วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Special CL_18 สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ 2

Special CL_18 สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ 2



          ภายในคอนโดของหานฮันคยองคึกคักเป็นพิเศษเมื่อมีแขกหน้าตาสะสวยหลายคนกำลังนั่งล้อมวงมองสิ่งมีชีวิตน้อยๆ เป็นตาเดียว สิ่งมีชีวิตที่ฮยอกแจได้มาเมื่อสองสัปดาห์ก่อนซึ่งกำลังนอนหมอบอยู่บนที่นอนสุนัข ดวงตาใสแจ๋วสีดำสนิทก็กำลังมองแขกแปลกหน้าหลายคนอย่างสนใจ

            “น่ารักอ่ะ”

            “น่ารักจังเลย อยากได้บ้างจัง” เสียงใสของควอนยูริดังขึ้นเป็นคนแรก ขณะที่เอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลอ่อน ตามมาด้วยเสียงหวานของคุณหนูแทยอนที่ถึงกับเอ่ยปากอยากได้ ท่าทางของสองสาวที่ทำเอาเจ้าของเจ้าตัวเล็กยิ้มขำ

            “เนอะ ช็อกโก้ของฉันน่ารักที่สุดเลยเนอะ” ฮยอกแจว่า พลางส่งมือไปลูบเบาๆ ที่ส่วนลำตัวที่แม้ขนที่โกนไปเพราะการผ่าตัดยังไม่ขึ้นสักเท่าไหร่ แต่เจ้าตัวเล็กก็เห็นแววน่ารักมากๆ ถ้าเส้นขนนุ่มๆ ขึ้นยาวเสมอกัน

            แล้วเหมือนว่าการสัมผัสเบาๆ นี้ของเจ้าของจะทำให้เจ้าตัวเล็กหันมามอง จากนั้นช็อกโก้ก็ดุนหัวเบาๆ ที่มือเรียวอย่างออดอ้อน ให้ฮยอกแจยิ้มกว้าง

            “ใช่มั้ย ช็อกโก้ก็เห็นด้วยเนอะว่าน่ารักที่สุด”

            “โฮ่ง” เจ้าตัวเล็กเห่าตอบรับ พลางส่งลิ้นมาเลียมือนิ่มอย่างอ้อนๆ ให้เจ้าของสุนัขหมาดๆ ยิ่งมองอย่างแสนรัก

            แม้ว่าตอนแรกที่เจ้าตัวเล็กเข้ามาอยู่กับเขา มันจะแสดงออกว่าหวาดกลัวไม่น้อย ทั้งยังไม่ยอมให้จับ แต่พอผ่านไปได้หลายวัน มันคงเห็นว่าคนสวยใจดีที่คอยพยาบาลให้ข้าวให้น้ำ เปลี่ยนผ้าพันแผลให้เป็นเจ้าของ เจ้าตัวเล็กถึงคลานทั้งสภาพดามเหล็กเข้ามาออดอ้อนถึงที่ และนั่น...ก็ทำให้ลีฮยอกแจหลงเจ้าตัวน้อยอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

            “เจ้าตัวเล็กเจ็บมั้ยเอ่ย น่าสงสารจังเลย” ในขณะที่เจ้าของกำลังยิ้มกว้าง เพื่อนสนิทเจ้าของอย่างดงแฮก็กำลังลูบไปตามขาเล็กๆ อย่างเบามือ ดวงตาคู่สวยมองอย่างเป็นห่วงเจ้าตัวน้อย ให้ฮยอกแจตอบคำ

            “หมอบอกว่าดามเหล็กไม่นานก็หายแล้วล่ะ โชคดีที่มันไม่ได้หักรุนแรงมากน่ะ ด๊อง” ฮยอกแจว่าพลางแตะมือลงบนขาเล็กๆ อย่างเบามือ ซึ่งทำให้เพื่อนสนิทยิ้มหวานขึ้นมาทันที ใบหน้าสวยก็ก้มลงต่ำ เพื่อใช้ปลายจมูกแตะเข้าที่ปลายจมูกเล็กๆ อย่างรักใคร่

            “ไม่เป็นไรเนอะ เจ้าตัวเล็ก ฮยอกบอกว่าเดี๋ยวก็หาย” ดงแฮว่าอย่างน่ารัก แล้วเหมือนช็อกโก้จะรู้ด้วยว่าคนนี้ดีกับมัน ขาข้างที่ไม่เป็นไรถึงยื่นมาสะกิดที่ท่อนแขนเรียวเบาๆ ให้ดงแฮยิ่งยิ้มถูกใจ

            “น่ารักอ่ะ แทแท ถ้าด๊องขอพี่คิบอมเลี้ยง พี่คิบอมจะให้เลี้ยงบ้างมั้ยอ่า...” ว่าแล้ว คนสวยหน้าหวานก็หันไปถามลูกพี่ลูกน้องแฟนหนุ่ม ให้แทยอนนิ่งไปสักพัก แล้วก็ยิ้มแหย

            “ไม่รู้สิ แต่ถ้าด๊องขอน่าจะได้มั้ง” คำตอบของคุณหนูคิมทำให้คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก มือเรียวก็ตบเบาๆ ที่ลำตัวเจ้าตัวเล็ก แต่ก่อนที่จะให้คนความรู้สึกช้าเกิดอยากเลี้ยงสุนัขขึ้นมาจริงๆ ยูริก็รีบเอ่ยแทรกขึ้นมาทันควัน

            “ก่อนที่นายจะเลี้ยงหมาน่ะ นายตื่นเต้นสักนิดก่อนดีมั้ยว่าอีกไม่ถึงสองสัปดาห์จะเป็นงานแต่งนายกับพี่คิบอมน่ะ” ยูริว่าพลางจิ้มลงบนขมับเล็กๆ ของเพื่อนสนิทแล้วดันจนดงแฮหัวเราะคิก ดวงตาคู่สวยพราววิบวับ ก็แม้เขาจะขี้ลืมยังไง แต่เขาไม่ลืมวันแต่งงานของตัวเองหรอกนะ

            จริงๆ แล้วน่ะที่เพื่อนสนิทสุดซี้ทั้งสี่มารวมตัวกันก็เพราะเรื่องงานแต่งงานของดงแฮนั่นล่ะ ผิดหรือที่เจ้าปลาติ๊งต๊องความรู้สึกช้าดันลืมนั่นลืมนี่ จนยูริทนไม่ไหวกระโดดเข้ามาช่วยเท่าที่จะช่วยได้ ก่อนที่เจ้าเพื่อนบ้าจะดันลืมวันนัดไปแก้ชุดจนใส่ชุดหลวมๆ เข้าโบสถ์น่ะ

            ส่วนแทยอนน่ะหรือ คิบอมเป็นคนส่งน้องสาวคนสนิทมาช่วยดงแฮโดยเฉพาะ แล้วสำหรับฮยอกแจที่ถูกดึงมาเอี่ยวก็เพราะ หนึ่งเป็นเพื่อนเจ้าสาว และสอง...สามีหวงจัดไม่ยอมให้ทำงานดังนั้นจึง...ว้างว่าง ดังนั้น ทั้งหมดที่เพิ่งไปร้านตัดชุดก็เลยมารวมตัวกันที่คอนโดใหญ่จนได้

            ไม่ได้เกี่ยวกับที่ฮยอกบอกว่าได้สุนัขมาเลี้ยงเลยจริ๊งจริง

            “ด๊องตื่นเต้นนะ จะแต่งงานกับพี่คิบอม ตื่นเต้นจะตายแล้ว” แล้วคนความรู้สึกช้าก็แก้มแดงน้อยๆ ขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ก็แหม จะช้ายังไง นี่งานแต่งครั้งสำคัญของชีวิตเลยนะ ท่าทางที่ทำเอาเพื่อนฝูงอดจะหัวเราะไม่ได้ แล้วก็เป็นแทยอนที่กระเซ้าขึ้นมา

            “ไม่ใช่แค่ด๊องที่ตื่นเต้นนะ ฉันไม่เคยเห็นพี่คิบอมอารมณ์ดีขนาดนี้มาก่อนเลย ได้ข่าวว่าคนในบ้านบอกว่าพี่คิบอมยิ้มบ่อยจนน่าแปลก” แทยอนเสริมคำทันที พลางนึกถึงพี่ชายแสนเย็นชาที่ตีหน้านิ่งเป็นนิจ แต่พอใกล้งานแต่งเข้าไปทุกที คนเย็นชาก็เป็นคนใจดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ

            เพราะนั้นช่วงนี้ต้องกอบโกย อยากได้อะไรต้องขอ!

            “แล้วนายล่ะฮยอก เมื่อไหร่จะแต่ง” ไม่วาย ยูริยังหันมาถามเพื่อนที่กำลังเล่นกับสุนัขที่นอนใกล้ๆ ให้มาดามมาเฟียเงยหน้าขึ้นสบตา ก่อนที่จะส่ายหน้าช้าๆ

            “ไม่รู้สิ พี่ฮันไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้นะ...” เสียงใสเบาหวิวลงทีละน้อย จนทำให้สองสาวสาวกวายหันมาสบตากันแวบหนึ่ง ในเมื่อคู่นี้ยังไม่ได้เตรียมงานแต่ง แต่ไอ้ที่พาไปแนะนำตัวกับคนทั้งตระกูลที่จีนก็บอกได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร แล้วมีหรือที่ฮยอกแจจะไม่รู้ แต่อาการเสียงเบาๆ แบบนี้มันน่าจะมีสาเหตุอื่น

            “อะไร เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ เกิดอะไรขึ้น” ยูริถามกลับทันควัน พลางเขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆ ให้เพื่อนไก่จะขยับหนี ถ้าไม่ติดที่แทยอนก็หันมามองอย่างสนใจ และจากการที่รู้จักสองคนนี้มานาน (แทยอนนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ยูริเนี่ยสิ) ฮยอกแจก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ

            “อ่า ด๊อง ฉันว่านะ...”

            “หยุด!! อย่าเปลี่ยนเรื่อง อะไร ทำไม นายมีปัญหากับพี่ฮันคยองหรือ” ไม่ต้องรอให้ลูกเจี๊ยบเบี่ยงประเด็น เพื่อนสาวก็ร้องเสียงดังให้คนขี้ตกใจสะดุ้งน้อยๆ หันรีหันขวางจะหาตัวช่วย แต่ในเมื่อบ่ายๆ เช่นนี้พี่ฮันยังไม่กลับ เจ้าตัวก็เลยได้แต่ช้อนตาขึ้นมอง

            “ก็...ไม่มีอะไร แค่ช่วงนี้รู้สึกว่าพี่ฮันอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่...มั้ง” ไม่วายลงท้ายเสียงอย่างไม่มั่นใจ ทั้งที่เจ้าตัวโคตรมั่นใจเลยว่าพี่ฮันอารมณ์ไม่ดี เพียงแต่เขาไม่รู้เท่านั้นเองว่าอารมณ์ไม่ดีนี่มีสาเหตุจากอะไร

            ก็สองสามวันนี้ตาโหดๆ เหมือนจะเหี้ยมขึ้นยังไงไม่รู้ หน้าคมๆ ก็นิ่งจนน่ากลัว เล่นเอาได้แต่นั่งนิ่งๆ ไม่กล้าถามอะไรสักอย่างเดียว จนอดกังวลไม่ได้ว่าสาเหตุมาจากเขา...หรือเปล่า

            “ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะฮยอก” คำถามที่ทำให้คนฟังเม้มปากน้อยๆ ก่อนที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน

          นั่นสินะ พี่ฮันอารมณ์เสียตั้งแต่เมื่อไหร่

            “สองสัปดาห์...มั้ง ถ้าไม่ใช่ก็เกือบๆ ช่วงนี้เลยเวลาอยู่ด้วยกันฉันเลยไม่กล้าสบตาเท่าไหร่เลย” ฮยอกแจพึมพำเบาๆ ไม่บอกหรอกว่าแม้แต่เวลาอยู่บนเตียงที่ความถี่น้อยลง พี่ฮันก็รุนแรงกว่าปกติ แต่เขาไม่กล้าถามนี่ว่าพี่เขาเป็นอะไร

            คำตอบที่ทำเอาสองสาวถึงกับทำหน้ามึน

            “ทำไมอ่ะ แปลกแฮะ พี่ฮันเวลาอยู่กับฮยอกอารมณ์ดีจะตายไม่ใช่หรือ หน้าเหี้ยมๆ นั่นเวลาอยู่กับฮยอกก็ดูใจดีกว่าเดิมตั้งเยอะ...คิดแล้วแอบสยองแฮะ ขนาดอยู่กับฮยอกยังดูอารมณ์ไม่ดี แบบนี้ลูกน้องคนอื่นไม่กลัวกันหัวหดเลยหรือ” แทยอนบอกตามที่คิด จนคนที่คิดภาพตามได้แต่พยักหน้าหงึกๆ อย่างแอบเห็นด้วย

            และเหมือนว่าการวิเคราะห์ของเพื่อนจะทำให้คนที่หลงช็อกโก้เริ่มหน้าเสีย

            “ฉันนึกว่าพี่เขาอาจจะมีปัญหาเรื่องงาน...”

          หรือไก่ทำอะไรผิดหรือเปล่าหว่า

            “เพราะเจ้าตัวเล็กหรือเปล่าอ่ะฮยอก”

            “หืม!” แต่แล้ว เสียงหวานๆ ของคนที่สวรรค์ส่งมาโปรดตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงตอนนี้ก็ดังขึ้น ให้ทุกสายตาหันไปจับจ้องดงแฮที่กำลังลูบหัวสุนัขตัวน้อยที่เงยหน้าขึ้นมองทำนองว่ามันทำอะไรผิดหรือ แล้วใบหน้าสวยหวานก็แย้มยิ้มน้อยๆ เสียงหวานก็ว่าตามที่คิด

            “ก็สองสัปดาห์ เท่ากับที่ฮยอกได้ช็อกโก้มาเลยนี่นา อืม พี่ฮันไม่ชอบอะไรช็อกโก้หรือเปล่าอ่ะ”

            “ไม่นี่...” ฮยอกแจที่จะเอ่ยแก้แทนสุนัขตัวน้อยถึงกับเงียบเสียงลงทีละน้อย ก่อนที่ดวงตาค่สวยจะเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ

          หรือว่าใช่หว่า

            ก็ถ้ามาคิดจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ได้ช็อกโก้มา พี่ฮันก็อารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ หลายวันมานี้ก็ไม่ได้ อ่า...ทำอะไรกันเลยด้วย เพราะพอพี่เขาจะนอน ตัวเขาเองยังคงดูช็อกโก้อยู่ไม่ห่าง กลัวมันจะเอาขาไปเกี่ยวกับอะไรให้เป็นหนักกว่าเดิม หลังๆ มานี้เวลาทานข้าว เขาก็ให้พี่ฮันทานก่อน เพราะต้องเฝ้าว่าช้อกโก้กินอาหารและยาที่ยัดซ่อนเอาไว้ให้หมด

            “ไม่จริงน่า...” ลูกเจี๊ยบตัวน้อยพึมพำอย่างตื่นตระหนก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น และนั่นก็ทำให้ยูริถึงกับคว้าหมับเข้าที่ไหล่บางแล้วถามอย่างอยากรู้

            “เล่ามาหมดเดี๋ยวนี้เลยนะลีฮยอกแจ!” และคำประกาศิตของยูริก็ทำเอาคนฟังได้แต่ยิ้มแห้งๆ กลืนน้ำลายอีกเอื้อกเมื่อเห็นดวงตาวาววับของควอนยูริ แล้วนึกภาพออกมั้ย ควอนยูริก็ไม่ต่างจากลีซองมินหรือคิมเรียวอุคเลยนะ ดังนั้น เรื่องราวตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนจึงหลุดจากปากอย่างช่วยไม่ได้

            เรื่องที่ทำเอาสองสาวถึงกับเหวอ

            “อย่าบอกนะว่า...” แทยอนเอ่ยเสียงเบาอย่างไม่อยากเชื่อ ซึ่งแม้ไม่มีใครเอ่ย ทุกคนก็คิดเหมือนกันว่า...

            “พี่ฮันหึงช็อกโก้ไงฮยอก” และแน่ล่ะว่าคนที่เอ่ยออกมาไม่ใช่ใครอื่น...ก็ลีดงแฮเจ้าเก่านั่นแหละ คำที่ทุกคนอุตส่าห์ไม่พูด แต่สายตาก็จับจ้องมองใบหน้าสวยของลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่ซีดหนักไปแล้ว

            ตกลงว่าพี่ฮัน...หึงหมาจริงๆ หรือเนี่ย

..................................................................

           

            หลายวันมานี้ หานฮันคยองกำลังรู้สึกหงุดหงิด ไม่สิ มันไม่ใช่หงุดหงิดธรรมดา มันโคตรจะหงุดหงิดเลย!

            ปัง ปัง ปัง!!!

            ภายในสนามยิงปืน มาเฟียหนุ่มกำลังปล่อยลูกกระสุนจากรังเพลิงรวดเดียวจนหมดแม็กกาซีน ตาคมที่สวมที่กันลมก็หรี่ลง แววตาที่ปกติฉายแววโหดเหี้ยมอยู่แล้วยิ่งเหี้ยมกริบขนาดที่ว่าไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าเอ่ยปากถามอะไรสักคำ

            ยังไม่นับรวมว่าอาการนี้เป็นมา...กว่าสัปดาห์แล้ว

            แกร๊ก

            ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!!!

            เฮือก!!

            ลูกน้องในชุดสีสูทสีเข้มสะดุ้งกันเป็นแถว เมื่อผู้เป็นนายจัดการเปลี่ยนแม็กกาซีนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยกปืนขึ้นเล็งที่เป้าเดิม ปล่อยกระสุนออกมาจากรังเพลิงรัวเร็วขนาดไม่มีให้พักหายใจ อาการสะดุ้งที่ผู้เป็นนายไม่คิดสนใจ นอกจากดวงตาคู่คมที่ยิ่งหรี่ลงอย่างหงุดหงิด

            ปัง!

            เฮือก

            “เตรียมรถ” แล้วคนที่ระบายอารมณ์กับการยิงปืนไปครู่ใหญ่ๆ ก็กระแทกด้ามปืนลงบนโต๊ะตรงหน้าเสียงดังลั่น เสียงทุ้มก็เอ่ยหนักๆ เมื่อวิธีที่ใช้ระบายความหงุดหงิดใช้ไม่ได้ผลอย่างทุกครั้ง ก่อนที่ขายาวจะหมุนตัวจากไปอีกทางอย่างไม่ให้ใครคาดเดาอารมณ์ได้ถูกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

            ผิดกับฮันคยองที่รู้ดีว่ากำลังเกิดอะไรกับตัวเอง

          แค่ไม่พอใจ...ใช่...แค่ไม่พอใจเท่านั้น

            ฮันคยองบอกตัวเองเสียงเข้ม พลางนึกถึงสาเหตุที่ทำให้หงุดหงิดจนหาที่ระบายออกไม่ได้ ทั้งที่ทุกทีคนอย่างเขาไม่เคยเก็บเรื่องอะไรเอาไว้ในใจ ถ้าหงุดหงิดนักก็ออกแรงสักนิดก็หาย หรือมาช่วงหลังๆ ที่เพียงได้กอดลูกเจี๊ยบตัวน้อยแสนขี้กลัว ความหงุดหงิดก็หายเป็นปลิดทิ้ง แต่คราวนี้มันไม่เหมือนกัน เพราะความหงุดหงิดนี้เกิดขึ้นเพราะ...เมีย

            ไม่สิ ลูก (เวร) ของเมียต่างหาก

            ความคิดที่ทำให้ฮันคยองสบถในลำคอ เมื่อนึกถึงสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่เขาเป็นคนเอ่ยปากอนุญาตให้เลี้ยงเอง แต่ถ้ารู้ว่ามันเป็นอย่างนี้ เขาจะไม่มีวันใจอ่อนให้กับความอยากได้ของฮยอกแจเลย

            ชายหนุ่มบอกตัวเองยามที่กระแทกตัวเข้าไปในรถคันหรู แล้วย้อนคิดถึงเรื่องราวเมื่อสัปดาห์ก่อน

            ในเมื่อหลังจากที่คนขี้กลัวของเขาได้เจ้าช็อกโก้มาหลายวัน จากที่ร่างเล็กจะคอยเขากลับมาบ้าน คอยถามไถ่ว่าเหนื่อยมั้ยฮะ หิวมั้ยฮะ จะอาบน้ำก่อนมั้ย (แม้จะอยู่ในโหมดไม่กล้าสบตาก็ตาม) เวลานี้เจ้าตัวกลับนั่งเฝ้า นอนเฝ้า เอาแต่ถามเจ้าหน้าขนว่าเจ็บหรือเปล่า เปลี่ยนผ้าพันแผลมั้ย แล้วเวลาจะกินข้าวที่ฮยอกแจต้องรอเขาทานพร้อมกันก็กลายเป็นว่าเขาต้องกินคนเดียว เพราะเมียเอาแต่ประคบประหงมหมา...ไม่พอ!!! ตอนที่จะเข้านอน จะทำการบ้านเหมือนที่ผ่านๆ มา ฮยอกแจก็บอกว่า...

          พี่ฮัน...นอนไปก่อนนะฮะ...คือ...ผมห่วงช็อกโก้น่ะฮะ

            แล้วมันหน้าที่เมียเขาหรือที่ต้องกล่อมหมาให้นอนก่อนถึงจะเข้านอนได้น่ะ!

            ฮันคยองคิดอย่างหงุดหงิด รู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องงี่เง่าที่สุดในชีวิตที่เขาต้องมาทนความรู้สึกแบบนี้ แต่ที่ยอมอยู่นิ่งๆ เฉยๆ เพราะว่า....ฮยอกแจมีความสุข

            ใช่ เพราะคำนี้คำเดียวแท้ๆ เพราะว่าเวลาที่ร่างเล็กเอาแต่ยิ้ม หัวเราะ หรือนั่งคุยกับเจ้าช็อกโก้ ฮยอกแจดูมีความสุขที่ได้มีสัตว์เลี้ยงตัวนี้ และนั่นเป็นเหตุผลเดียวที่เขาไม่สั่งคนให้เอามันไปโยนทิ้งที่กองขยะข้างทางสักแห่ง...ทั้งที่นึกอยากทำอยู่ก็เถอะ

            แต่ถ้าทำคนที่ร้องไห้ก็ไม่ใช่ใคร...ลีฮยอกแจ แล้วใครที่ทนไม่ได้...ก็หานฮันคยองยังไงล่ะ

            “ฉันน่าจะรักเธอน้อยกว่านี้หน่อยนะ ฮยอกแจ” ฮันคยองพึมพำอย่างหัวเสียไม่น้อย ยามมองเส้นทางกลับบ้านที่แสนคุ้นเคย ทั้งที่เมื่อก่อน ไม่สิ ก่อนหน้านี้สักสองสัปดาห์ ถ้าเขาไม่มีงาน ไม่มีอะไรต้องจัดการ เขาก็มักจะตรงดิ่งกลับบ้านไปใช้เวลาอยู่กับฮยอกแจ มีช่วงนี้นี่แหละที่ไม่อยากกลับ

            กลับไปดูเมียนั่งหัวเราะกับหมาน่ะหรือ เฮ้อะ ขำตายเลย

            “ฮึ” ฮันคยองส่งเสียงในลำคอ แต่ทำเอาลูกน้องคนสนิทได้แต่แอบผวา สีหน้าของผู้เป็นนายที่เหมือนจะบุกเข้าไปทลายรังของศัตรูตลอดเวลายิ่งทำให้แทบไม่กล้าหายใจ ในใจก็นึกภาวนาขอให้คนๆ เดียวที่น่าจะช่วยได้ออกโรงเสียที

            ในเมื่อใครๆ ก็รู้ว่าคนเดียวที่ทำให้มังกรตัวร้ายสงบลงได้มีเพียงแค่ลีฮยอกแจ แต่ลูกน้องของฮันคยอง
ในเวลานี้ก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าคนเดียวกับที่ทำให้สงบก็ทำให้ปั่นป่วนได้ยิ่งกว่าใครเช่นเดียวกัน

            RRRRRRRRRRRRRrrrrrrrrr

            แต่แล้วโทรศัพท์เครื่องหรูก็แผดเสียงดังลั่นที่ทำให้ฮันคยองเพียงดึงมันขึ้นมา ทั้งที่ปกติหากคนๆ นี้โทรมา เขาคงกดรับทันทีอย่างไม่ปล่อยให้เสียเวลา แต่วินาทีนี้มาเฟียหนุ่มกลับนิ่งไปครู่ใหญ่ๆ จนกระทั่งสายตัด

            ภาพที่หากคนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังว่าเกิดอะไรขึ้นคงขำไม่ออก ในเมื่อคนอย่างหานฮันคยองกำลังน้อยใจเมีย จนกระทั่งโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งที่สองนั่นแหละ คนที่กำลังหรี่ตาลงอย่างน่ากลัวถึงกดรับสาย

            “...”

            “พะ...พี่...” และเหมือนว่าความเงียบของคนทางนี้จะทำให้ปลายสายที่เพิ่งรับรู้ความผิดตัวเองได้แต่ร้องเรียกเบาๆ เสียงใสก็สั่นสะท้านอย่างเกรงกลัวว่าคนรักจะโกรธ และนั่นก็ทำให้คนที่ทำนิ่งมาตลอดสองสัปดาห์แสยะยิ้ม

            ใช่ เขาไม่ได้เอ่ยบอกกับฮยอกแจว่าเขากำลังไม่พอใจอะไรอยู่ ทั้งที่ปกติ ลูกเจี๊ยบตัวน้อยต้องรับรู้ความรู้สึกของเขาเร็วกว่าใคร แต่มีครั้งนี้ที่คนตัวเล็กรู้สึก ช้า ขนาดนี้

          เพราะไอ้หมาเวรตัวเดียวนั่นแหละ

            ความคิดที่ยิ่งทำให้ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดอย่างไม่อยากจะยอมรับความจริงมากนักว่าคนอย่างเขาไม่พอใจหมาตัวแค่ลูกฟุตบอล

            “พะ...พี่ฮันฮะ....คือ...พี่ฟังอยู่หรือเล่าฮะ” แต่แล้ว ความคิดก็ต้องสะดุด เมื่อน้ำเสียงสั่นสู้ที่ได้ฟังมาตลอดหลายปีดังขึ้นเบาๆ ให้คนฟังเอ่ยขึ้นเป็นคำแรก

            “ฟังอยู่”

            “คะ...คือ พี่จะกลับบ้านหรือยังฮะ...คือ...คือผมไม่ได้เร่งนะฮะ แต่ผม...เอ่อ...ทำของโปรดพี่ ไม่รู้พี่จะกลับมาทานเลยหรือเปล่า...” เสียงใสที่ดังแบบกล้าๆ กลัวๆ อย่างที่คนฟังเดาออกเลยว่าฮยอกแจต้องรู้ตัวแล้วว่าเขาไม่พอใจอะไรสักอย่าง ดวงตาคู่คมที่ฉายแววเหี้ยมก็คลายตัวลงทีละน้อย

            “กำลังจะถึง” คำตอบที่ทำเอาคนมีความผิดติดตัวสะดุ้งน้อยๆ รู้สึกเหมือนยังเตรียมใจไม่ทันยังไงไม่รู้ แต่เสียงใสก็รีบเอ่ยบอก

            “งะ...งั้นเดี๋ยวเจอกันนะฮะ...”

            “อืม...”

            “อ้ะ ช็อกโก้ อย่ากัดแผลสิ...โธ่” เกือบแล้ว ฮันคยองเกือบจะอารมณ์ดีขึ้นมา (นิดนึง) แล้ว แต่ก่อนที่สายจะตัดออกไป เขาดันได้ยินเสียงหวานใสที่เอ่ยกับเจ้าสัตว์หน้าขนตัวโปรดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างสุดซึ้ง แบบที่ทำให้ตะกอนความหงุดหงิดถูกกวนขึ้นมาอีกครั้ง

          กูไม่น่าใจอ่อนเลยจริงๆ

...................................................................


            ปัง!

            “อ้ะ พี่ฮันมาแล้วๆ ช็อกโก้นอนดีๆ นะ เป็นเด็กดีของฮยอกแจนะ...จุ๊ๆ”

            ภายในคอนโดแสนกว้างขวางของฮันคยอง หลังจากที่เพื่อนสนิททั้งสามกลับออกไปแล้ว และไม่วายมีคำแนะนำยาวเป็นกระบุงจากสองสาวเพื่อนซี้ มีคำแนะนำแปลกๆ จากดงแฮในการง้อมาเฟียหนุ่ม ฮยอกแจก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ตัวเองถนัดด้วยการ...เข้าครัว

          ก็ทำอาหารทุกอย่างที่พี่ฮันชอบนั่นแหละ ไก่คิดได้เท่านี้นี่นา

            ความคิดของคนสวยตัวเล็กที่กว่าจะทำใจโทรหาคนรักได้ก็นานสองนาน ในเมื่อรู้ความผิดของตัวเองแล้วว่าทำอะไรลงไปบ้าง มันเป็นความผิดของเขาเองที่เห็นว่าพี่ฮันปกติดี มีแค่รุนแรงบนเตียงบ้างนิดหน่อย ไม่พูดไม่จา นิ่งๆ เงียบๆ ไอ้เราก็นึกว่าเครียดเรื่องงาน ก็ใครจะคิดล่ะว่า...เอ่อ...เป็นเรื่องของช็อกโก้น่ะ

            แล้วให้ตายคนอย่างลีฮยอกแจก็ไม่กล้าถามหรอกว่าพี่ฮันหึงผมหรือ (แล้วคู่กรณีเป็นแค่สุนัขพันธุ์ปอมเปเรเนียนตัวเล็กขนฟูด้วยน่ะนะ) ให้ตายก็ไม่ถามเด็ดๆ เลยล่ะ

            แต่เมื่อตั้งโต๊ะทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย รอเพียงคนรักกลับมาให้เขาขอโทษ เสียงร้องเบาๆ ของเจ้าลูกรักก็ทำเอาฮยอกแจวิ่งไปหามันทันที ท่าทางที่มันพยายามเลียแผลอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก ทำให้มือเรียวยกขึ้นตบเบาๆ ที่ข้างลำตัวราวกับปรามมันเอาไว้

            จังหวะเดียวกับที่เสียงประตูหน้าห้องเปิดดังปังจนคนตัวเล็กสะดุ้งโหยง ตั้งใจจะวิ่งไปหาคนรักรูปหล่อ หากแต่ติดที่ช็อกโก้กำลังเอาหน้าไปถูแผลอีกแล้วจนความเป็นห่วงล้นปรี่อยู่ในอก

            ก็ถ้าเหล็กที่ดามไว้ผิดรูปล่ะ ถ้าเอาเหล็กออกแล้วมันขาเป๋ล่ะ ถ้ามันเลียแผลจนอักแสบขึ้นมาล่ะ และอีกหลายถ้าที่ทำเอาคนคิดมากทั้งยังจิตตกได้แต่ละล้าละลัง ไม่รู้จะทำยังไงดี

            และแน่ล่ะว่าเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เอาแต่นั่งยองๆ อยู่ข้างเบาะสุนัข มาเฟียหนุ่มก็ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว

            ดังนั้นภาพที่ฮันคยองเห็นในเวลานี้คือเมียสุดที่รักกำลังนั่งลูบขนฟูๆ ของเจ้าหน้าขนอย่างเบามือ ดวงตาเรียวสวยฉายชัดถึงความห่วงใยอย่างออกนอกหน้า และเพียงหันมาเห็นว่าเขายืนอยู่เท่านั้นแหละ

            เฮือก!

            ฮยอกแจสะดุ้งสุดตัว ดวงตาเรียวสวยที่ฉายแววเป็นห่วงเปลี่ยนเป็นผวาน้อยๆ แบบที่ทำให้คนมองนึกหงุดหงิดอยู่ในใจ อีกทั้งเนื้อตัวที่สั่นนั่นก็ทำให้มาเฟียหนุ่มอยากบอกอยู่เหมือนกันว่าทีกับไอ้เจ้าตัวเล็กนี่ห่วงนักห่วงหนา แต่กับเขาทำไมถึงกลัวนักกลัวหนาขนาดนี้

            “พะ...พี่ฮัน...” เสียงหวานสั่นน้อยๆ กับดวงตาคมวาวที่ยามนี้วาววับจนน่ากลัว อีกทั้งยังฉายแววเหี้ยมไม่น้อยยามตวัดมองเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่ไม่ห่างจากเขา และนั่น...ก็ทำให้ฮยอกแจรีบอุ้มช็อกโก้เข้ามากอดเอาไว้แนบอก

          ชัวร์เลย พี่ฮันไม่ชอบเจ้าช็อกโก้จริงๆ ด้วย ฮือ อย่าทำหมาของไก่นะ

            ท่าทางปกป้องอย่างออกนอกหน้า โดยมีเจ้าหมาหน้าตาน่าเอ็นดูโผล่หัวมาวางลงตรงช่วงท่อนแขนขาว ใช้ดวงตากลมโตจับจ้องมองมาทางเขาก็ทำให้คนหงุดหงิดนึกอยากเอามันไปโยนทิ้งข้างนอกตงิดๆ

            “คิดว่าฉันจะทำอะไรมันหรือไง” ฮันคยองถามด้วยน้ำเสียงห้วนจัด เมื่อเมียสุดที่รักเผลอขยับถอยไปด้านหลังอีกก้าว และเพียงเสียงทุ้มเอ่ยถาม คนที่ถอยก็เพิ่งรู้ตัวว่าแสดงออกมากไป ใบหน้าสวยถึงส่ายไปมาขวับๆ แต่มือเรียวกลับกอดกระชับเจ้าตัวเล็กแน่นขึ้น

            “ปะ...เปล่านะฮะ ผมเปล่าคิดแบบนั้นเลยนะฮะ” ฮยอกแจว่าเสียงเบา ในหัวก็กำลังประมวลผลอยู่ว่าควรจะเอาคำแนะนำของเพื่อนคนไหนมาใช้ดี แล้วข้อแนะนำแต่ละอย่างก็เหมือนจะพาให้เสียตัวยังไงไม่รู้จนริมฝีปากสีระเรื่อได้แต่ยิ้มแหยๆ

          ถ้าเอาช็อกโก้นอนตรงนี้แล้วเข้าครัว พี่ฮันจะทำอะไรหรือเปล่า

            “คิดจะโกหกฉันหรือ”

            “ปะ...เปล่านะฮะ...” คนโกหกที่บอกว่าไม่คิดอะไร แต่เตรียมอุ้มหมาลี้ภัยได้แต่บอกเสียงสั่นๆ ใบหน้าสวยก็ก้มลงต่ำเหมือนเด็กๆ ที่ทำผิดแล้วถูกจับได้ ปากบางแบะออกนิดๆ เหมือนจะร้องไห้ ดวงตาเรียวสวยที่เหลือบขึ้นมองก็สบเพียงนิดแล้วก็รีบหลุบลงต่ำอย่างเกรงว่าสามีจะกินหัวอย่างนั้นแหละ

            ท่าทางที่ฮันคยองมั่นใจเต็มร้อยว่าลูกเจี๊ยบไร้ทางสู้ตรงหน้ารู้แล้วว่าเขาหงุดหงิดเพราะอะไร

            “ถ้ายังไม่วางมันลงแล้วตามมา ฉันไม่รับประกันนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ว่าจบปุ๊บ ฮันคยองก็หมุนตัวหายไปอีกทางห้องนอนทันที จนทำเอาคนตัวเล็กได้แต่สะดุ้งเฮือก มือเรียวรีบวางช็อกโก้ลงบนที่นอนนุ่มของมันอย่างรวดเร็ว

            “เด็กดีๆ อย่าร้อง อย่าเลียแผลนะลูกนะ เดี๋ยวหม่าม๊ามานะ พี่ฮันเขาคงไม่ทำอะไรแกหรอก...มั้ง” ท้ายเสียงฮยอกแจได้แต่บอกอย่างไม่มั่นใจ มือเรียวก็วางปุที่หัวเจ้าหมาน้อยที่ร้องงี๊ดๆ เบาๆ ทั้งยังเอาหัวมาดันมือเขาเอาไว้อย่างน่าเอ็นดู จนคนที่กลัวจนสั่นเริ่มมีรอยยิ้มบางๆ

            “หม่าม๊าจะไม่ให้พี่ฮันทำอะไรแกนะช็อกโก้” ฮยอกแจบอกราวกับปลอบใจลูกรัก ทั้งที่เจ้าตัวเล็กไม่ได้รับรู้ไปด้วยเลยว่านายของมันอีกคนกำลังโกรธอยู่น่ะ และเหมือนว่าคนตัวเล็กคงอ้อยอิ่งอยู่แบบนั้นถ้าไม่ใช่เพราะ...

          “ลี-ฮยอก-แจ”

            น้ำเสียงเด็ดขาดที่ดังมาจากอีกห้องหนึ่งทำเอาเจ้าของชื่อสะดุ้งพรวดขึ้นมายืนตัวตรง ร่างเล็กรีบหมุนตัวแล้ววิ่งไปทางคนเรียกทันทีอย่างอดจะเกรงกลัวไม่ได้

            ก็พี่ฮันไม่ได้หงุดหงิดอย่างนี้มานานมากแล้วนี่นา ขนาดเรียกชื่อเต็มแบบนี้

            ความคิดของคนที่ก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่มองเห็นวิวแบบพาโนรามา ดวงตาคู่สวยก็มองคนตัวโตที่เวลานี้กำลังยืนเอามือไพล่หลังชิดกระจกใสด้านหนึ่งอย่างหวั่นๆ หัวใจหล่นตุบไปที่ตาตุ่มเมื่อรู้ว่าพี่ฮันไม่ทำอะไรเขาหรอก แต่กับช็อกโก้แล้ว...ไม่แน่

            และนั่นทำให้คนขี้กลัวสูดหายใจเข้าลึกๆ

            หมับ

            “พี่ฮะ...” ร่างเล็กบอบบางที่ขยับมาใช้สองมือกอดรอบเอวสอบเอาไว้แน่น ใบหน้าเรียวสวยที่เผือดสีไปนิดก็ซบลงที่แผ่นหลังกว้างอย่างไม่แน่ใจ เสียงที่ดังคล้ายอ้อนก็สั่นจนคนฟังรู้เลยว่าเจ้าตัวกำลังกลัว

            และแน่ล่ะว่าความกลัวนี้น่าจะเป็น...กลัวเขาฆ่าหมา

            “...”

            ฮันคยองยังคงเงียบ แต่คนที่กอดเอาไว้แน่นใจเสียไปเรียบร้อยแล้ว มือเรียวยิ่งกอดรัดอีกฝ่ายแน่นขึ้นราวกับงอนง้อทั้งที่กลัวแทบตาย ใบหน้าสวยก็ถูไถเบาๆ ราวกับอ้อนทั้งที่ใจหล่นตุบไปเรียบร้อยแล้ว

            ท่าทางของฮยอกแจหากเป็นเวลาปกติ ฮันคยองคงหายหงุดหงิดเป็นปลิดทิ้ง แต่ในเวลาที่อารมณ์มันขุ่นมัวมาตลอดสองสัปดาห์ ชายหนุ่มถึงยังทำเพียงมองวิวตรงหน้าเงียบๆ ให้คนง้อรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก

            “พี่อย่าเงียบสิฮะ...ผมขอโทษ”

            “เรื่องอะไร” คำแรกที่คนตัวโตพอจะตอบให้ใจชื้นขึ้นมานิด แต่ความผิดของตัวเองที่มันเกี่ยวข้องกับความหงุดหงิดของอีกฝ่ายเนี่ยสิที่ทำให้ฮยอกแจไม่กล้าเอ่ยออกมา

          ขอโทษที่สนใจหมามากกว่าพี่งั้นหรือ ไม่อ่ะ ให้ตายไก่ก็ไม่พูดเด็ดๆ เลย พี่ฮันเอาตายแน่เลย

            ความคิดของคนตัวเล็กที่ยิ่งซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง ยามที่น้ำตาหยดโตกำลังเอ่อคลอรอบดวงตาคู่สวยทีละน้อย

            “พะ...พี่อย่าโกรธผมนะฮะ ผมขอโทษ...ขอโทษนะฮะ” เสียงใสบอกเหมือนจะร้องไห้ที่ทำให้คนแพ้น้ำตาเมียถอนหายใจออกมายาวเหยียด

            ฟึ่บ

            “ร้องไห้ทำไม” ฮันคยองหมุนตัวกลับมาหาคนตัวเล็กทั้งตัว ดวงตาคู่คมก็ทอดมองใบหน้าเรียวสวยที่เวลานี้เผือดสีไปนิด รู้ว่าฮยอกแจกลัวเขาโกรธ แต่มันน่าโกรธมั้ยล่ะกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นสัปดาห์น่ะ!

            “มะ...”

            “กลัวฉันเอาหมาเธอไปฆ่าทิ้งหรือไง” ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะปฏิเสธ ฮันคยองก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียงเข้ม มือใหญ่ก็เชยคางเรียวสวยเอาไว้มั่น ยามที่จ้องมองรอยน้ำตาหยดใสอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก ปลายนิ้วยาวก็ขยับมาปาดเช็ดให้อย่างเบาแรงที่สุดจนคนขี้กลัวเอ่ยโพล่งขึ้นมาทันที

            “พี่อย่าทำอะไรช็อกโก้นะฮะ...ได้โปรด...”

            “....”

            คำของเมียคนสวยที่สุดท้ายก็ยังหวงหมารักหมาอยู่ดี ทำเอาคนฟังนิ่งไปทันที ดวงตาคู่คมจับจ้องใบหน้าสวยนิ่งอย่างที่ฮยอกแจอ่านแววตาไม่ออก จนใจดวงน้อยยิ่งเกรงกลัวว่าถ้าพี่ฮันจะเอาเจ้าตัวเล็กไปให้คนอื่น หรือเอาไปโยนทิ้งที่ไหน เพราะสุดท้ายเขาก็ต้องยอมทำตามคนตรงหน้าอยู่ดี

            แต่เขารักช็อกโก้นี่นา

            “คิดว่าฉันจะใจร้ายกับเธอได้ลงหรือฮยอกแจ”

            กึก

            ฮยอกแจชะงักไปทันที เมื่อคนตรงหน้าถอนหายใจหนักๆ อย่างหงุดหงิด ขณะที่ฝ่ามือแข็งแกร่งก็สอดรัดเข้าที่เอวบอบบางแล้วดึงรั้งเอาไว้ชิดตัว ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจที่ทำให้ฮันคยองเอ่ยบอกอย่างหงุดหงิด

            “คิดว่าฉันจะใจร้ายกับเธอได้ยังไงฮยอกแจ ถ้าฉันเอาไอ้หมาเวรนั่นไปโยนทิ้งเธอก็ต้องร้องไห้ คิดว่าฉันทนเงียบมาเป็นสัปดาห์เพราะอะไรฮยอกแจ ก็เพราะเธอมีความสุข คิดจริงหรือว่าฉันจะทำลายความสุขเธอเพียงเพราะเธอสนใจเจ้าช็อกโก้มากกว่าฉันน่ะ...” มาเฟียหนุ่มถามด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วสบถออกมาเป็นภาษาจีน

          “...ให้ตายเถอะฮยอกแจ ฉันรักเธอมากเกินไปจริงๆ”

            คำพูดที่ทำให้คนฟังเงยหน้าขึ้นทันควัน หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวกับคำรักที่เอ่ยออกมาจากปากของคนตรงหน้า ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง แล้วในวินาทีต่อมา ความยินดีก็พุ่งวาบเข้ามาในอก...มากพอที่จะทำให้ฮยอกแจโถมตัวเข้ากอดร่างสูงตรงหน้าเอาไว้ทั้งตัว

            อ้อมกอดที่ฮันคยองอ้ารับร่างเล็กเอาไว้ทัน

            “ฮึก...พี่ฮัน...ผมขอโทษฮะ...ขอโทษ...ผมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบที่...ฮึก...ทำมาทั้งสัปดาห์...ผมรักพี่...รักพี่ที่สุด...รักที่สุด...” เสียงหวานบอกเจือสะอื้น ใบหน้าสวยก็ซบลงที่แผ่นอกกว้างยามที่ปล่อยสายน้ำตาไหลซึมลงกับเสื้อเชิ้ตสีเข้มจนกระจายเป็นวงกว้าง มือเรียวก็ไขว่คว้าหาอ้อมกอดของคนรักที่ส่ายหน้าน้อยๆ

            “ไอ้ช็อกโก้มันไม่เป็นอะไรหรอก ปล่อยมันไปบ้างก็ได้ เพราะถ้าเธอเอาแต่สนใจมัน ฉันอาจจะอยากฆ่ามันทิ้งจริงๆ ก็ได้” คำของคนตัวโตที่ควรจะทำให้คนตัวเล็กกลัวจนตัวสั่น แต่ฮยอกแจกลับสัมผัสได้ว่าพี่ฮันไม่ทำอย่างที่พูดหรอก ในเมื่อเขาเชื่อว่าพี่ฮันจะไม่ทำให้เขาเสียใจ

            ความคิดที่ทำให้ลูกเจี๊ยบตัวน้อยเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาคู่คม มือเรียวขยับไปกอดรัดรอบลำคอแกร่งเอาไว้มั่น ยามที่ใช้ดวงตาสั่นๆ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย

            แววตาที่ทำให้ชายหนุ่มประคองเอวเล็กเอาไว้อย่างรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

            “พี่ฮัน...” เสียงหวานร้องเรียกแผ่วเบา ก่อนที่จะเขย่งตัวไปกดจูบที่ริมฝีปากได้รูป จูบรสนุ่มละมุนที่นานๆ ฮยอกแจจะเริ่มก่อน จูบที่ไม่เพียงแต่สัมผัสแผ่วๆ แล้วผละห่างออกไป แต่เป็นจูบที่ร่างน้อยรุกเร้าเข้าหาราวกับงอนง้อเอาใจ แล้วมีหรือที่ฮันคยองจะปฏิเสธ มีแต่จะขยับเข้าหาเสียมากกว่า

            จูบที่คราวนี้ต่างฝ่ายต่างสัมผัสเข้าหากันอย่างเร่าร้อนรุนแรงจนเสียงจูบดังก้องไปทั่วห้องกว้าง ปลายลิ้นแลกเปลี่ยนน้ำหวานให้แก่กันและกันไม่มีผ่อนปรน อ้อมกอดยิ่งกอดกระชับแนบเข้าหากันราวกับชดเชยช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา

            กว่าที่ฮยอกแจจะเป็นอิสระก็แทบจะหมดลมจนต้องหอบหายใจแรงๆ ทว่า ใบหน้าเรียวสวยก็ซบลงที่แผ่นอกกว้าง แล้วเสียงใสก็เอ่ยเบาแสนเบาอย่างไร้ความมั่นใจ

            “ปะ...ไปที่ห้องกันมั้ยฮะ” คำพูดเชิญชวนที่นานทีปีหน หรือหายากแสนยากทำให้มาเฟียหนุ่มยกมุมปากขึ้นทันที มือใหญ่ก็ประคองเข้าที่ก้นกลม เพียงยกทีเดียว ร่างเล็กก็ใช้สองขาเกี่ยวเข้าที่เอวสอบ ใบหน้าสวยซบลงที่ซอกคอแกร่งอย่างขัดเขิน

            จากนั้น มาเฟียหนุ่มก็ก้าวกลับเข้าห้องนอนกว้างอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของช็อกโก้ที่นอนหมอบนิ่งๆ มองตาม แล้วมันก็กลับไปขดตัวนอนบนที่นอนตามเดิมอย่างไม่เข้าใจอะไรนัก

            เรื่องของเจ้านายไม่ใช่เรื่องของหมานี่นะ

            จากนั้นก็เหมือนว่าจะมีการง้อตามแบบฉบับลูกเจี๊ยบขี้กลัวอีกหลายยกเลยเชียวล่ะ

...............................................

            “แกคิดว่าฉันใจดีเหมือนฮยอกแจหรือไง”

            ภายในห้องครัวที่เมื่อวานปล่อยให้อาหารเป็นหมัน ฮันคยองกำลังก้มลงมองชายกางเกงของตัวเอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเจอแรงสะกิดเบาๆ จากขาหน้าของช็อกโก้ที่ไม่เป็นอะไร

            “โฮ่ง หงิงๆ” คำถามที่เจ้าตัวเล็กใช้ตากลมๆ มองมา แล้วใช้ขาสะกิดชายกางเกงอีกหลายๆ ที จนคนที่หงุดหงิดเมื่อวาน แต่วันนี้อารมร์ดียิ่งกว่าดียิ่งขมวดคิ้วเข้าหากัน ร่างสูงก็ขยับมานั่งยองๆ มองหมาตัวน้อยด้วยสายตาครุ่นคิด

            “แกมาเป็นเพื่อนคลายเหงาของฮยอกแจก็ดี ทำหน้าที่ให้ดีล่ะ ฮยอกแจร้องไห้เพราะแกเมื่อไหร่ ได้ไปเป็นอาหารปลาแน่”

            ปุๆ

            ฮันคยองว่าพลางตบหัวเจ้าตัวเล็กเบาๆ อย่างยอมแพ้ นึกถึงเมียคนสวยที่บอกเมื่อคืนระหว่างทำรักกันว่ามีช็อกโก้แล้วหายเหงาไปเยอะตอนที่เขาไม่อยู่ และนั่นก็ทำให้ฮันคยองตัดสินใจว่าจะไม่เอาไอ้หน้าขนนี่เป็นอารมณ์อีกแล้ว

            ถ้าทำให้ฮยอกแจมีความสุข มองข้ามๆ ไปบ้างก็ได้นี่นะ

            ความคิดของมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ที่ยอมเดินไปเปิดกระป๋องอาหารหมาแล้วมาเทให้เจ้าตัวเล็กที่ทำหน้าอ้อน ไม่ใช่เพราะว่าใจอ่อน คนอย่างเขาไม่ใจอ่อนกับเพียงความน่ารักที่ได้เห็นหรอก แต่ที่ทำก็เพราะ...ลีฮยอกแจล้วนๆ

            สุดท้าย ไม่พอใจยังไง หานฮันคยองก็เห็นลีฮยอกแจสำคัญที่สุดอยู่ดี

.................................................................



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น