ้มหวานตั้งแต่เดินเข้าห้องมาแล้ว

            ฉ่า..จบคำถาม หน้าหวานก็ขึ้นสีก่ำเสียอย่างนั้น แถมก้มหน้างุดจนคางแทบชิดอก จนหลายคนยิ่งยื่นหน้ามาใกล้ๆ

            “ก็แค่พี่คิบอมส่งข้อความอวยพรวันเกิดมาก็แค่นั้นเอง” ทั้งสามที่ฟังฟันธงเลยว่า มันต้องมากกว่านั้นแน่ๆ ก็คนพูดเล่นหน้าแดงจัด ตาก็พราวด้วยความสุขนี่นา

            ดงแฮขบริมฝีปากเบาๆ รู้สึกเขินไม่น้อยเมื่อนึกถึงข้อความที่คิบอมส่งมาให้หลังเที่ยงคืน คนแรกที่ส่งข้อความหาเขา

            เย็นนี้พี่ไปหานะ ขอจองตัวไว้ก่อน แล้วที่สำคัญ...HBD My love
                                                                        คิบอม

            แค่ข้อความสั้นๆ แต่ทำให้ดงแฮยิ้มไม่หุบตั้งแต่ได้รับจนกระทั่งมาถึงมหาวิทยาลัย ก็คิบอมไม่เคยบอกรักเขาเลยนี่นา ยิ่งเรียกด้วยคำหวานอย่างนี้ยิ่งไม่เคย...มายเลิฟ ยิ่งคิดดงแฮก็ยิ่งใจเต้นแรง

            อยากถึงตอนเย็นเร็วๆ จัง

.............................................

            อาคารสำนักงานตั้งเรียงรายกันในเมืองหลวง ตึกสำนักงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ป้ายหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ใครๆ ก็รู้จักว่าเป็นบริษัทระหว่างประเทศที่มีชื่อเสียง ร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่หลังเก้าอี้ตัวใหญ่ ขณะที่บนใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดอยู่ไม่น้อย แต่เพียงคิบอมหันไปมองปฏิทินตั้งโต๊ะ รอยยิ้มกว้างก็แย้มขึ้นมาเสียง่ายๆ

            ก็วันนี้เป็นวันที่ 15 ตุลาคม วันเกิดของคนที่เขารักที่สุด

            วันเกิดของเขาปีนี้ เขาได้พบกับดงแฮ ได้เจอคนน่ารักที่อยู่เป็นเพื่อนเขาทั้งวัน แต่แทนที่วันเกิดของดงแฮ เขาจะได้ทำอย่างนั้นบ้าง ก็ติดที่ความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานที่เขาพึ่งจะเริ่มต้นได้เพียงเกือบเดือนเท่านั้น

            สิ่งที่ทำตอนนี้ก็คือการเร่งทุกอย่างให้เป็นไปตามแผน เพื่อใช้เวลาเย็นกับดงแฮให้มากที่สุด

            คิบอมคิดพลางก้มหน้าลงทำงานอีกครั้ง

            แต่กว่าที่คิบอมจะทำงานให้ลุล่วงก็เข้าเวลาเย็นมากแล้ว พอเสร็จเรียบร้อย ร่างสูงก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แทบจะบินไปหาดงแฮเสียด้วยซ้ำ จนเพื่อนร่วมงานหลายคนแปลกใจ

            และสิ่งที่ทำให้คิบอมหงุดหงิดที่สุดก็คงไม่พ้นถนนที่มีรถติดยาวเหยียด เพราะกว่าเขาจะหาซื้อเค้ก ซื้อข้าวของเรียบร้อย เข็มนาฬิกาก็เกือบจะถึงเลขเจ็ดอยู่แล้ว

            ข้าวของมากมายที่ซื้อมาถูกคิบอมรวบไว้ในมือเดียว แต่ก่อนจะลงจากรถ สิ่งของที่เตรียมไว้ตั้งแต่หลายวันก่อนก็ถูกดึงจากช่องเก็บของหน้ารถ นัยน์ตาคมอ่อนแสงไปมากเมื่อมองซองสีฟ้าที่ใส่ของที่เขาเตรียมมา

            ไม่รู้ว่าพอจะแทนความรู้สึกที่เขาอยากบอกหรือเปล่า แต่เขาก็ตั้งใจเอามาให้ดงแฮจริงๆ

            หลังจากขึ้นลิฟต์มา ขายาวรีบก้าวไปตามทางเดินของหอพักจนเกือบจะเป็นวิ่ง กุญแจสำรองของดงแฮอยู่ที่เขานานแล้ว แม้ว่าจะแค่เคยมาส่งที่หน้าห้องก็ตาม แต่เมื่อมาหยุดอยู่หน้าห้อง 129 เขาก็เกิดความลังเลว่าจะเคาะ หรือเปิดเข้าไปเลยดี

            เพราะไม่แน่ใจว่าตอนนี้คนน่ารักของเขาจะน้อยใจอยู่หรือเปล่า

            แต่สุดท้ายมือใหญ่ก็เคาะลงที่บานประตู ขณะที่รอคอยคนในห้อง โดยที่เสียงเคาะประตูนี้ ทำให้ร่างบางที่กำลังนอนเอาแก้มแนบโต๊ะ มองโปสการ์ดในมืออย่างหงอยๆ ลุกพรวดขึ้น ดงแฮรีบเก็บโปสการ์ดทั้งสองใบให้เข้าที่ ไม่อยากให้คิบอมรู้ว่าเขากำลังใจเสียแค่ไหนที่ยังไม่เห็นคิบอมมาเสียที

            “มาแล้วครับ มาแล้ว” ดงแฮรีบร้องบอก แล้วไปสูดหายใจเข้าลึกๆ หน้าประตูห้องของตัวเองเพื่อเรียกกำลังใจ ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปเปิดประตู

            “ว่าไงครับเด็กขี้แย คิดถึงพี่หรือเปล่า” คำถามที่ดงแฮถึงกับทำหน้ายู่ เล่นพูดมาประโยคแรกก็ทำให้เขาอยากงอนเสียแล้ว

            “พี่คิบอมอ่ะ” คนหน้าหวานสะบัดค้อนใส่ จนคิบอมต้องหัวเราะเบาๆ ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องที่แสนอบอุ่น แล้วยกมือขึ้นกอดไหล่เล็กหลวมๆ

            “โอ๋ อย่าพึ่งงอนสิ พี่แค่อยากรู้ว่าด๊องคิดถึงพี่ เหมือนที่พี่คิดถึงด๊องหรือเปล่า” คิบอมถามเสียงนุ่ม ก้มลงกดปลายจมูกที่แก้มใสแรงๆ จนดงแฮต้องก้มหน้างุด คิบอมเปลี่ยนมาเรียกชื่อเล่นเขานานแล้ว แต่ก็รู้สึกไม่ชินเสียที

            ก็เรียกทีไร มักจะมาพร้อมคำพูดที่ทำให้เขาเขินอยู่เรื่อย

            “ไม่ได้งอนสักหน่อย มาฮะ ผมช่วย” ดงแฮว่าพลางช่วยดึงถุงข้าวของที่คิบอมซื้อมา แต่เมื่อเห็นปริมาณก็อดจะบ่นพึมพำไม่ได้

            “นี่กินกันสองคนนะฮะ ซื้อยังกับเลี้ยงทั้งกองทัพ” แต่คำตอบของคิบอมเนี่ยสิที่ทำให้หน้าหวานซับสีเลือดจางๆ

            “อ้าว ก็จะได้อยู่กับด๊องนานๆ ไง พี่เลยซื้อมาแบบกินกันยันเช้าเลย” เพียงเท่านั้น ร่างเล็กเลยเดินก้มหน้างุดไปทางที่โต๊ะตัวเล็กกลางห้อง ที่ก่อนหน้านี้ก็มีอาหารหลายอย่างวางอยู่ก่อนแล้ว จนคิบอมต้องเกาหัวแก้เขิน

            ท่าทางกินกันถึงพรุ่งนี้เย็นยังไม่หมดเลยมั้ง

            “เห็นมั้ยฮะ เหลือชัวร์” เสียงหวานหันมาว่า แต่ก็ยอมเอาอาหารที่คิบอมซื้อมาจัดใส่จาน ปล่อยให้คิบอมสำรวจห้องของเขา

            ห้องของดงแฮขนาดกระทัดรัดแบบอยู่คนเดียว มุมหนึ่งมีอุปกรณ์เครื่องครัวง่ายๆ อีกมุมเป็นโต๊ะอ่านหนังสือที่มีข้าวของวางอย่างเป็นระเบียบ มีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก แต่ก็ได้จัดอย่างลงตัว ภาพถ่ายหลายใบอยู่ในกรอบวางตามมุมต่างๆ แต่ภาพที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้น ภาพถ่ายที่ทั้งสองมีเดทแรกกันเมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว ที่ตอนนี้ถูกคนตัวเล็กเอามาวางไว้ตรงโต๊ะหัวเตียง

            คิบอมมองภาพดงแฮที่ยิ้มหวานในรูป แล้วหันมามองตัวจริงที่กำลังก้มหน้าก้มตาจัดการของที่เขาซื้อมาด้วยรอยยิ้มกว้าง

            หมับ

            “หือ อะไรฮะ” อยู่ๆ คิบอมก็กอดเขาจากด้านหลัง ใบหน้าคมคายวางเกยที่ไหล่เล็ก จนดงแฮต้องเอี้ยวหน้ามามอง นัยน์ตาคมกริบที่ทอดมองมาทำให้หน้าหวานๆ ขึ้นสีก่ำ แต่พอมองใกล้ๆ ดงแฮก็สังเกตเห็นใต้ตาที่ดำคล้ำไม่น้อย จนต้องหันมามองเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นทั้งตัว

            “วันนี้เหนื่อยมากมั้ยฮะ” คำถามที่คิบอมนิ่งอึ้งไปนิด แล้วส่ายหน้าช้าๆ

            “ไม่เหนื่อยหรอก นี่แค่นอนไม่พอน่ะ” คิบอมว่าพลางชี้ที่ใต้ตาของตัวเอง แต่ทำให้มือเล็กยกขึ้นสัมผัสที่แก้มสากของชายหนุ่มเบาๆ

            “พักบ้างนะฮะ ผมเป็นห่วง” น้ำเสียงที่ห่วงใยของร่างเล็ก ทำให้คิบอมตวัดแขนโอบรอบกายเล็กแน่นขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่แย้มเสียกว้าง

            ดงแฮจะทำให้เขารักไปถึงไหนนะ แค่นี้ก็รักมากจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว

            “แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมหูเล็ก ขณะที่กดจูบที่ขมับบางอย่างแผ่วเบา สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ เข้าเต็มปอด

            ทั้งสองปล่อยให้ความเงียบโอบรอบกาย ปล่อยให้เสียงหัวใจเต้นแรงขับกล่อมท่ามกลางความอบอุ่น จนกระทั่งร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มหวานจับใจ

            “ทานข้าวก่อนนะฮะ พี่คิบอมเหนื่อยแย่เลย ทั้งทำงาน ทั้งซื้อของ แล้วมาหาผมอีก” เสียงหวานว่าอย่างร่าเริง แล้วกระตุกแขนคิบอมเบาๆ ให้ขยับมานั่งข้างกัน ซึ่งคิบอมก็ทำตามแต่โดยดี อาหารมื้อนี้คงเป็นมื้อที่ทั้งสองมีความสุขมากที่สุดมื้อหนึ่ง ในเมื่อยามนี้คนทั้งสองอยู่ด้วยกัน ใช้เวลาร่วมกัน ปล่อยให้เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ และความสุขที่เอ่อล้นมาจากใจ

            “ฮ้า..อิ่มอ่ะ พี่คิบอมกินเค้กกัน” ดงแฮร้องอย่างร่าเริง ขณะที่ขยับกล่องเค้กหน้าตาน่ารักมาตรงหน้า แต่ก่อนที่ดงแฮจะก้มลงเอาช้อนตัก คิบอมก็ห้ามเสียก่อน มือใหญ่จัดการเอาเทียนปักแล้วเดินไปเปิดไฟหัวเตียงดวงเล็ก แล้วไปปิดไฟทั้งห้อง จากนั้นเดินมาจุดเทียนจนทั้งห้องสว่างอบอุ่นไปด้วยแสงไฟดวงน้อย

            “พี่ก็ไม่ได้ร้องเพลงนี้นานแล้วนะ” คิบอมบอกก่อนเป็นการแก้เขิน นัยน์ตากลมโตของดงแฮมองมาอย่างรอคอย จนกระทั่งเสียงทุ้มร้องเพลงๆ หนึ่ง

            “...เซลอิลชุกฮา ฮัมนีดา เซลอิลชุก ฮาฮัมนีดา ซารางฮานึล ดงแฮ ชี เซลอิลชุกฮาฮัมนีดา..”เสียงเพลงอวยพรวันเกิดที่คิบอมร้องขึ้น ขณะที่มองนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลของดงแฮเพื่อเปิดเผยความรู้สึกทุกอย่างที่มีต่อร่างเล็ก มือใหญ่กอบกุมมือเล็กไว้มั่น

            เสียงเพลงที่มีความหมายมากกว่าเพลงวันเกิด เพราะเพลงนี้...เมื่อสองเดือนที่แล้ว เป็นเพลงที่ทำให้คิบอมตัดสินใจกลับมาที่เกาหลี พร้อมกับหัวใจที่หลุดลอยไปตามเสียงเพลงกับประโยคที่ว่า

            ขอรอ

            แล้วในวันเกิดของดงแฮ เขาก็ควรจะเอ่ยบอกสิ่งที่เขารู้สึกบ้าง ดงแฮขอรอเขา แล้วเขาล่ะจะบอกรักดงแฮบ้างได้มั้ย

            “สุขสันต์วันเกิดนะครับ ดงแฮ...สุดที่รักของพี่” เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนตัวเล็กที่กำลังจะร้องไห้อีกครั้ง หยาดน้ำสีใสเอ่อคลอรอบดวงแก้วใสจนเป็นประกายวาววับล้อแสงเทียน

            “ขอบคุณฮะ..พี่คิบอม” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา แล้วก้มลงเป่าเทียนด้วยรอยยิ้มที่หุบไม่ลง

            แค่นี้ก็เป็นวันเกิดที่มีความสุขที่สุดแล้ว

            “เอ๋!” แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาจากเค้กก้อนเล็ก ดงแฮก็ต้องงุนงง เมื่อคิบอมยื่นซองเล็กๆ มาให้

            “ของขวัญวันเกิด เปิดดูสิ” คิบอมว่าพลางอมยิ้มด้วยแววตาประหลาด จนดงแฮต้องเอื้อมมือไปเปิด มือเล็กสัมผัสกระดาษแข็งหลายๆ แผ่น ก่อนจะดึงกระดาษเหล่านั้นออกมา

            เพียงเห็นว่าแผ่นแรกเป็นอะไร นัยน์ตาหวานก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองคนที่ขยับมากอดเขาไว้เสียแน่น

            “โปสการ์ด” เสียงหวานพึมพำเบาๆ ภาพแรกที่เป็นนครนิวยอร์กทำให้ดงแฮต้องเผยรอยยิ้มหวาน มือเล็กพลิกโปสการ์ดแผ่นแรกในมือทันที เป็นอย่างที่เขาคิด ตัวอักษรเป็นระเบียบทำให้ดงแฮยิ่งยิ้มกว้างขึ้น

                        ขอบคุณเมืองที่ทำให้ผมได้เจอคนที่รักที่สุด

            มือเล็กเปิดแผ่นที่สองขึ้นมา ภาพถ่ายของไทม์แสควร์คล้ายๆ ที่เขามีทำให้ดงแฮรีบพลิกไปด้านหลัง

                        ขอบคุณสถานที่ทำให้ใจของผมหลุดลอยไปหาคนตัวเล็กที่กำลังหลงทาง

            ภาพแผ่นที่สามเป็นภาพถ่าย..ภาพของสนามบินนานาชาติ JFK ที่ดงแฮเริ่มรู้สึกถึงสายตาที่พร่าไปด้วยหยาดน้ำใส

                        ขอบคุณสถานที่ที่ทำให้ผมตัดสินใจฝากหัวใจไว้กับมือเล็กที่ได้กุมมาทั้งวัน

            ภาพที่เหลือเป็นภาพถ่ายที่ดงแฮคิดว่าคงเป็นฝีมือของคิบอมเอง ที่ยิ่งเปิด ยิ่งพลิกดู น้ำตาก็จะไหลลงมาเสียให้ได้ จากนั้น ภาพของกรุงโซลที่เขาคุ้นเคยก็มาถึง

                        ขอบคุณสถานที่ทำให้ผมกลับมาเจอคนที่รักที่สุด

            และภาพแผ่นสุดท้าย เป็นภาพที่ทำให้น้ำหยดใสไหลลงมาช้าๆ อย่างกลั้นไม่อยู่ มือเล็กยกขึ้นปิดปากกลั้นก้อนสะอื้น ขณะที่พลิกภาพถ่าย..ที่เป็นภาพของเขาเองกำลังส่งยิ้มหวานมาให้

                        ขอบคุณคนที่ผมรักที่สุด ที่เวลานี้เราอยู่เคียงข้างกัน...พี่รักดงแฮ
                                                                                    คิมคิบอม

            “พี่..ฮึก..คิบอม” เสียงหวานเจือเสียงสะอื้นทำให้คิบอมกอดดงแฮให้แน่นขึ้น ลูบศีรษะเล็กที่ซบลงกับอกกว้างอย่างแผ่วเบา

            “ร้องไห้อย่างนี้ พี่ใจเสียนะ พี่ทำให้ด๊องร้องไห้อีกแล้วหรือเนี่ย” เสียงทุ้มเอ่ยปลอบพลางโยกคนตัวเล็กไปมาเบาๆ เหมือนกำลังปลอบเด็กน้อย

            “ขอบคุณ..ฮะ..ขอบคุณของขวัญ..ที่พี่ให้” เสียงหวานเอ่ยชิดอกกว้าง ทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด เพียงแค่คำรักของคิบอมก็ทำให้ร่างเล็กทำอะไรไม่ถูกเสียแล้ว

            รู้แต่มันตื้อไปหมด สมองขาวโพลน แต่สิ่งที่เขารู้อีกอย่าง ความสุข...มันล้นแทบจะทะลักออกมา

            มือเล็กดันอกกว้างเบาๆ ให้คิบอมคลายอ้อมกอดออก ก่อนจะก้มลงมองดงแฮที่เงยหน้าขึ้นมา

            “พี่คิบอมฮะ ไปกันเถอะนะ” เสียงหวานเอ่ยบอก หลังจากปาดน้ำตาของตัวเองลวกๆ คำชวนที่ไม่บอกชายหนุ่มก็รู้ดีว่าที่ๆ ดงแฮอยากไปคือที่ไหน

            “ไปสิ”

..................................................

            กริ๊ก

            กริ๊ก

            เสียงสองเสียงที่ดังขึ้นในเวลาไล่เรี่ยกัน ยามนี้ทั้งสองกำลังอยู่ที่เดียวกับเมื่อเดือนที่แล้ว...หอคอยกรุงโซลที่ตั้งเด่นอยู่ที่เดิม แม่กุญแจมากมายที่ถูกคล้องกับรั้วยาวขนาดใหญ่ ทำให้ทั้งสองยิ้มบาง ดงแฮล้วงแม่กุญแจสีฟ้าขึ้นมาก่อน ขณะที่คิบอมก็เอาแม่กุญแจสีเหลืองขึ้นมา แล้วส่งคืนเจ้าของชื่อบนนั้น

            แต่คราวนี้แม่กุญแจสีฟ้าไม่เพียงมีแต่ชื่อของคิบอมเท่านั้น ลายมือของคนตัวเล็กก็บรรจงเขียนลงไปว่า...

            คิมคิบอม เส้นทางในหัวใจของลีดงแฮ

            จนเจ้าของชื่อถึงกับยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นมาโอบเอวคนตัวเล็กที่เป็นฝ่ายคล้องแม่กุญแจสีเหลืองของตัวเองลงไปก่อน จากนั้นคิบอมก็คล้องแม่กุญแจสีฟ้าลงไปทับ มือใหญ่โอบเอวเล็กไว้มั่น

            “รัก”

            เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก คำเดียวสั้นๆ ที่มากความหมายในตัวของมันเอง คำรักที่คิบอมตั้งใจจะมอบให้กับลีดงแฮเพียงผู้เดียว

            “รัก”

            ไม่ต่างกัน คำเพียงคำเดียวที่ดงแฮมอบให้กับคิบอม คำเดียวที่มากล้นในความรู้สึก ขณะที่นัยน์ตาทั้งสองคู่มองแม่กุญแจทั้งสองสีที่เวลานี้คล้องกันเป็นหนึ่งเดียว และตัวอักษรที่ร้อยเรียงกันอยู่บนนั้น

            ลีดงแฮ แสงสว่างในใจของคิมคิบอม

            คิมคิบอม เส้นทางในหัวใจของลีดงแฮ

            แสงสว่างที่ส่องมอบเส้นทางสำหรับคนทั้งสองที่มาบรรจบกัน และจะเดินเคียงกัน...ตลอดไป

..........................................................

ส่งท้าย

            กว่าทั้งสองจะกลับมาที่หอพักของดงแฮ เข็มสั้นก็เลยเลขสิบสองมาแล้ว อากาศที่เย็นขึ้นในเดือนตุลาคมทำให้คิบอมต้องโอบไหล่เล็กที่เริ่มเย็นเฉียบ จนกระทั่งทั้งสองมาหยุดอยู่หน้าห้องของร่างบาง

            “ขอบคุณสำหรับวันเกิดปีนี้นะฮะพี่คิบอม” เสียงหวานว่าพลางส่งยิ้มหวานๆ มาให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า จนคิบอมต้องยิ้มตาม มือใหญ่ยกขึ้นไล้พวงแก้มนุ่มอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาทั้งสองคู่ที่สบตากันสื่อความหมายได้มากกว่าคำพูดใดๆ

            ใบหน้าคมคายก้มลงต่ำ ขณะที่ดงแฮปรือนัยน์ตาหวานลงรอรับสัมผัสที่คิบอมมอบให้ ริมฝีปากอุ่นร้อนกดลงที่กลีบปากนุ่มอย่างแผ่วเบา จากตอนแรกที่คิบอมเพียงจะกดจูบแล้วผละออก แต่กลิ่นหอมหวานของเรือนร่างเล็กที่แตะปลายจมูก ทำให้ริมฝีปากร้อนบดเบียดแรงขึ้น เคล้นคลึงริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบา ออกแรงดูดดึงกลีบปากบางจนดงแฮใจสั่น จนมือเล็กต้องเอื้อมมาคล้องลำคอหนาไว้ ขณะที่ถอยไปจนแผ่นหลังบางสัมผัสกับประตูห้องตัวเอง

            คิบอมส่งเกลียวลิ้นร้อนมาชิมรสริมฝีปากสีระเรื่อจนขึ้นสีวาววับ ความหอมหวานจากภายนอกที่ชายหนุ่มนึกอยากสัมผัสให้มากขึ้น เพียงออกแรงดุนดันเบาๆ ดงแฮก็เผยอริมฝีปากให้อย่างง่ายดาย ปลายลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปกวาดต้อนความหวานภายในที่เรียกเสียงครางแผ่วเบาจากลำคอ ชายหนุ่มส่งลิ้นเข้าเกี่ยวพันกับปลายลิ้นเล็กที่ไม่ประสาจนดงแฮต้องตอบรับอย่างไม่รู้ตัว

            ความร้อนจากปลายลิ้นที่ชำนาญงานของคิบอมทำให้ดงแฮแทบยืนไม่อยู่ มือเล็กขยุ้มเสื้อหลังคอของคิบอมเสียแน่น องศาของการจูบถูกคิบอมปรับเปลี่ยนให้สัมผัสกันแนบแน่นมากขึ้น ความรู้สึกแปลกใหม่ไหลอาบทั่วกายของดงแฮ ความหอมหวานที่แฝงความร้อนแรงขึ้นทำให้ร่างเล็กแทบระทวย

            จนกระทั่งคิบอมถอนริมฝีปากออก แต่ยังคลอเคลียแถวแก้มใส มองหน้าหวานที่แดงก่ำ ริมฝีปากสีระเรื่อที่บวมช้ำจากฝีมือของเขา แล้วไม่ทันรู้ตัวที่คำพูดของตัวเองหลุดออกมา

            “พี่เข้าไปได้มั้ย” แต่พอถามออกไป คิบอมก็ต้องชะงัก ผละห่างออกมาอีกหน่อย เมื่อดงแฮหน้าแดงก่ำราวกับคนเป็นไข้
           
            “เอ่อ..” เสียงหวานหลุดออกมาอย่างเขินอาย แต่ทำให้คิบอมรู้สึกตัว

            “ดูทำหน้าเข้าสิ พี่กลับแล้วดีกว่า เราก็พักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนเช้านะ” คิบอมว่าอย่างเอ็นดู วางมือที่ศีรษะได้รูปอย่างแผ่วเบา แล้วถอยห่างออกมาจากร่างเล็ก ก่อนที่เขาจะเป็นคนที่อดใจไม่อยู่ แต่ในจังหวะที่จะหมุนตัวกลับ เสียงหวานก็ดังขึ้นให้เขาต้องชะงักอยู่กับที่

            “เข้ามา..มั้ยฮะ” คำถามที่คิบอมต้องหันมามองร่างเล็กที่เม้มปากแน่น หน้าแดงก่ำ ก้มหน้างุดจนคางเกือบชิดอก

            “รู้ความหมายใช่มั้ยที่ถามพี่เนี่ย” ดงแฮกดหน้าลงเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองคิบอม ชายหนุ่มก้าวเข้ามาใกล้ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างจริงจัง

            “ถ้าไม่พร้อม พี่ไม่..”

            “เข้ามาเถอะฮะ” เสียงหวานพึมพำเบาๆ ถ้าคิบอมถามอีกที หน้าเขาไม่ระเบิดด้วยความอายหรอกหรือ ดงแฮหมุนตัวไปไขกุญแจห้องแล้วก้าวเข้าไปก่อน ขณะที่คิบอมชะงักไปวูบหนึ่งแล้วก้าวตามเข้าไป

            ในห้องที่มืดสนิท มีเพียงโต๊ะอาหารที่ยังมีจานส่วนหนึ่งวางไว้ มือเล็กจะกดเปิดไฟ หากแต่ถูกคิบอมดึงรั้งเข้ามาในอ้อมกอดเสียก่อน

            “ให้พี่เข้ามาแล้ว รู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เสียงทุ้มที่กระซิบถามทำให้ดงแฮกดหน้าลงช้าๆ รู้สึกดีที่ไม่ได้เปิดไฟขึ้นมา ไม่อย่างนั้นคิบอมต้องเห็นแน่ว่าเขาหน้าแดงแค่ไหน

            “ยังไงผมก็เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย” เสียงหวานพึมพำบอก เขาไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องรักษาตัวถึงคืนแต่งงานนี่นา

            รู้ว่าตัวเองรักพี่คิบอมมากพอจะให้มันพัฒนาไปมากกว่านี้

            พอได้ยินคำตอบ ร่างเล็กก็ต้องร้องเสียงหลง เมื่ออยู่ๆ คิบอมก็ช้อนร่างเขาขึ้น แล้วก้าวไปวางลงบนเตียงของดงแฮเอง ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟดวงน้อยที่เผยให้เห็นหน้าหวานของดงแฮอย่างชัดเจน

            ดงแฮใจเต้นแรง ก้มหน้างุดเมื่อคิบอมตามมาทาบทับ ความอบอุ่นจากเรือนกายยิ่งทำให้ร่างเล็กทำอะไรไม่ถูก นัยน์ตาคมกริบมองดวงหน้าหวานอย่างแสนรัก มือใหญ่ไล้แก้มใสไปมาอย่างแผ่วเบา

            “ไว้ใจพี่นะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก นัยน์ตาคมทอดมองมาด้วยความอ่อนโยน เจือไปด้วยความอ่อนหวาน จนคนฟังได้แต่กดหน้าลงทั้งที่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า

            ริมฝีปากอุ่นร้อนเคลื่อนลงมาประกบอีกครั้ง ขณะที่ดงแฮปรือนัยน์ตาลง รับสัมผัสอ่อนหวานที่คราวนี้แฝงความร้อนแรงมากขึ้นจนร่างเล็กรู้สึกได้

ตัดทิ้ง คลิกเลยค่า ^^

            ริมฝีปากได้รูปบดเบียดกับกลีบปากบางแรงขึ้นส่งมอบความปราถนาให้ร่างเล็กได้รับรู้ ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อนความหวานที่แสนติดตรึงใจ เกลียวลิ้นเข้าหยอกเย้ากับลิ้นเล็กที่สัมผัสตอบอย่างไม่ประสา ออกแรงดูดดึง บดคลึงกลีบปากนุ่มแรงๆ สร้างความร้อนที่พวยพุ่งขึ้นในกายของทั้งสอง

            องศาจูบถูกเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้งก่อให้เกิดเสียง และร่างกายที่สัมผัสกันแนบแน่นมากขึ้น

            “อื้อ..” เสียงหวานครางแผ่วจากลำคอ ก่อนที่ทั้งร่างจะกระตุก เมื่อมือใหญ่ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดเนื้อนิ่ม สัมผัสแผ่นท้องแบนราบอย่างแผ่วเบา

            “อื้อ..อ่ะ..” เสียงหวานหลุดรอดออกมาจากลำคอ เมื่อคิบอมผละริมฝีปากออกไล่จูบไปทั่วแก้มนิ่ม ผ่านแนวคางสวยมาที่ซอกคอหอมกรุ่น ริมฝีปากได้รูปดูดดึง ดุนดัน ผิวขาวเนียนอย่างกระหาย ฟันคมขบเม้มเบาๆสร้างรอยกุหลาบแดงเล็กๆ บนคอขาว

            แรงดูดดึงที่ดงแฮยิ่งกำไหล่หนาแน่น รู้สึกบิดเกร็งทั่วทั้งช่องท้อง ทั้งที่ควรจะรู้สึกเจ็บ แต่ดงแฮกลับหลุดครางออกมาแผ่วๆ ยิ่งมือใหญ่ลูบไล้ผิวกายเขา ดงแฮยิ่งบิดกายระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น

            “อ้ะอื้อ..พี่..อึก..คิบอม..” ดงแฮหลุดเสียงครางเสียงพร่า นัยน์ตาหวานหลับแน่น เมื่อมือใหญ่สัมผัสที่เม็ดทับทิมกลางอก คิบอมอมยิ้มเล็กๆ แล้วใช้นิ้วโป้งกดคลึงหมุนไปมาเบาๆ จนแข็งขืนสู้มือ ดงแฮหลุดเสียงครางออกมาอีกระลอก รู้สึกถึงความร้อนทั่วทั้งกายที่เพิ่มสูงขึ้นจนยากจะหยุดยั้ง

            และเสียงหวีดร้องยิ่งดังขึ้น เมื่อคิบอมใช้ฟันคมขบกัด สัมผัสแต้มตุ่มกลางอกผ่านผ้าเนื้อนุ่มจนเปียกชุ่ม เผยให้เห็นเม็ดทับทิมสีสวยที่สะท้อนในแสงไฟ

            “อาห์...” อกขาวเด้งขึ้นตามอารมณ์ มือเล็กกอดคอคิบอมดึงรั้งให้สัมผัสตัวเองมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

            ขณะที่มือใหญ่อีกข้างก็บดขยี้ที่ยอดอกอีกข้างแรงๆ ปรนเปรอสัมผัสแปลกใหม่ให้กับร่างเล็ก จนขาเรียวต้องจิกเกร็งกับที่นอนนุ่ม

            “อื้อ..พี่..อ่ะ..คิบอม” ฟันคมขบผิวขาวทั่วทั้งลำคอระหง ชิมผิวเนื้อนุ่มที่ให้รสหวานกว่าใครๆ ที่เคยสัมผัส

            จนกระทั่งคิบอมดึงเสื้อยืดหลุดออกไปจากลำคอ เผยให้เห็นร่างขาวผ่องที่ล้อแสงไฟ นัยน์ตาคมมองหน้าหวานที่แดงก่ำ นัยน์ตากลมโตฉ่ำปรือด้วยหยาดน้ำใสที่ถูกอารมณ์ร้อนเข้าครอบงำ ริมฝีปากสีระเรื่อที่เจ่อบวมหอบหายใจแรงๆ

            ภาพที่ยั่วยวน สร้างอารมณ์ให้ชายหนุ่มยิ่งกว่าที่เคยสัมผัสจากใคร

            “สวยมาก” คิบอมกระซิบชิดริมฝีปาก ก่อนจะก้มลงมอบจูบร้อนให้คนตัวเล็กอย่างไม่รู้จบ มือใหญ่ลูบไล้ผิวกายที่นุ่มลื่นมือ จนร่างเล็กต้องบิดกายเร่า ยามนี้มือเล็กกำแน่นที่ผ้าปูที่นอนจนยับยู่ รู้สึกถึงช่องท้องที่กำลังบิดเกร็ง

            “อ๊าห์..อื้อ..อึ้ก..”ดงแฮถึงกับหวีดออกมาเบาๆ เมื่อคิบอมเลื่อนมือไปสัมผัสที่แก่นกายเล็กผ่านเนื้อผ้า บดเบียดแรงๆจนศีรษะเล็กสะบัดไปด้านหลัง พยายามกัดริมฝีปากกั้นเสียงร้องน่าอายของตน แต่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งมือร้อนผ่าวล้วงเข้าไปในกางเกง ดงแฮก็ครางหอบอย่างแรง จนกระทั่งปราการด่านสุดท้ายถูกถอดออกไปจนหมด เผยให้เห็นเรือนกายที่แสนงดงาม หน้าหวานก็ต้องเบือนหนีไปทางอื่นด้วยความอาย เมื่อคิบอมมองมาด้วยนัยน์ตาวาววับ

            มือใหญ่สัมผัสที่แก่นกายเล็กที่ตื่นตัว ลูบไล้เบาๆ จนเสียงหวานครางกระเส่า กอบกำแล้วชัดรูดเบาๆ แล้วขยับให้แรงขึ้น จนดงแฮผวากอดคิบอมเสียแน่น

            “อื้อ..พี่คิบอม..อ้ะๆ..” เสียงหวานร้องจวนเจียนขาดใจ เมื่อคิบอมก้มลงกดจูบที่แผ่นท้องขาวเนียน แหย่ลงในช่องเล็ก พรมจูบแรงๆ จนต้องเด้งแผ่นท้องขึ้นตามสัมผัส ขณะที่มือใหญ่ก็ปรนเปรอไม่ห่าง

            ความสุขสมที่กำลังใกล้เข้ามา ทำให้สะโพกเล็กขยับสวนทางกับมือใหญ่ของคิบอมแรงๆ เสียงหอบหายใจดังก้องทั่วห้องเล็ก ขณะที่คิบอมก็กดจูบที่ริมฝีปากสีระเรื่อที่จูบตอบอย่างรุนแรง

            ร่างเล็กกระตุกเร็วๆ หลายครั้ง ก่อนที่สายน้ำอุ่นจัดจะพุ่งเลอะทั่วทั้งมือใหญ่ ร่างที่อ่อนแรงก็นอนระทวยลงกับเบาะนุ่ม ขณะที่คิบอมมองร่างขาวผ่องที่แดงก่ำด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปราถนา

            “อื้อ...” ริมฝีปากอุ่นร้อนตามมาทาบทับที่กลีนปากสีเชอร์รี่อีกครั้ง เพราะตอนนี้คิบอมเองก็แทบไม่ไหวแล้ว ความต้องการแล่นขึ้นมาจนอยากจะเข้าไปในตัวของคนตัวเล็กเสียเดี๋ยวนี้

            “ดงแฮ...ถอดเสื้อให้พี่ที” คิบอมเอ่ย ขณะที่กัดริมฝีปากแน่น ข่มอารมณ์ที่ต้องการแทบบ้า มือใหญ่ก็ลูบไล้ที่ช่วงขาเรียวขาว จนดงแฮต้องครางแผ่วๆ มือเล็กรีบถอดเสื้อให้คิบอมทั้งที่ตัวเองแทบไร้เรี่ยวแรง จนกระทั่งเห็นแผ่นอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนออกกำลังกาย

            “กางเกงด้วย” เสียงทุ้มกระซิบบอก ที่ดงแฮทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน เพราะยามนี้มือใหญ่ก็สัมผัสที่สะโพกของร่างเล็กแล้วขยำแรงๆ จนดงแฮรู้สึกถึงความร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง แต่เมื่อกำจัดอาภรณ์ชื้นสุดท้ายไปได้ ร่างเล็กก็ต้องหน้าแดงก่ำ เมื่อมองแก่นกายร้อนผ่าวของคิบอมที่ตื่นเต็มตัว

            จูบร้อนผ่าวตามมาประกบอีกครั้ง ขณะที่ดงแฮก็โอบรอบลำคอแกร่งแน่น เสียงครางหลุดออกมาอีกครั้ง เมื่อคิบอมซุกไซร้ที่แผ่นอก ดูดเม้มจุดไวต่อสัมผัสแรงๆจนอกขาวต้องเด้งขึ้น

            “อ๊าห์...พี่คิบอม...อ่ะ” ดงแฮครางเสียงพร่า เมื่อคราวนี้คิบอมชันขาเรียวขึ้น แล้วดันให้แยกออก เผยให้เห็นช่องทางสีสดที่เต้นตุบอยู่ดึงดูดสายตาเสียจนคิบอมต้องก้มลงใช้ริมฝีปากแลบเลียแรงๆ

            “อ๊าห์..อื้อ..อึ้ก..” เสียงหวานหวีดร้องไม่เป็นภาษาเมื่อสัมผัสถึงความชื้นที่ช่องทางด้านหลัง มือเล็กกำผ้าปูที่นอนแน่น ขณะที่ขยับสะโพกให้สูงขึ้นตามแรงสอดแทรกจากปลายลิ้นร้อน กายขาวบิดเร้าแรงๆ ขณะที่ศีรษะเล็กก็สะบัดไปด้านหลัง คิบอมแบะก้นนุ่มให้แยกออกมากขึ้นเพื่อสำรวจช่องทางเล็กให้ลึกขึ้น

            ขณะที่แก่นกายเล็กก็เริ่มฉ่ำด้วยหยาดน้ำขุ่นอีกครั้ง คิบอมผละกายขึ้นมามองหน้าหวานที่หอบหายใจแรงๆ

            “อ๊า..อื้อๆ...” เพียงแค่ปลายนิ้วกดวนอยู่ที่ช่องทางสีสด ดงแฮก็ยกสะโพกขึ้นอย่างเสียวซ่าน ริมฝีปากถูกขบเม้มหลายต่อหลายครั้ง คิบอมสอดแทรกปลายนิ้วเรียวที่เต็มไปด้วยน้ำสีขุ่นของดงแฮเข้าไป จนร่างเล็กกระตุก ใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเจ็บปวด

            “มองพี่นะคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ขณะที่มองหน้าหวานด้วยความปราถนา นิ้วเรียวยาวก็เริ่มขยับสร้างความคุ้นเคยให้ร่างเล็ก มืออีกข้างขยำสะโพนมนแรงจนดงแฮต้องครางแผ่วๆ

            “พี่คิบอม...อ๊า...พี่คิบอม...” เสียงหวานครางเรียกชื่ออีกฝ่ายไม่ขาดปาก เมื่อรู้สึกถึงนิ้วเรียวยาวที่เพิ่มจำนวนเข้ามาเรื่อยๆ และขยับเข้าออก หมุนวน สร้างความคุ้ยเคยให้ แต่แรงตอดรัดเป็นจังหวะจากช่องภายในก็ทำให้คิบอมแทบบ้าด้วยความต้องการ

            ริมฝีปากร้อนผ่าวกดจูบมอบความหวานให้ร่างเล็กอีกครั้ง ยามที่ถอนนิ้วเรียวออกมา ปลายแก่นกายใหญ่ที่ฉ่ำด้วยหยาดน้ำขุ่นเข้าไปแทนที่ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้ดงแฮจิกที่ไหล่หนาแน่น น้ำตาหยดใสไหลลงมาช้าๆ ความเจ็บปวดที่คิบอมรู้สึกได้จนอยากจะหยุดยั้งการกระทำของตัวเองไว้เสียตรงนี้

            เขาไม่อยากให้ดงแฮเจ็บ

            “พี่คิบอม..อื้อ..ผมไหว..” เสียงหวานร้องบอก เมื่อเห็นว่าคิบอมก็ต้องการไม่ต่างจากความเจ็บปวดของเขา คำบอกแสนหวานที่คิบอมเบี่ยงเบนความสนใจจากร่างเล็กด้วยจูบร้อน มือใหญ่เอื้อมมาสัมผัสแก่นกายเล็กแล้วขยับไปด้วยกัน

            ผ่านไปสักพักความเจ็บปวดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสม เมื่อดงแฮเริ่มคุ้นเคย แก่นกายใหญ่ที่ขยับอย่างเชื่องช้าในคราแรก เริ่มเพิ่มแรงกระแทกกระทั้นมากขึ้น ขณะที่ดงแฮก็ยิ่งอ้าเรียวขาขาวให้กว้างขึ้น

            “อ้ะ..พี่คิบอม..อื้อ..ตรง..นั้น..อีก..อ่า” เสียงหวานครางไม่เป็นภาษา เมื่อคิบอมกระแทกโดนจุดอารมณ์ภายใน ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านที่ได้รับ ขณะที่ขยับกายรับจังหวะที่คิบอมสวนกายเข้ามา

            จังหวะสอดประสานกันของคนทั้งคู่ ดังเคล้าไปกับเสียงคราง ร่างกายที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
           
            “อื้อ..อ้ะ..จะไม่...ไหว..อ๊าห์..”ดงแฮครวญครางเสียงพร่าบอกอีกฝ่าย ขณะที่ร่างเล็กกระตุกแรงๆ หลายที เสียงหวานครางถี่ จนคิบอมต้องเร่งจังหวะให้มากขึ้น

            “อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงหวานครางลั่น ไปถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด แต่ก่อนที่ร่างจะล้มลงกับฟูกนุ่ม อ้อมกอดแกร่งก็โอบรัดร่างเล็กไว้แน่น ขณะที่ขยับกายให้แรงขึ้น กระชับขาเรียวที่โอบรอบเอวสอบเอาไว้

            “อืมมมมมมมมมมมมมมม”เสียงทุ้มครางต่ำในเวลาต่อมา ฉีดพ่นน้ำอุ่นร้อนที่เข้าไปในกายเล็กจนไหลย้อนออกมา ขณะที่ซุกซบกับซอกคอหอมกรุ่น ทิ้งกายลงหาร่างเล็กสักพัก ถอดถอนแก่นกายก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่ยังหอบหายใจอยู่

............
..........................
.....................................
..............................................

            “พี่รักดงแฮนะ” เสียงทุ้มกระซิบบอก ขณะที่ไล้แก้มใสที่ชื้นเหงื่อเบาๆ จนคนที่ยังเขินกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก้มหน้างุด

            “ผมก็..รักพี่ฮะ” คำตอบรับที่คิบอมยิ้มกว้าง ดึงรั้งคนตัวเล็กที่เหนื่อยจัดเข้ามาอ้อมกอด ลูบศีรษะเล็กอย่างแผ่วเบากล่อมให้ดงแฮเข้าสู่นิทราโดยที่บนใบหน้าหวานก็มีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับอยู่

            ความอบอุ่นจากเรือนกาย และความอบอุ่นจากใจของทั้งสอง ทำให้ทั้งคู่หลับไหลในเวลาต่อมา ด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความสุข ขณะที่มือใหญ่ก็โอบรอบเอวเล็กอย่างแสดงการปกป้อง ใบหน้าหวานก็ซุกซบกับอกกว้างบอกความไว้วางใจทุกอย่างที่มอบให้แก่ร่างสูง

            จากวันเกิดของคิบอมที่เลยผ่านมาถึงวันเกิดของดงแฮ ช่วงเวลามีค่าที่มอบความรู้สึกที่มีต่อกัน

            พวกเขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้พวกเขารู้เพียงว่ามีกันและกัน หัวใจทั้งสองที่ได้เคียงคู่กันบนเส้นทางเดียวกัน ที่ทำให้ใจทั้งดวงพลันอบอุ่นไปด้วยความสุขที่เอ่อล้น

            ความสุขที่มาพร้อมกับคำว่า...รัก

            หัวใจทั้งสองดวง ต่างสถานที่ ที่เดินทางมาเจอกัน เกาะเกี่ยวเป็นคำว่ารัก ที่พวกเขาจะรักษา..รักนี้..ตลอดไป

..........................................


            มาแล้วค่ะ การเดินทางของหัวใจพวกเขาที่ตอนนี้เกาะเกี่ยวกันด้วยคำว่ารัก จบแล้วกับสามตอนที่ต่อเนื่องกันในสามวันสำคัญ คิดเห็นยังไงบอกได้นะคะ
            แล้วมาร่วมอวยพรกับคนสวยกันดีกว่า
            ขอเถอะว่าอัลบั้มหน้าคิมคิจะกลับมา ยังไงก็แล้วแต่ก็ขอให้คนสวยมีความสุขมากๆ นะคะ น่ารักอย่างนี้ตลอดไป
            รักปลา หลงปลา และเชื่อในคิเฮค่ะ ^^




วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

NC LL ตอนพิเศษ : หวงหลาน (?)

NC LL ตอนพิเศษ : หวงหลาน (?)



            RRRRRRRrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

            เสียงโทรศัพท์กรีดร้องดังก้องไปทั่วห้องนอนกว้างที่ทำให้คนที่อยู่ในห้วงอารมณ์รักรู้สึกตัว ทว่า ฮยอกแจไม่คิดจะรับสายในเวลานี้ เพียงเร่งริมฝีปากให้เร็วขึ้น แอ่นตัวรับสัมผัสของปลายนิ้วที่ทำให้ร่างแทบจะระเบิดพรูเป็นเสี่ยงๆ ผิดกับฮันคยอง

            “พอแล้ว ฮยอกแจ” มาเฟียหนุ่มดึงร่างน้อยที่กำลังมอบความสุขให้เขาออก พร้อมกับดึงปลายนิ้วออก ที่ทำให้ฮยอกแจสะดุ้งวาบ ดวงตาฉ่ำน้ำเงยขึ้นอย่างเว้าวอน

            “อา...ฮยอกแจ...ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว...อึ้ก...ฮยอกแจต้องการ...ต้องการของอา...” เสียงร้องขอที่ดังพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ที่แผดเสียงลั่น ทำให้ฮันคยองดึงร่างเล็กมานั่งตัก แล้วเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ของฮยอกแจขึ้นมา

            ตาคมเหลือบมองหน้าจอเพียงนิด แม้เสียงรอสายนี้จะสำหรับคนในครอบครัว แต่คราวนี้...ไม่ใช่ลีแตฮี

            “รับสิ ไอ้คิบอมโทรมา” ฮันคยองกระซิบชิดริมหูคนที่ถูกจับมานั่งซ้อนตัก จนฮยอกแจที่กำลังถูกแก่นกายใหญ่เสียดสีที่ปากทางเข้าส่ายหน้าแรงๆ

            “ตะ...แต่...”

            “มันคงเป็นห่วง” ทว่า คำของฮันคยองก็ทำให้ร่างน้อยเม้มปากแน่น ส่งมือที่สั่นระริกไปรับโทรศัพท์มาถือไว้ เสียงที่เงียบและดังขึ้นใหม่ทำให้รู้ว่าอาแท้ๆ คงเป็นห่วง จนได้แต่กดรับมือไม้สั่น

            “ฮะ...อา...” เสียงหวานสั่นระริก เมื่อคนด้านหลังกำลังบีบขยี้ยอดอกสีหวานแรงๆ เอวเล็กก็ทำได้เพียงส่ายร่อนไปมา

            “เป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าตัวเล็ก แล้ววันนี้ไปค้างกับไอ้ฮันหรือ ทำไมไม่โทรบอกอา” เสียงของอาหนุ่มที่ดูแปลกใจไม่น้อยดังมา ทำให้ฮยอกแจที่กัดปากแน่นบอกเสียงสั่นเทา

            “ฮะ...ฮยะ...ฮยอกแจมาค้างกับอาฮัน...ขะ...ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอก...”

            หมับ

            “!!!” คนที่กำลังคุยกับอาแท้ๆ เบิกตากว้าง เมื่อเอวเล็กถูกดึงขึ้นจนแก่นกายใหญ่จ่อชิดอยู่ที่ช่องทางด้านหลัง ความตื่นกลัวและตื่นตัวพุ่งวาบเข้ามาในอก ยามฟังเสียงคิบอมบอกมาตามสาย

            “ไม่สบายหรือฮยอกแจ อาว่าเสียงเราแปลกๆ”

            “มะ...ไม่...ยะ...อย่าอาฮัน...อย่าเพิ่ง...”

            ฟึ่บ

            ตุบ

            “อ๊าาาาาาา!!!” ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะตอบคำจนจบ ร่างทั้งร่างก็สะดุ้งเฮือก เสียงห้ามเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดร้องสุดเสียง มือปล่อยโทศัพท์ให้หล่นตุบลงกลางเตียงนอน ยามที่แก่นกายใหญ่กดสอดเข้ามาในช่องทางที่พรั่งพร้อมทีละน้อย มือเรียวเกาะเกี่ยวตัวคนด้านหลังไว้ ยามที่หอบหายใจรุนแรงกับความต้องการที่พุ่งขึ้นสูงจนน่ากลัว

            ความต้องการที่มากพอให้ฮยอกแจเป็นฝ่ายกดกายรับจนกายทั้งสองแนบชิดเป็นเนื้อเดียว ไม่สนใจแล้วว่าอาหนุ่มจะอยู่ที่ปลายสาย ไม่สนใจแล้วว่าอาหนุ่มฟังอยู่ทุกคำ เมื่อการที่ถูกหยอกเย้ามาตลอดกำลังทำให้ร่างกายไม่ไหวอีกต่อไป

            ฟึ่บๆ

            “อ้ะ...อา...อาฮัน...ฮื่อ...” ฮยอกแจปิดปากตัวเองแน่น ยามที่เป็นฝ่ายดึงกายขึ้นแล้วขย่มลงแรงๆ จนแก่นกายใหญ่ฝังลึกเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ฮันคยองก็คำรามต่ำๆ มือใหญ่เอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ที่วางนิ่งอยู่บนเตียง

            “ฮยอกแจอยู่กับกู เท่านี้นะ ไม่ว่าง” ฮันคยองว่าจบก็กดตัดสายแล้วโยนมันทิ้งอย่างไม่สนใจเสียงของเพื่อนสนิทที่คำรามลั่น แน่นอนว่าได้ยินและรับรู้แล้วว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ ในเมื่อ...

            “อา...อาแกล้ง....อึ้ก...ฮยอกแจ...แกล้ง...” คนที่เข้าใจแล้วว่าอายยิ่งกว่าตอนแรกเป็นยังไงบอกเสียงสั่น แต่เรือนร่างเล็กก็ไม่หยุดแรงที่ขย่มขึ้นลงด้วยอารมณ์ที่พัดโหมไปไกล ใบหน้าเรียวได้เพียงหันมามองด้วยตาฉ่ำน้ำ บอกเสียงสั่นระริกที่ทำให้ฮันคยองขยับไปขยี้ริมฝีปากแรงๆ

            “แล้วอาจะยิ่งกว่าแกล้งให้ดู”

            ฟึ่บ

            ว่าจบปุ๊บ ฮยอกแจก็ถูกดันให้ให้อยู่ในท่าคลาน ร่างกายช่วงบนแนบไปกับเตียงนุ่ม ขณะที่สะโพกถูกดึงสูง ก่อนที่...

            “อ๊าาาาาาาา...ระ...แรงไป..แรง...ฮยอกแจ...อ้ะอ๊า...มะ...ไม่...อื้อ...ไม่ไหว...อึ้กๆ...อา...อา...” คนตัวเล็กเบิกตากว้าง สองมือขยุ้มเตียงแทบจะดึงมันขาดคามือ เมื่อแก่นกายใหญ่สวนเข้ามารัวแรง ทว่ามันไม่ได้เจ็บ แต่มันกำลังทำให้ร่างทั้งร่างสุขสมมากจนเกินไป มากจนแทบจะลืมหายใจ ทำได้เพียงแอ่นกายรับ จนเนื้อตัวสั่นคลอน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องรุนแรงไปทั่วห้อง

            เสียงที่ดังคลอไปกับเสียงหวีดหวานที่ครางกระเส่า

            “อาห์...ว่าอาแก่...ไม่ได้แล้วนะ...”

            “อ้ะ...อาห์...มะ...ไม่ว่าแล้ว...ไม่...อา...อาฮะ...ตรงนั้น...ตรงนั้นอีก...” ฮยอกแจส่ายส่ายหน้าแรงๆ ยามที่รองรับความต้องการที่กดกระแทกเข้ามาเสียดสีกับผนังอ่อนนุ่มที่กำลังบีบรัดตัวอย่างรุนแรง คลื่นความปรารถนาที่แสนดิบเถื่อนคลุ้งไปทั่วทั้งห้องนอนกว้างจนคนได้รับแทบขาดใจ

            ฟึ่บ

            แต่แล้ว ฮันคยองก็พลิกร่างเล็กแล้วดึงขาข้างหนึ่งให้สูงขึ้นจนเห็นเนื้อตัวขาวผ่องอย่างชัดเจน ขณะที่แก่นกายใหญ่ก็ผ่อนแรงลงเพียงนิด แล้วกดสอดลึกเข้าไปย้ำๆ จนคนได้รับหอบสะท้าน มือเรียวส่ายเปะปะไปทั่วกับความร้อนแรงที่มากขึ้นเรื่อยๆ

            “จูบ...จูบฮยอกแจที...อาฮะ...อา...” คำขอที่ฮันคยองโน้มตัวไปขยี้จูบปากเล็กอย่างรุนแรง ขณะที่ฮยอกแจก็อ้าปากรับอย่างต้องการความหวานมาช่วยดับความร้อนที่รุนแรงนี้สักนิดก็ยังดี

            จูบร้อนที่ต่างฝ่ายต่างประกบเข้ามา ลิ้นนิ่มพลิกแพลงไปมาในโพรงปากเล็กเพื่อสัมผัสกันให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม

            ก่อนที่ร่างของฮยอกแจจะกระตุกถี่ มือเรียวคว้าจับกำหมอนใบนุ่มไว้แน่น สะโพกเล็กแอ่นขึ้น พร้อมกับเสียงหวีดหวานที่ดังก้องไปทั่วห้องกว้าง

            “อ๊าาาาาาาาาาา!!!!!” เสียงหวีดร้องที่มาพร้อมกับน้ำรักที่พุ่งเลอะเปรอะเปื้อนแผ่นท้องของคนทั้งคู่ ขณะที่ฮันคยองยิ่งโถมกายตามคนรักตัวเล็กไปไม่ห่าง เสียงทุ้มก็คำรามก้อง ใบหน้าคมคายดูเต็มไปด้วยอารมณ์รักที่แสนรุนแรงจนคนที่นอนหมดเรี่ยวแรงหรี่ตาขึ้นมอง

            ภาพที่ทำให้คนที่รองรับใจสั่นหวิว ใบหน้าคมคายของคนที่รักที่สุดที่กำลังดื่มด่ำความสุขจากร่างกายของเขา แม้จะรุนแรงหนักหน่วง แต่เขากลับไม่เจ็บเลยกับการกระทำที่เกิดขึ้น มีเพียงความสุข ความซ่านในอารมณ์ที่กำลังจะถูกปลุกมันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

            “ฮยอกแจรักอาฮัน...รักอา...” เสียงหวานเอ่ยบอกราวเสียงกระซิบที่ทำให้ฮันคยองชะงัก แล้วโถมตัวไปกอดรัดร่างเล็กแน่น ความต้องการมาถึงสุดปลายทาง เสียงคำรามดังก้อง ปลดปล่อยความรักเข้าเต็มช่องทางคับแคบจนร่างน้อยสะดุ้งวาบ

................................

กลับไปอ่านต่อที่



ขอบคุณค่ะ