วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

NC มนตรา_61

NC มนตรา_61



            “อืม...” ฝ่ามือหยาบปลดรั้งอาภรณ์จากเรือนร่างขาวเนียนออกไปจนหมด เหลือเพียงเรือนกายขาวนวลผ่องซึ่งเป็นประกายภายใต้แสงจันทร์เช่นนี้ ความงดงามที่คิบอมผละออกมาเมื่อทอดมองด้วยสายตาแสนรัก

            “เจ้างดงามจริงๆ ดงแฮ”

            “ข้าไม่ชอบสายตาของเจ้าเลย” ดงแฮได้แต่เอ่ยพึมในลำคอ แหงนมองใบหน้าคมคร้ามของผู้ที่คร่อมทับอยู่เหนือเรือนกายของตน จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเข้มคู่นั้น

            “ทำไมเล่า”

            “สายตาของเจ้า...ทำให้ข้าร้อน...ร้อนขึ้นทุกครั้ง...” วีล่าน้อยเอ่ยอย่างอ่อนเดียงสา ไม่รู้เลยว่าถ้อยคำที่เอ่ยออกมาราวกับปลุกไฟรักให้ลุกโชนยิ่งกว่าเดิม จนดวงตาคู่ที่ตนบอกว่าไม่ชอบนั้นยิ่งวาวเข้ม ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้เอวบางอย่างอ่อนโยน

            แล้วคิบอมก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

            “งั้นข้าจะทำให้เจ้าร้อนยิ่งกว่านี้”

            สิ้นคำขององค์ชายหนุ่ม ริมฝีปากแสนร้านกาจก็ฉกวูบลงมาที่ริมฝีปากอย่างแม่นยำ ดูดดื่มความหอมหวานที่ไม่รู้จบอย่างหิวกระหาย ฝ่ามือทั้งสอข้างลูบไล้เอวเนียนนุ่ม ไต่ระขึ้นมาตามแผ่นท้องขาวผ่อง ปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามให้แก่ร่างน้อยใต้ร่าง

            “เจ้าทำได้เสมอ ทำให้ข้าร้อนได้เสมอ คิบอม...” ดงแฮหลับตาพริ้ม ยามที่ริมฝีปากอุ่นไต่ไปตามลำคอระหงลงไปที่แอ่งชัพจร จนร่างน้อยสั่นระริก ความต้องการถาโถมขึ้นมา กับเพียงจุมพิตและฝ่ามือที่เฝ้าปลุกเร้าตนซ้ำๆ

            ถ้อยคำน่ารักที่ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครคิดจะตอบโต้มากไปกว่านั้น มีเพียงอ้อมกอดที่กระชับเข้าหากันมากยิ่งขึ้น จนเรือนกายเสียดสีปลุกปั่นความร้อนในกายราวกับพายุเพลิง

            “อาห์...” ดงแฮแหงนหน้าขึ้น ริมฝีปากสีแดงก่ำเปล่งเสียงพร่า ยามที่องค์ชายหนุ่มกำลังเฝ้าหยอกเย้าอยู่ที่ช่วงแผ่นอกอ่อนบาง หยอกเล่นกับตุ่มไตสีหวานที่ชูชัน ปลายลิ้นร้อนชื้นไต่ระไปทั่วจนเรือนกายอ้อนแอ้น ทำได้เพียงบิดกายน้อยๆ สองขาจิกเกร็งกับอารมณ์ซ่านที่ได้รับ

            “น่ารัก”

            “อืม...คิบอม...ยะ...” ดงแฮทำได้เพียงห้ามอย่างขลาดเขิน เมื่อฝ่ามือหยาบกำลังกระตุ้นเร้าที่ส่วนอ่อนไหวด้านล่าง กอบกุมอย่างถนอม แล้วรูดรั้งอย่างเบามือ จนเรือนกายสั่น สะดุ้งทุกครั้งที่ฝ่ามือข้างนั้นขยับเคลื่อนเข้าหา

            “อย่าห้ามข้าเลยดงแฮ ให้ข้าสัมผัสความหวานของเจ้าตามใจข้าเถอะ” เสียงร้องขอขององค์ชายหนุ่มทำให้ร่างน้อยที่หลับตาอย่างขลาดเขิน เปิดปรือดวงตาอย่างเชื่องช้า มองฝ่าม่านน้ำตาไปเห็นใบหน้าคมคร้ามที่ฉายชัดถึงความรักใคร่ ดังนั้น เสียงหวานจึงเอ่ยออกไป

            “ทะ...ทำข้าเถอะ...ทำตามที่ใจเจ้าต้องการ...ข้ายอม...ยอมทุกอย่าง...อืม...” เสียงสุดท้ายกลืนหายไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากร้อนระอุประกบลงมาอีกครั้ง พร้อมกับเรือนกายสูงใหญ่ที่ขยับเสียดสีไปกับเรือนร่างนุ่มนิ่ม ฝ่ามือหยาบก็รั้งขาเรียวให้แยกกว้างออก ก่อนที่จะแทรกกายเข้ามาแทนที่ ปลายนิ้วก็ไต่ไปตามช่วงตัวอ่อนบาง ปลุกปั้นอารมณ์รักของผู้ที่แก้มแดงระเรื่อ เรียวปากเม้มขยับคลายหลายต่อหลายครั้ง

            เฮือก

            “อาห์” ดงแฮครวญครางเสียงเบาหวิว เมื่อปลายนิ้วยาวชำแรกเข้ามาในช่องทางรักอย่างนุ่มนวล ร่างทั้งร่างผวาเฮือก สองขาจิกเกร็ง ใบหน้ายิ่งแดงก่ำ ก่อนที่จะบิดกายน้อยๆ ไปกับแรงรัญจวนใจของฝ่ามือที่เฝ้าขยับเข้าทักทายความอุ่นร้อนภายในซ้ำแล้วซ้ำเล่า

            “คิบอม...อาห์...คิบอม...อืม...” สองขายิ่งรั้งกว้างออก เมื่อแรงขับเคลื่อนจากปลายนิ้วรุนแรงมากกว่าเดิม สองมือจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง ฝากรอยเล็บเป็นทางยาว แบบที่คิบอมก็ยิ่งพึงใจ ริมฝีปากก็เฝ้ามอบจูบให้กับร่างน้อยซ้ำๆ

            ฟึ่บ

            “คิ...บอม...” ดงแฮทำได้เพียงทิ้งร่างลงกับความนุ่มของใบไม้ที่รองรับอยู่ใต้ร่าง หอบหายใจสะท้าน เมื่อปลายนิ้วยาวดึงออกไปอย่างเชื่องช้า ทำได้เพียงมองใบหน้าคมของผู้ที่รั้งขาของตนให้ยกสูงเดิม รับรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น

            “ข้ารักเจ้านะดงแฮ...รักเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด”

            สวบ

            “อ๊า!” วีล่าน้อยยิ่งสะท้านเยือกไปทั้งตัว เมื่อแท่งไฟร้อนระอุถูกนำมาถูไถที่ช่องทางคับแคบ ก่อนจะดันกายเข้าไปในความอุ่นร้อนจนสุดความยาว ความร้อนผ่าวที่สอดแทรกเข้าไปอย่างนุ่มนวลราวกับจังหวะดนตรีที่แสนจะลงตัว และทำให้ผิวเนื้อเนียนเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อทั่วทั้งตัว

            “ไหวมั้ย...อาห์...ดงแฮ” ถ้อยคำแฝงชัดด้วยความห่วงใย ซึ่งทำให้ร่างน้อยพยักหน้า สองมือสั่นระริกประคองแก้มสากเอาไว้มั่น

            “ไหว...ข้าไหว...ท่านพี่...ของข้า”

            “!!!

            จุ๊บ

            หากคำสรรพนามเรียกขานไม่ทำให้องค์ชายหนุ่มตะลึงงันแล้ว ก็เห็นจะเป็นริมฝีปากนุ่มที่ประทับแนบลงบนริมฝีปากได้รูป ทั้งยังขบเม้ม หยอกเย้าอย่างไร้เดียงสาเสียจนสองมือแทบจะกระชากร่างน้อยเข้ามาในอ้อมกอด ไม่อาจจะหักห้ามใจตนได้อีกต่อไป

            สวบ

            “อ๊า! ท่าน...พี่...อึ้ก...ท่าน...อ๊า...” ดงแฮได้แต่หวีดร้องในลำคอ ดวงตาหลับแน่น เมื่อคลื่นความร้อนกำลังขับเคลื่อนเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า สะโพกมนถูกประคองแน่น ยามที่ท่อนไฟร้อนผ่าวดึงออกเกือบสุด แล้วดันเข้ามาสุดความยาวทุกครั้ง จนเรือนกายอ่อนบางโยกคลอนไปตามความร้อนแรงที่เพิ่มมากขึ้นทุกที

            เสียงครวญครางที่ดังก้องไปทั่วทั้งธารจันทรา แว่วไปกับเสียงสายลมราวกับดนตรีจากสรวงสวรรค์ที่องค์ชายคิบอมฟังได้อย่างไม่รู้หน่าย

            ความรุ่มร้อน ความรุนแรง ทว่า เจือด้วยความหอมหวานอย่างที่สุดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง กับอ้อมกอดที่กระชับแนบเข้าหากัน เสียงของผิวกายบดเบียดแนบชิดยิ่งทำให้ไฟรักยิ่งลุกโชน ริมฝีปากเล็กๆ ก็เฝ้าวอนขอจูบหวานล้ำที่ช่วยดับเพลิงที่ลุกโชนนี้

            คลื่นความรักดำเนินมาถึงปลายทาง พร้อมกับเสียงครวญหวานๆ ที่กระถี่ชั้น

            “ท่านพี่...ข้า...ข้ารักท่าน...รักท่าน....อ๊าาา!!!” ความเร่าร้อนดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ยามที่คำรักพร่ำกระซิบริมหู จนองค์ชายคิบอมยิ่งเร่งจังหวะให้หนักหน่วง ส่งวีล่าน้อยให้ถึงปลายทางของอารมณ์ จนแผ่นท้องทั้งคู่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำสีขุ่น

            “หากคืนนี้..ข้าไม่ปล่อยเจ้าจากอ้อมกอด...เจ้าจะโกรธเคืองข้าหรือไม่...”

            “ไม่...แฮ่กๆ...ไม่เลย...สักนิด...”

            และเปรียบเหมือนคำอนุญาตของดงแฮที่ส่ายหน้าตัวสั่นสะท้าน หากแต่เรือนร่างอ้อนแอ้นกลับยังขยับกายรับความร้อนผ่าวที่สอดแทรกเข้ามาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด อย่างที่บอกกับองค์ชายหนุ่มว่าค่ำคืนนี้ วีล่าน้อยแสนเอาแต่ใจจะเป็นฝ่าย เอาใจ บ้างเสียแล้ว

........................................................

อ่านต่อได้ที่
ขอบคุณค่ะ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น