วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

NC Hip Hop Girls_14

NC Hip Hop Girls_14



            “อปป้า~อ๊า...อย่าสิ...อะ...อปป้าอย่าจับตรงนั้น...”

            ภายในห้องที่มืดทึบ เสียงครางพร่าหวานดังสะท้อนไปทั่ว เรือนร่างขาวนวลเนียนของคนที่นอนบิดตัวเร้าอยู่บนเตียงนอนนุ่มก็กำลังหน้าแดงระเรื่อ ผิวกายเปลือยเปล่าเปลี่ยนเป็นสีชมพูน้อยๆ จากแรงฟอนเฟ้นของฝ่ามือหยาบกร้านที่แตะต้องไปทั่วทุกอณูผิว ยามที่เรือนร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มก็คร่อมทับอยู่ด้านบน

            แสงไฟจากภายนอกที่สาดส่องเข้ามาสะท้อนให้เห็นภาพเงาที่แสนเลือนลางของชายหนุ่มเจ้าของเรือนกายแข็งแกร่งผิวสีคร้ามแดด ใบหน้าคมคร้ามก็กำลังก้มลงพรมจูบที่แผ่นอกบอบบาง ปลายลิ้นร้อนผ่าวกำลังตวัดเกี่ยวที่ส่วนนุ่มนิ่มแล้วหมุนวนช้าๆ ที่ยั่วเย้าอารมณ์รักของคนข้างใต้จนยิ่งทรมานไปทั่วสรรพางค์กาย

            หมับ

            สองฝ่ามือนุ่มยกขึ้นซอนไซ้ไปตามกลุ่มผมหนาตามแรงอารมณ์ ก่อนที่จะกำขยำมันเอาไว้ เมื่อริมฝีปากแสนร้ายกาจกำลังหยอกล้อกับส่วนสีชมพูระเรื่อที่กำลังแข็งตึงเพราะความเปียกชื้น สองฝ่ามือใหญ่ก็เลื่อนลงต่ำ ก่อนที่จะแตะที่ท่อนขาเรียวขาวอย่างเบามือ

            “อ๊า~ อปป้า...ยะ...อย่า...เสียวจัง...” เสียงครางพร่าหวานดังคลอเคลียไปกับเสียงของผิวกายร้อนรุ่มที่ขยับเข้ามาเสียดสีกันจนเกิดจังหวะอารมณ์ที่แสนน่าอาย ใบหน้าหวานก็ทำได้เพียงเชิดรั้งขึ้น แหงนเงยเปิดทางให้ริมฝีปากร้อนเข้าซุกไซ้ไปทั่วลำคอระหง ดวงตากลมโตหรี่ปรือเต็มเปี่ยมด้วยหยาดอารมณ์ที่แทบล้นทะลักออกมาในร่าง

            หวานซ่าน รัญจวนใจเจือไปด้วยความทรมานอันแสนสุข...จนไม่อยากให้มันหยุดลงเลยสักวินาทีเดียว

            “หวานไปทั้งตัวเลยรู้มั้ย...” เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นชิดผิวเนื้อเนียน ยามที่ใบหน้าคมคายยังคงซุกไซ้โลมเลียไปทั่วแผ่นอกขาวนวลเนียน ฝ่ามือหยาบกร้านก็กำลังขยับลงมาสอดใต้เรียวขาขาวผ่อง ก่อนที่เลื่อนลึกเข้าไป จนเรือนร่างเล็กยิ่งบิดเร้าด้วยความเสียวกระสัน

            “อ๊า...ยะ...อย่าจับ...ตรงนั้น...” ร่างขาวเนียนยังคงร่ำร้องขอความเมตตา แต่ฝ่ามือหยาบกลับขยับไปจับกำเข้าที่ส่วนอ่อนไหวสีระเรื่ออย่างเบามือ ฝ่ามืออีกข้างก็ขยับรั้งเรียวขาขาวผ่องให้อ้าออกกว้างอย่างที่ร่างน้อยก็ไม่อาจจะปฏิเสธสัมผัสนี้ได้

            หมับ

            สองมือขาวกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยหยาดหยดของอารมณ์ ดวงตาหรี่ปรือ ขาเรียวเปิดอ้าออกเผยเรือนร่างแสนสวยงามให้อีกฝ่ายได้มองเห็นทั่วทุกซอกมุม

            ภาพที่ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผละขึ้นมาสบสายตา แสงไฟจากภายนอกส่องสะท้อนเข้ามาเห็นใบหน้าคมที่แสนหล่อเหลาและดวงตาคมเข้มที่กำลังทอดมองเรือนร่างน้อยอย่างแสนรัก จนร่างข้างใต้ครางเสียงแผ่ว

            “อปป้า....คิบอมอปป้า~...ยะ...อย่ามอง...”

            เสียงครางหวานที่ทำให้ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมกริบก็กวาดมองร่างน้อยที่ยิ่งกายร้อนรุ่มหนักกว่าเดิม ดวงตากลมโตสั่นระริกยามที่ก้มมองฝ่ามือใหญ่ที่กำลังเลื่อนมาแตะที่ช่องทางสีหวานอย่างเบามือ เสียงทุ้มก็ว่าต่อ...

            “ทำไมอปป้าจะมองดงแฮของอปป้าไม่ได้ล่ะครับ”

            เสียงนุ่มนวลชวนฝันที่ลอยมาจากที่ไกลๆ พร้อมกับปลายนิ้วยาวที่กำลังกดสอดเข้ามาในช่องทางสีระเรื่ออย่างเชื่องช้า จนร่างข้างใต้ทำได้เพียงเผยอปากเปล่งเสียงครวญคราง...

            “คิบอม...อปป้า อ๊าาา~~”


..............................

.............................................

........................................................

....................................................................


            พรวด

            “แฮ่กๆ...แฮ่กๆ...”

            ท่ามกลางความมืดมิดของหอพักที่ปิดไฟมืดสนิทมาได้หลายชั่วโมง ร่างบอบบางของคนที่นอนบิดกายเร้าอยู่บนเตียงนอนนุ่มมาสักพักใหญ่ๆ ก็สะดุ้งพรวดขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงด้วยเสียงหอบหายใจ ชุดนอนชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยหยดน้ำใสจนหวานฉ่ำเยิ้ม เรียวปากสีแดงจัดเผยอออกราวกับเมื่อครู่กำลังจะเปล่งเสียงครวญคราง ความร้อนรุ่มยังคงโอบรัดไปทั่วทุกอณูผิว ก่อนที่ดงแฮจะสัมผัสได้ว่าอยู่ที่ไหน

            “ฝัน...ฝันหรือ...เมื่อกี้...ฝัน” เสียงหวานแหบพร่าแทบจะไร้เสียงออกมาจากลำคอ จนคนตัวบางทำได้เพียงกลืนน้ำลายหนืดๆ ลงไป สองมือยกขึ้นปิดหน้าตัวเองแน่น เมื่อภาพความฝันยังคงชัดเจนในความรู้สึก

            ใบหน้าที่แสงไฟสาดส่องไปถึงนั้นคือพระเอกหนุ่มคิมคิบอมไม่ผิดแน่ เรือนกายแข็งแกร่งที่มีมัดกล้ามเรียงตัวสวยกำลังขยับแนบชิดกับเนื้อตัวขาวเนียนของเขาอย่างแนบแน่น...ฝ่ามือที่สอดรั้งลงใต้ขา...

            หมับ

            “ไม่ ดงแฮ!!! หยุดคิดนะ มันก็แค่ฝัน...แค่ฝัน...เท่านั้นเอง!!” ความคิดที่กำลังทำให้ขาเรียวกำลังเบียดขาชิดกันมากยิ่งขึ้น แต่คนหน้าหวานก็จัดการกำผ้านวมผืนนุ่มที่เปียกชื้นเอาไว้แน่น เสียงหวานก็ดังขึ้นราวกับบอกให้ตัวเองหยุดความคิดนี้เสียที ใจดวงน้อยก็หล่นตุบไปที่ตาตุ่มว่าเขา...เอาผู้ชายคนนั้นมาฝันเป็นคืนที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

            “เพราะพี่ทึกแน่ๆ เพราะงานที่พี่ทึกให้ทำแน่ๆ ถึงเพ้อเจ้อขนาดนี้!” ดงแฮบอกตัวเองเสียงเข้ม ฟันคมขบริมฝีปากตัวเองแน่นจนเจ็บ เพื่อให้มันลืมเลือนความฝันแสนรัญจวนใจเมื่อครู่ไปซะ

            ความฝันที่เขาเรียกคิมคิบอมว่าอปป้าอย่างเต็มใจ เรือนร่างที่ขยับส่ายซ่านให้อีกฝ่ายสัมผัสก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการที่อยากให้ผู้ชายคนนั้นแตะต้อง...

            “ไม่!!! เพราะไอ้พระเอกบ้านั่นมันส่งข้อความมาต่างหาก ใช่ เพราะแบบนั้นแน่ๆ” ดงแฮยังคงปลอบใจตัวเอง ในเมื่อก่อนที่เขาจะล้มตัวลงนอน คนบ้าที่รู้ว่าเขาคงไม่รับโทรศัพท์แน่ๆ ก็ส่งข้อความมาให้ว่า

                        ฝันดีนะครับ หวังว่าจะฝันถึงพี่บ้าง ไว้เจอกันที่กอง
                                                                        คิมคิบอม

          เพราะข้อความบ้าๆ นั่นแน่ที่ทำให้เขาหลับฝันถึงคนแบบนั้น

            ความคิดที่ทำให้ดงแฮยิ่งจิกผ้าห่มผืนนุ่มเอาไว้แน่น ใจดวงน้อยกลัวแสนกลัวเมื่อเพียงต้องรู้ว่าจะได้ใกล้ชิดกับคิบอมท่ามกลางคนมากมาย หัวใจเขาก็สั่นจนน่าขัดใจ แล้วยิ่งมีความฝันบ้าๆ แบบนี้อีก เขาจะทำงานอย่างที่พี่ทึกอยากให้ทำได้ยังไง!!!

            “อึ้ก...ร้อน...เพราะคุณคนเดียวเลย...เพราะคุณ...” ดงแฮได้แต่บอกเสียงเบาหวิว ยามที่สัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ตรงกลางร่างกาย ขาเรียวที่ขยับเบียดชิดก็ทำได้เพียงขยับถูไถเบาๆ ราวกับจะช่วยบรรเทาความต้องการที่กำลังเปียกชุ่มในกางเกงได้ แต่นั่น...กลับทำให้ต้องการยิ่งกว่าเดิม

            ฟึ่บ

            “ฮือ ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ตอนตีสองด้วยวะดงแฮ” ดงแฮได้แต่ตวัดผ้าห่มออกไปจากตัว ก่อนที่จะดึงกางเกงนอนตัวหลวมออก จนมองเห็นอะไรบางอย่างที่ตื่นตัวขึ้นมาเพราะความฝันบ้าๆ ความอึดอัดที่กำลังเล่นงานร่างกายทำให้มือเรียวค่อยๆ ล้วงเข้าไปจนสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ปริ่มออกมา

            “อึ้ก...คนบ้า...บ้าที่สุดเลย ไอ้คนเลว...” ดงแฮกัดฟันแน่น ยามที่หลับตาลง ก่อนที่ภาพความฝันจะวิ่งวูบเข้ามาในหัว จนเสียงหวานที่กำลังก่นด่าคนตัวโตเริ่มเปลี่ยนมาเป็น...

            “อึ้ก...บ้า...คนบ้า...คิบอมอปป้า...อ๊าา...ช่วย...ดะ...ดงแฮที...แรงอีก...อปป้า~”

            เสียงครวญครางหวานๆ ที่ดังผะแผ่วเจือไปกับความมืดยามค่ำคืน เมื่อลีดงแฮต้องยอมรับยามอยู่กับตัวเองว่ากำลังอยากให้ผู้ชายคนนั้น...สัมผัส

            “อ้ะอ๊า...ฮื่อ...อ่ะ...อปป้า!!!!



.................................................


           
            “พี่ทึก หาคนอื่นเถอะนะ ฉันทำไม่ได้แน่”

            หลังจากที่นั่งกระสับกระส่ายมาตลอดตั้งแต่ขึ้นรถมากับอีทึก จนมาถึงสถานที่ถ่ายทำในวันนี้ซึ่งเป็นผับหรูที่ต้องลงไปยังชั้นใต้ดินที่มีขนาดกว้างขวาง ลีดงแฮที่เพิ่งจะเคยออกกองครั้งแรกก็คว้าหมับเข้าที่มือของรุ่นพี่คนสนิทแล้วกระซิบเสียงร้อนรน ดวงตากลมโตยิ่งสั่นระริก เมื่อภาพความฝันเมื่อหลายคืนก่อนยังติดตา

            “ได้ที่ไหนล่ะ มาถึงนี่แล้ว เดี๋ยวแกก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ จะได้มาซักซ้อมกันก่อนถ่ายจริง” แทนที่อีทึกจะนึกเห็นใจ คนตาสวยก็ยิ้มกว้างอย่างชอบอกชอบใจ มือเรียวก็ดันหลังน้องชายไปทางคอสตูมที่เพียงเห็นหน้าดงแฮก็วี้ดว้ายอย่างดีอกดีใจ

            “มาค่ะน้องดงแฮ อย่าหาว่าเส้นเลยนะคะ แต่เจ๊จะเอาให้น้องสวยชวนตะลึง ขนาดพี่ผู้กำกับแกอยากจะปั้นเป็นนางเอกเลยเชียวล่ะ” ว่าไป เจ๊เจนนิเฟอร์คอสตูมเจ้าประจำก็ฉุดกระชากลากถูดงแฮที่แทบจะจิกขาลงกับพื้นให้หายขึ้นไปยังชั้นสองของร้านที่ทางเจ้าของกันเอาไว้ให้นักแสดงเปลี่ยนผ้าและแต่งตัว โดยที่คนหน้าหวานก็ทำได้เพียง...อยากร้องไห้

            ใช้เวลาไม่นาน จากแม่สาวทอมบอยที่สวมกางเกงขาสั้นพอดีเข่ากับเสื้อยืดสีสดใสก็กลายเป็นสาวสวยขนาดที่ทั้งคอสตูมทั้งสไตล์ลิสต์พากันมองตาค้าง

            “กรี๊ดดดดดด น้องดงแฮคะ ต่อไปนี้โละเสื้อผ้าประเภทกางเกงตัวโคร่ง เสื้อย้วยๆ ทิ้งไปให้หมดเลยนะคะ น้องใส่แบบนี้แล้วสวยมากกกกกกก สวยจริงๆ กรี๊ดดด ถ้าเจ๊เป็นผู้ชายแท้ๆ นะคะ เจ๊จะทุบหัวลากเข้าห้องแล้วจับปล้ำแม่งเลย” เจ๊เจนนี่ว่าเสียงแหลมปรี๊ด พลางมองผลงานของตัวเองอย่างภูมิใจ อย่างที่ดงแฮได้แต่ยิ้มแห้ง

          เจ๊ลากฉันเข้าห้อง แล้วเจ๊จะพบว่าไอ้สวยๆ ที่เจ๊มองเนี่ยไม่ได้มีอะไรต่างจากเจ๊สักนิดเดียว

            ความคิดที่ดงแฮถอนหายใจเบาๆ ที่เหมือนจะเป็นการดูถูกบรรดาทีมงานอยู่ไม่น้อยเลยมีหลายมือดึงคนหน้าหวานให้หยุดยืนหน้ากระจก พลางชี้ไปยังเงาสะท้อนตรงหน้า

            “หนูดูค่ะดู เจ๊บอกแล้วว่าสวย”

            “!!!

            เท่านั้นแหละ ดงแฮก็เบิกตากว้างมองเงาสะท้อนที่ไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือตัวเอง

            ในเมื่อ เวลานี้เรือนร่างบอบบางอยู่ในชุดสีน้ำเงินสว่างที่ตัวชุดช่วงบนรั้งขึ้นมาที่ไหล่ข้างนึงเผยผิวขาวเนียนตั้งแต่หัวไหล่ลงมา ขณะที่อีกข้างก็ปล่อยเปลือยเปล่าจนสะท้อนกับแสงไฟ เนื้อผ้าที่หลวมทิ้งแนบลงกับเรือนร่างเพรียวบางที่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ก่อนที่จะรัดรึงเข้าที่ช่วงสะโพกเป็นกระโปรงสั้นกุดเลยจากส่วนนั้นลงมาแค่คืบครึ่ง ทั้งยังรัดเสียจนบีบให้ขาเรียวต้องเบียดชิดกันตลอดเวลา ใบหน้าหวานที่บอกเสมอว่าไม่ตกแต่งใดๆ ก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เมื่อดวงตากลมโตถูกแต่งแบบสโมกกี้อายจนความหวานที่มีอยู่เสมอแปรเปลี่ยนเป็นสวยคม รับกับจมูกได้รูปและบัชออนสีส้มที่ปัดรับกับโหนกแก้ม และเรียวปากสีชมพูที่บัดนี้อวบอิ่มด้วยลิปกอปสีสวย

            ภาพที่มองยังไงก็หาความเป็นผู้ชายไม่เจอจนดงแฮอ้าปากน้อยๆ

          ฮือ แม่จ๋า แม่ให้อะไรดงแฮมาบ้างเนี่ย ทำไมผมไม่ดูเหมือนผู้ชายเลยอ่ะ

            “เป็นไงคะ สวยตะลึงตาค้างเลยใช่มั้ย ป่ะๆ เห็นว่าคุณคิบอมมาแล้ว เมื่อกี้เขาก็วอฯ ขึ้นมาเรียกให้ลงไปซักซ้อมกันก่อน”

            กึก

            ทว่า ความสวยชวนตะลึงนั้นยังไม่เท่าความจริงที่ว่าเขาจะต้องลงไปถ่ายทำกับผู้ชายรูปหล่อด้านล่าง ใบหน้าสวยก็แอบซีดเผือด แต่ด้วยเครื่องสำอางขนาดนี้ จะซีดยังไงก็ยังสวยน่ามอง ขาเรียวภายใต้รองเท้าส้นสูงสีดำก็ได้แต่พยายามทรงตัวลงไปอย่างเชื่องช้า

          ใจเย็นดงแฮ แค่สองประโยค ไม่ถึงตายหรอก

            ความคิดของคนสวยที่ก้าวลงมาจนถึงชั้นล่างของสถานที่ถ่ายทำจนได้ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของบรรดาทีมงานผู้ชายที่แทบจะน้ำลายหก มองเรียวขาขาวๆ จนคนหน้าหวานแทบจะยกมือขึ้นปิดหลายต่อหลายครั้ง หัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงเมื่อคิดว่าผู้ชายคนนั้น...จะได้เห็นเขาแบบนี้

            “ต้องขอโทษอปป้าจริงๆ ค่ะ มินจองมาสายไปหน่อย...ท่าทางอปป้าจะมาถึงนานแล้ว”

          ไปตายซะไป๊ ไอ้พระเอกนิสัยเสีย!

            แต่เพียงก้าวลงมาถึงชั้นใต้ดินที่เป็นสถานที่ถ่ายทำในวันนี้ เสียงหวานๆ ของใครคนหนึ่งก็ดังแหวกอากาศเข้ามาจนคนที่กำลังตื่นเต้นเม้มปากแน่น ออกปากแช่งในใจ เมื่อมองตรงไปปุ๊บก็เห็นพระเอกหนุ่มรูปหล่อที่กำลังนั่งคอยอยู่ตรงเก้าอี้สูงของบาร์เครื่องดื่มตัวยาว ด้านหน้าก็มีนางเอกสาวที่กำลังแย้มยิ้มสวยชวนคุยไปเรื่อย จนใบหน้าหวานหันหนีไปทางอื่น

          ไม่รู้ทำไมต้องหงุดหงิด แต่มันหงุดหงิดเสียจนอยากดึงไอ้ปอยผมที่มัดเป็นจุกข้างหลังของคิมคิบอมให้หน้าหงายสักที!!!

            “ดงแฮ!!! นี่แกหรือเนี่ย!

            ขวับ

            แต่แล้ว อีทึกที่กำลังยืนอยู่บริเวณนั้นก็หันมาเห็นจนร้องเสียงดังลั่น เรียกสายตาของทุกคนให้หันขวับมามองนักแสดงประกอบที่ควรจะดูดาษๆ แต่เพียงทุกสายตาหันมาจับจ้องสาวชุดสีน้ำเงิน ดวงตาก็เบิกกว้างอย่างตกใจ

            สวย...สวยกว่านางเอกของเรื่องด้วยซ้ำ

            ขณะเดียวกัน เสียงนี้ก็เรียกสายตาของคิบอมให้หันไปมอง ก่อนที่ผู้ชายที่เคยเจอคนสวยมามากจะต้องนิ่งอึ้ง ใบหน้าคมคายที่มักจะเก็บอาการได้เสมอก็แสดงออกชัดเจนว่าตกตะลึงกับความสวยของนักแสดงประกอบคนนี้มากขนาดไหน ตาคมก็จับจ้องมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ฝ่ามือที่วางนิ่งอยู่บนหัวเข่าทั้งสองข้างก็กำแน่นจนเจ้าตัวรู้สึก

            สายตาตกตะลึงที่ทำให้มินจองหันไปมองบ้างก่อนจะแอบเบ้ปากอย่าไม่พอใจ

            “อปป้า...อปป้าคะ”

            “เอ่อ...ครับๆ...พี่ว่าน้องมินจองไปเปลี่ยนชุดดีกว่าครับ จะได้รีบถ่ายให้เสร็จ นี่ก็เย็นมากแล้วด้วย” เสียงเรียกที่ทำให้คิบอมรู้สึกตัว ดวงตาคู่คมที่วาววับขึ้นเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นสุภาพตามเดิม ริมฝีปากยกยิ้มอบอุ่นให้กับนางเอกสาว จนหญิงสาวนึกพอใจที่ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้หลงไปกับความสวยของยัยตัวประกอบ

            หารู้ไม่ว่าผู้ชายตรงหน้าเนี่ยล่ะที่หลง...มากกว่าทุกคน

            แน่ล่ะ และเมื่อนางเอกสาวยอมผละไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว คิบอมก็หันไปจ้องมองใบหน้าแสนสวยที่ไม่ยอมหันมามองเขาเลยสักนาทีด้วยสายตาหมายมาด ริมฝีปากก็ยกขึ้นนิดอย่างเจ้าเล่ห์ ดงแฮไม่รู้หรอกว่าที่ได้งานนี้น่ะเพราะ...เขาเอง

            เขาเองที่พอรู้ว่าจะถ่ายทำฉากนี้ซีนนี้ก็ให้คนไปติดสินบนโมเดลลิ่งทางนั้นให้บอกว่าหานักแสดงประกอบมาไม่ทัน แล้วก็เป็นคนไปเปรยๆ กับผู้กำกับว่าจะหาคนอื่นทำไม ในเมื่อมีนักเต้นฝีมือดีในกำมือ แถมไม่เคยมีใครเห็นหน้าอยู่แล้ว

            ไม่แปลกที่ลีดงแฮจะได้เล่นกับเขาในวันนี้...แม้ว่ามันจะไม่เยอะก็ตาม

            คนที่วางแผนดักสาวสวยเองกับมือทำทีเป็นก้มลงอ่านบท เมื่อทางผู้กำกับเรียกดงแฮให้เข้ามาซักซ้อมกันก่อน

            “คุณรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง คุณเป็นสาวนักเที่ยวที่เข้ามาเต้นยั่วพระเอก ให้ใช้สองมือคล้องไปด้านหลังกระซิบถามพระเอกว่าสนใจจะไปด้วยกันหรือเปล่า พอพระเอกบอกว่าไม่ คุณก็ถามว่าแน่ใจหรือ จากนั้น มินจองจะเข้ามากระชากคิบอมออกไป ของคุณมีเท่านี้ แต่เอาให้สุดฝีมือนะ ผมเชื่อว่าคุณต้องเต้นได้สวยอยู่แล้ว” ผู้กำกับบอกอย่างเชื่อมั่น ยามที่ก้าวมาพร้อมกับหญิงสาวรุ่นลูกที่เก่งจนเขานับถือทางผู้อำนวยการคังที่หามาได้ถูกใจเขาจริงๆ

            “จะให้ลองก่อนเข้าหน้าเซ็ทหรือเปล่าครับ” คิบอมวางบทในมือ แล้วส่งให้ผู้จัดการส่วนตัว เสียงทุ้มถามอย่างสุภาพ ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆ ให้ดงแฮอย่างสุภาพ ทั้งที่ตาคม...พราวระยับราวจิ้งจอกเก้าหาง

            “คือ...”

            “ก็ดีนะ” ผู้กำกับชื่อดังพยักหน้าเห็นด้วย ยิ่งดงแฮไม่ได้ผ่านโมเดลลิ่งที่ไหนมา เต้นอาจจะเก่งแต่พูดแข็งทื่อก็ไม่ไหวเหมือนกัน ดังนั้น คนหน้าหวานก็ได้แต่เม้มปากน้อยๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเริ่มบทบาทที่ตัวเองได้รับ

            คนหน้าหวานตั้งสติเพียงนิด ดวงตาคู่สวยมองชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ในสภาพเซอร์ๆ อย่างกางเกงยีนสีเข้ม เสื้อยืดตัวใหญ่สวมทับด้วยแจ็กเกตหนังสีน้ำตาล เส้นผมสีดำก็ถูกมัดลวกๆ เป็นจุกเล็กๆ อยู่ตรงท้ายทอย แล้วขาเรียวก็เริ่มก้าวเดินไปมา ใบหน้าหวานยังติดเครียด

            “เดี๋ยว! ยิ้มหน่อยดงแฮ ยั่วพระเอกนะ ไม่ใช่ฆ่าพระเอก”

            “ผมว่าให้เวลาน้องเขาสักพักมั้ยครับ ดงแฮไม่เคยเล่นสีหน้าหน้ากล้องมาก่อนเลย” เมื่อผู้กำกับเอ่ยตำหนิตรงๆ คิบอมก็หันไปบอกด้วยรอยยิ้มบาง แล้วหันกลับมามองคนที่หน้าเสียไปแล้ว ร่างสูงที่ขยับมายืนเท้าแขนข้างหนึ่งพิงเคาน์เตอร์ก็เป็นฝ่ายจับเข้าที่ข้อมือเล็กทั้งสองข้าง

            “นี่!

            “ไม่ต้องกลัวพี่นะครับ เต้นเหมือนที่เคยเต้น ไม่ต้องสนใจกล้อง คิดว่าเราอยู่ในผับกันสองคนก็ได้” ยังไม่ทันที่ดงแฮที่สะดุ้งน้อยๆ จะแหวออกไป คิบอมก็หมุนให้ร่างเล็กหันหลังให้ ใบหน้าคมคายที่ใครต่อใครมองมาก็ยกยิ้มอบอุ่นแบบนักแสดงนิสัยดี แล้วก็เอ่ยแนะนำด้วยเสียงนุ่มๆ ทั้งที่ฝ่ามือทั้งสองข้างกำลังลูบผิวนิ่มช่วงท่อนแขนอย่างเบามือ

            “มันไม่เหมือนกันนี่!” ดงแฮบอกเสียงกระซิบที่ทำให้ก้มลงกระซิบบอก

            “นึกถึงตอนที่เราเคยอยู่ในห้องน้ำสองคนสิครับ ดงแฮ...นั่นล่ะที่ดงแฮยั่วพี่” คิบอมตอบกลับด้วยเสียงกระซิบ ก่อนที่จะปล่อยมือใหญ่ที่แตะต้องหญิงสาวต่อหน้าคนอื่นมากเกินไปแล้วออก ให้คนฟังเม้มปากน้อยๆ แก้มใสแดงก่ำจนน่ากลัว อยากจะสวนกลับว่าวันนั้นไม่ได้ยั่วเลยสักนิด ใครกันแน่ที่ลากเขาเข้าห้องน้ำน่ะ

            กึก

          วันนั้น...งั้นหรือ

            แต่แล้วคนหน้าหวานที่กำลังเนื้อตัวร้อนวูบๆ ก็นึกถึงเรื่องราวในวันนั้น เขาจำได้ดีว่าเพียงแค่สะโพกบดเบียดเข้าไปด้านหลัง คิมคิบอมก็...ตื่น

          ใช่สิ นี่ไงเวลาแก้แค้น!!!

            ความคิดที่ทำให้ดวงตาคู่สวยวาววับ สองมือที่นึกอยากตะกุยหน้าคนนิสัยไม่ดีก็กำเข้าหากัน นึกไปถึงความรู้สึกบ้าๆ ที่ต้องช่วยตัวเองโดยคิดถึงคนแถวนี้ไปด้วย จนเกิดความคิดว่าเขาไม่ยอมทำแบบนั้นคนเดียวแน่ ในเมื่อวันนี้มีโอกาสก็คอยดูฝีมือเขาที่จะทำให้คนหื่นกามกลับไปช่วยตัวเองบ้างเหมือนกัน

          ฮึ ทำให้เราต้องช่วยตัวเองไปครางอปป้าไป วันนี้ต้องทำให้คิมคิบอมกลับไปครางชื่อลีดงแฮเหมือนกัน!


            “งั้นลองดูนะคะ” ดงแฮว่าเสียงหวาน ดวงตากลมที่ฉายแววท้าทายก็จ้องมองดวงตาคมกริบชั่วแวบหนึ่ง ก่อนที่สองมือจะยกขึ้นเหนือหัว แล้วร่างบอบบางในชุดสวยก็เริ่มทำการเลื้อย...ใช่ เลื้อยด้วยการแอ่นสะโพกไปด้านหลังแล้วบิดตัวเป็นคลื่นไปตามช่วงตัวแข็งแกร่งของคิบอม ใบหน้าสวยก็เอียงมองคนที่ยืนซ้อนหลัง เรียวปากสีหวานขยับรอยยิ้มยั่ว

            การกระทำที่ทำให้คิบอมเผลอชะงักไปชั่วแวบหนึ่ง ก่อนที่จะยิ้มพราย

          ฮึ ไม่กลัวว่าเขาจะลากขึ้นเตียงแล้วหรือถึงกล้ายั่วกันขนาดนี้

            แม้ว่าสะโพกสวยจะยังไม่บดเบียดแนบชิดกับเป้ากางเกงคิบอมแต่ภาพของคนสวยที่กำลังเต้นเลื้อยอยู่ชิดร่างของพระเอกหนุ่มก็ทำเอาผู้ชายละแวกนั้นกลืนน้ำลายเอื๊อก

            “สนใจ...จะมาด้วยกันมั้ยคะ”

            หมับ

            เฮือก!

            “แหม ยั่วแบบนี้พี่ก็สนใจสิครับ” แต่แทนที่ตามบทคิบอมจะทำสีหน้ารำคาญใส่ พระเอกหนุ่มรูปหล่อกลับรวบเอวบางเอาไว้มั่น แล้วก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตากรุ่มกริ่ม เสียงทุ้มบอกเสียงดังฟังชัดจนดงแฮสะดุ้งโหยง ร่างบอบบางเด้งหนีสัมผัสของฝ่ามือใหญ่ทันควัน ก่อนจะหันขวับไปมองคนที่หัวเราะ

            “ฮ่าๆๆๆ ผมว่าน้องเขาเล่นได้ครับ แหม ถ้ามีคนสวยมาเต้นเลื้อยแบบนี้ในชีวิตจริงผมตอบตกลงไปแล้วนะ ไม่เข้าใจพระเอกของเรื่องจริงๆ ใจแข็งปฏิเสธได้ยังไง” ท่าทางที่คิบอมหัวเราะออกมา แล้วหันไปพูดกับผู้กำกับอย่างเห็นขำ ทั้งยังทำหน้าระอาบทบาทที่ตัวเองได้รับอีกหน่อย จนทีมงานคนอื่นหัวเราะตาม

            ไม่รู้หรอกว่าดงแฮ...หัวใจแทบตกไปที่ตาตุ่ม ก็ใครจะคิดว่ามันจะคว้าเอวเขาแบบนี้ล่ะ!

            “เอาล่ะๆ เลิกเล่นเลยคิบอม เวลาจริงอย่าไปแกล้งน้องมันแบบนั้น ดูสิหน้าแดงหูแดงหมดแล้ว...เวลาจริง เอาแบบนี้เลยนะดงแฮ...พวกหน้าเซ็ทเสร็จหรือยัง แล้วมินจองล่ะ” ผู้กำกับใหญ่ก็หัวเราะตามกับความขี้เล่นของนักแสดงหนุ่ม จากนั้นก็หันมาบอกดงแฮว่าเอาแบบนี้

            แต่เมื่อทางนั้นก้าวออกไปแล้ว ดงแฮก็ได้แต่หันขวับมามองคิบอมอย่างโมโห

            “ก็ดงแฮยั่วอปป้าเองนี่ครับ”

            คนตัวโตขยับหน้ามาใกล้อีกหน่อย แล้วบอกด้วยเสียงนุ่มๆ ดวงตาคมก็ทอประกายนุ่มลง ยามที่เอ่ยต่อ

          “วันนี้...สวยจังเลยครับ”

            คำพูดที่ทำให้ดงแฮหน้าแดงก่ำ หมุนตัวขวับ ขยับหนีผู้ชายตัวโตก่อนที่หัวใจดวงน้อยจะเต้นแรงมากยิ่งไปกว่านี้ สองฝ่ามือก็กำแน่นเข้าหากัน ยามที่บอกตัวเองอย่างหนักแน่น

          ต้องเอาคืน คอยดูนะถ่ายจริงจะทำให้ตั้งไม่ล้มเลย!!! ไอ้คนบ้า!!!

...............................................

            ใช้เวลาไม่นาน เมื่อซักซ้อมหน้าเซ็ท (หน้าฉาก) กันรอบหนึ่งแล้ว ผู้กำกับก็สั่งให้ถ่ายจริงเลยเพราะไม่มีเวลามากพอถ่ายซ้อม ในเมื่อทางผับที่ขอเอาไว้ก็ต้องเปิดให้บริการตามปกติ เสียงตีเสลดก็ดังขึ้น ยามที่เสียงเพลงของผับหรูดังกระหึ่มขึ้นพร้อมกับแสงไฟที่สาดส่องวิบวับทั่วความมืดสลัวของผับ

            ดงแฮสูดหายใจลึกๆ ยามที่มองสัญญาณของผู้ช่วยผู้กำกับที่ปล่อยคิว ดวงตาคู่สวยก็จับจ้องไปยังร่างสูงใหญ่ของพระเอกรูปหล่อที่กำลังก้าวเข้ามาตรงตำแหน่งที่เซ็ทไว้ เสียงทุ้มก็เอ่ยสั่งเครื่องดื่ม ใบหน้าคมคร้ามที่มักจะปรากฏรอยยิ้มบางๆ ก็นิ่งเฉย ทั้งยังติดจะหงุดหงิดตามบทบาท

            ท่าทางที่ดงแฮใจสั่นไปนิด ก่อนที่หัวใจจะเต้นระรัวเมื่อถึงคิวของตัวเอง ใบหน้าหวานแสดงออกเลยว่าเกรงกลัวกล้องมากแค่ไหน แต่ด้วยความที่เต้นหน้ากล้องมาแล้วหลายที มันก็เลยลดความประหม่าของเจ้าตัวลงไปได้บ้าง

          แก้แค้นดงแฮ แก้แค้น เราต้องแก้แค้น!

            คนหน้าหวานก้าวเข้าไปใต้แสงไฟ ดวงตากลมโตก็จ้องนิ่งเพียงพระเอกรูปหล่อ ก่อนที่ริมฝีปากสีระเรื่อจะแย้มยิ้มน้อยๆ ขาเรียวก็ก้าวตรงไปหาอย่างหมายมาด ยามที่คิบอมที่กำลังสวมบทบาทก็หันมาเห็น แล้วก็เบือนหน้าหนีเหมือนไม่สนใจ

          คอยดูนะ จะแก้แค้น!!!

            ความคิดที่ผลักดันให้คนที่อายแทบตายก้าวเข้าไปหาคิบอม ท่ามกลางนักแสดงประกอบหลายคนที่กำลังออกลีลาแบบไม่สนใจใคร ดวงตาคู่สวยฉายแววยั่วยวน ก่อนที่ร่างบอบบางจะจัดการหันหลังแล้วงัดท่าเต้นของนักร้องสาวสุดเซ็กซี่สักคนขึ้นมา เรือนร่างบอบบางก็ขยับไปแนบชิดแผ่นอกด้านหลัง ความคิดตกอยู่เพียงว่าจะแกล้งคนเสแสร้งบ้าง

            ฟึ่บ

            “!!!” คิบอมแทบจะเก็บความประหลาดใจเอาไว้ได้ไม่มิด เมื่อคนหน้าหวานที่ทำท่าว่าจะหนีเขาไปไกลสุดกู่กำลังใช้ก้นนุ่มเบียดเข้ามาชิดกับน้องชายของเขา แล้วร่างบางก็รูดลงไปนิด ก่อนที่จะจัดการถูไถสะโพกไปมาพร้อมกับเอวที่ส่ายพริ้วอย่างยั่วยวน ใบหน้าสวยก็เงยขึ้นเอียงมองเขาด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แต่ดวงตากลมกำลังแสดงออกถึงความ...สะใจ

          ให้ตายเถอะ เดี๋ยวพ่อก็เด้งเสียบมันท่านี้เลย!!!

            คิบอมคำรามในใจ แต่เมื่อกล้องยังเดิน เขาก็ทำได้เพียงหันหนีไปทางอื่น แล้วท่าทางแบบนี้ก็ทำให้ดงแฮยิ่งได้ใจ จนยิ่งขยับเข้ามาหา สองมือก็ยกขึ้นคล้องจากด้านหลัง แล้วส่งสายตายั่วยวนที่แฝงด้วยความท้าทาย

            ฟึ่บ

          อ๊ากกกก มัน...ตื่นแล้วอ่ะ ร้อนจี๋เลย...ช่างมันดงแฮ จะแกล้งมัน เราจะแกล้งมัน!

            คนหน้าหวานที่แก้มแดงแปร๊ด แต่มองไม่ค่อยเห็นในไฟสลัวได้แต่ใจสั่นระริก เมื่อจะแกล้งเขา แต่เมื่อแก่นกายใหญ่กำลังแข็งขึ้น ทั้งยังดันมาเบาๆ ก็ทำเอาร่างบางแทบจะทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าสวยที่เงยขึ้นจะเอ่ยบทก็หยุดชะงักเมื่อสบกับ...ดวงตาคู่คม

            ตาคมที่จ้องมองมาอย่างมีความหมายจนเนื้อตัวร้อนวูบวาบ เรียวปากสีระเรื่อขบเม้มเข้าหากันราวกับห้ามความรู้สึกที่กำลังก่อเกิดขึ้นในใจ

            ความรู้สึกที่ว่า...ร่างกายกำลัง...แนบชิดกัน

            “สนใจ...จะมากับฉันมั้ยคะ” เสียงหวานที่เอ่ยออกไปแหบพร่านิดๆ และแม้ว่าดวงตาคมกริบของคิบอมจะมองมาอย่างมีความหมายร้อนแรง แต่คนเจ้าบทบาทก็ยังเอ่ยตอบโต้ได้

            “ไม่...คุณไปหาคนอื่นเถอะ” เสียงนุ่มทุ้ม และแววตาที่ทำให้ดงแฮกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ยิ่งแสงไฟสลัวในผับเช่นนี้ยิ่งทำให้ภาพความฝันแล่นวูบเข้ามาในหัว

            ใบหน้าคมคายของผู้ชายคนนี้ คนที่ใช้ปากนี้พรมจูบไปทั่วตัว คนที่เอ่ยใช้เสียงทุ้มพร่าคำรามชื่อของเขา คนที่...กำลังกอดรัดกันบนเตียง

            ความคิดและภาพที่ทำให้ดงแฮหน้าร้อนวูบ ดวงตากลมโตเหมือนจมดิ่งไปกับดวงตาคมกริบที่แสนมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ราวกับตกลงไปในกับดักที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังล่อลวงเขาอยู่ และนั่นก็ทำให้ดงแฮแทบจะลืมเลือนทุกอย่าง

          “คัท!!! นี่ลืมบทหรือไง!!!

            เฮือก!!!

            ทันใดนั้น เสียงคัทก็ดังลั่น พร้อมกับเสียงว๊ากของผู้กำกับที่ดังลั่นไปทั่วจนดงแฮสะดุ้งโหยง ใบหน้าหวานหันหนีไปทางอื่นทันที ยามที่รู้สึกได้ว่าคิมคิบอมวางมือลงบนเอว

            “ท่าทางน้องเขาตื่นกล้องครับ อีกสักรอบน่าจะโอเค” คิบอมเอ่ยแก้ตัวแทน ยามที่ดงแฮได้แต่หันไปโค้งให้อย่างขอโทษขอโพย ทั้งที่ผิวแก้มเนียนแดงก่ำ

            “อย่าแกล้งพี่สิ...เดี๋ยวพี่ก็อดใจไม่อยู่จริงๆ หรอก ดงแฮ” จากนั้น แก้มก็ยิ่งแดงไปอีกระดับ เมื่อคิบอมกระซิบแผ่วๆ ชิดริมหู จนเนื้อตัวคนได้รับร้อนวูบวาบ

            ก็ถ้ารู้ว่าแกล้งแล้วเข้าตัวแบบนี้ เขาก็ไม่แกล้งหรอก!


.........................................................



คิดเห็นอย่างไร บอกกันได้ที่


ขอบคุณค่ะ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น