NC มนตรา_61
“อืม...” ฝ่ามือหยาบปลดรั้งอาภรณ์จากเรือนร่างขาวเนียนออกไปจนหมด
เหลือเพียงเรือนกายขาวนวลผ่องซึ่งเป็นประกายภายใต้แสงจันทร์เช่นนี้
ความงดงามที่คิบอมผละออกมาเมื่อทอดมองด้วยสายตาแสนรัก
“เจ้างดงามจริงๆ
ดงแฮ”
“ข้าไม่ชอบสายตาของเจ้าเลย”
ดงแฮได้แต่เอ่ยพึมในลำคอ แหงนมองใบหน้าคมคร้ามของผู้ที่คร่อมทับอยู่เหนือเรือนกายของตน
จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเข้มคู่นั้น
“ทำไมเล่า”
“สายตาของเจ้า...ทำให้ข้าร้อน...ร้อนขึ้นทุกครั้ง...”
วีล่าน้อยเอ่ยอย่างอ่อนเดียงสา
ไม่รู้เลยว่าถ้อยคำที่เอ่ยออกมาราวกับปลุกไฟรักให้ลุกโชนยิ่งกว่าเดิม จนดวงตาคู่ที่ตนบอกว่าไม่ชอบนั้นยิ่งวาวเข้ม
ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้เอวบางอย่างอ่อนโยน
แล้วคิบอมก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“งั้นข้าจะทำให้เจ้าร้อนยิ่งกว่านี้”
สิ้นคำขององค์ชายหนุ่ม
ริมฝีปากแสนร้านกาจก็ฉกวูบลงมาที่ริมฝีปากอย่างแม่นยำ ดูดดื่มความหอมหวานที่ไม่รู้จบอย่างหิวกระหาย
ฝ่ามือทั้งสอข้างลูบไล้เอวเนียนนุ่ม ไต่ระขึ้นมาตามแผ่นท้องขาวผ่อง ปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามให้แก่ร่างน้อยใต้ร่าง
“เจ้าทำได้เสมอ
ทำให้ข้าร้อนได้เสมอ คิบอม...” ดงแฮหลับตาพริ้ม
ยามที่ริมฝีปากอุ่นไต่ไปตามลำคอระหงลงไปที่แอ่งชัพจร จนร่างน้อยสั่นระริก
ความต้องการถาโถมขึ้นมา กับเพียงจุมพิตและฝ่ามือที่เฝ้าปลุกเร้าตนซ้ำๆ
ถ้อยคำน่ารักที่ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครคิดจะตอบโต้มากไปกว่านั้น
มีเพียงอ้อมกอดที่กระชับเข้าหากันมากยิ่งขึ้น
จนเรือนกายเสียดสีปลุกปั่นความร้อนในกายราวกับพายุเพลิง
“อาห์...”
ดงแฮแหงนหน้าขึ้น ริมฝีปากสีแดงก่ำเปล่งเสียงพร่า
ยามที่องค์ชายหนุ่มกำลังเฝ้าหยอกเย้าอยู่ที่ช่วงแผ่นอกอ่อนบาง
หยอกเล่นกับตุ่มไตสีหวานที่ชูชัน ปลายลิ้นร้อนชื้นไต่ระไปทั่วจนเรือนกายอ้อนแอ้น
ทำได้เพียงบิดกายน้อยๆ สองขาจิกเกร็งกับอารมณ์ซ่านที่ได้รับ
“น่ารัก”
“อืม...คิบอม...ยะ...”
ดงแฮทำได้เพียงห้ามอย่างขลาดเขิน
เมื่อฝ่ามือหยาบกำลังกระตุ้นเร้าที่ส่วนอ่อนไหวด้านล่าง กอบกุมอย่างถนอม
แล้วรูดรั้งอย่างเบามือ จนเรือนกายสั่น
สะดุ้งทุกครั้งที่ฝ่ามือข้างนั้นขยับเคลื่อนเข้าหา
“อย่าห้ามข้าเลยดงแฮ
ให้ข้าสัมผัสความหวานของเจ้าตามใจข้าเถอะ”
เสียงร้องขอขององค์ชายหนุ่มทำให้ร่างน้อยที่หลับตาอย่างขลาดเขิน
เปิดปรือดวงตาอย่างเชื่องช้า
มองฝ่าม่านน้ำตาไปเห็นใบหน้าคมคร้ามที่ฉายชัดถึงความรักใคร่ ดังนั้น
เสียงหวานจึงเอ่ยออกไป
“ทะ...ทำข้าเถอะ...ทำตามที่ใจเจ้าต้องการ...ข้ายอม...ยอมทุกอย่าง...อืม...”
เสียงสุดท้ายกลืนหายไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากร้อนระอุประกบลงมาอีกครั้ง พร้อมกับเรือนกายสูงใหญ่ที่ขยับเสียดสีไปกับเรือนร่างนุ่มนิ่ม
ฝ่ามือหยาบก็รั้งขาเรียวให้แยกกว้างออก ก่อนที่จะแทรกกายเข้ามาแทนที่
ปลายนิ้วก็ไต่ไปตามช่วงตัวอ่อนบาง ปลุกปั้นอารมณ์รักของผู้ที่แก้มแดงระเรื่อ
เรียวปากเม้มขยับคลายหลายต่อหลายครั้ง
เฮือก
“อาห์”
ดงแฮครวญครางเสียงเบาหวิว เมื่อปลายนิ้วยาวชำแรกเข้ามาในช่องทางรักอย่างนุ่มนวล
ร่างทั้งร่างผวาเฮือก สองขาจิกเกร็ง ใบหน้ายิ่งแดงก่ำ ก่อนที่จะบิดกายน้อยๆ
ไปกับแรงรัญจวนใจของฝ่ามือที่เฝ้าขยับเข้าทักทายความอุ่นร้อนภายในซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“คิบอม...อาห์...คิบอม...อืม...”
สองขายิ่งรั้งกว้างออก เมื่อแรงขับเคลื่อนจากปลายนิ้วรุนแรงมากกว่าเดิม
สองมือจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง ฝากรอยเล็บเป็นทางยาว แบบที่คิบอมก็ยิ่งพึงใจ
ริมฝีปากก็เฝ้ามอบจูบให้กับร่างน้อยซ้ำๆ
ฟึ่บ
“คิ...บอม...”
ดงแฮทำได้เพียงทิ้งร่างลงกับความนุ่มของใบไม้ที่รองรับอยู่ใต้ร่าง หอบหายใจสะท้าน
เมื่อปลายนิ้วยาวดึงออกไปอย่างเชื่องช้า
ทำได้เพียงมองใบหน้าคมของผู้ที่รั้งขาของตนให้ยกสูงเดิม รับรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น
“ข้ารักเจ้านะดงแฮ...รักเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด”
สวบ
“อ๊า!” วีล่าน้อยยิ่งสะท้านเยือกไปทั้งตัว
เมื่อแท่งไฟร้อนระอุถูกนำมาถูไถที่ช่องทางคับแคบ
ก่อนจะดันกายเข้าไปในความอุ่นร้อนจนสุดความยาว ความร้อนผ่าวที่สอดแทรกเข้าไปอย่างนุ่มนวลราวกับจังหวะดนตรีที่แสนจะลงตัว
และทำให้ผิวเนื้อเนียนเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อทั่วทั้งตัว
“ไหวมั้ย...อาห์...ดงแฮ”
ถ้อยคำแฝงชัดด้วยความห่วงใย ซึ่งทำให้ร่างน้อยพยักหน้า สองมือสั่นระริกประคองแก้มสากเอาไว้มั่น
“ไหว...ข้าไหว...ท่านพี่...ของข้า”
“!!!”
จุ๊บ
หากคำสรรพนามเรียกขานไม่ทำให้องค์ชายหนุ่มตะลึงงันแล้ว
ก็เห็นจะเป็นริมฝีปากนุ่มที่ประทับแนบลงบนริมฝีปากได้รูป ทั้งยังขบเม้ม
หยอกเย้าอย่างไร้เดียงสาเสียจนสองมือแทบจะกระชากร่างน้อยเข้ามาในอ้อมกอด
ไม่อาจจะหักห้ามใจตนได้อีกต่อไป
สวบ
“อ๊า! ท่าน...พี่...อึ้ก...ท่าน...อ๊า...” ดงแฮได้แต่หวีดร้องในลำคอ
ดวงตาหลับแน่น เมื่อคลื่นความร้อนกำลังขับเคลื่อนเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า
สะโพกมนถูกประคองแน่น ยามที่ท่อนไฟร้อนผ่าวดึงออกเกือบสุด
แล้วดันเข้ามาสุดความยาวทุกครั้ง
จนเรือนกายอ่อนบางโยกคลอนไปตามความร้อนแรงที่เพิ่มมากขึ้นทุกที
เสียงครวญครางที่ดังก้องไปทั่วทั้งธารจันทรา
แว่วไปกับเสียงสายลมราวกับดนตรีจากสรวงสวรรค์ที่องค์ชายคิบอมฟังได้อย่างไม่รู้หน่าย
ความรุ่มร้อน
ความรุนแรง ทว่า เจือด้วยความหอมหวานอย่างที่สุดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
กับอ้อมกอดที่กระชับแนบเข้าหากัน
เสียงของผิวกายบดเบียดแนบชิดยิ่งทำให้ไฟรักยิ่งลุกโชน ริมฝีปากเล็กๆ
ก็เฝ้าวอนขอจูบหวานล้ำที่ช่วยดับเพลิงที่ลุกโชนนี้
คลื่นความรักดำเนินมาถึงปลายทาง
พร้อมกับเสียงครวญหวานๆ ที่กระถี่ชั้น
“ท่านพี่...ข้า...ข้ารักท่าน...รักท่าน....อ๊าาา!!!” ความเร่าร้อนดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ยามที่คำรักพร่ำกระซิบริมหู
จนองค์ชายคิบอมยิ่งเร่งจังหวะให้หนักหน่วง ส่งวีล่าน้อยให้ถึงปลายทางของอารมณ์
จนแผ่นท้องทั้งคู่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำสีขุ่น
“หากคืนนี้..ข้าไม่ปล่อยเจ้าจากอ้อมกอด...เจ้าจะโกรธเคืองข้าหรือไม่...”
“ไม่...แฮ่กๆ...ไม่เลย...สักนิด...”
และเปรียบเหมือนคำอนุญาตของดงแฮที่ส่ายหน้าตัวสั่นสะท้าน
หากแต่เรือนร่างอ้อนแอ้นกลับยังขยับกายรับความร้อนผ่าวที่สอดแทรกเข้ามาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
อย่างที่บอกกับองค์ชายหนุ่มว่าค่ำคืนนี้ วีล่าน้อยแสนเอาแต่ใจจะเป็นฝ่าย ‘เอาใจ’ บ้างเสียแล้ว
........................................................
อ่านต่อได้ที่
ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น