NC มนตรา_59
“อื้อ...คิบอม...”
จากนั้น ดงแฮก็ได้ร้องเสียงแผ่วหวิว ยามที่ริมฝีปากอุ่นกำลังลากไปตามฝ่ามือขาว
ปลายลิ้นร้อนผ่าวก็ส่งมาสัมผัสปลายนิ้วเรียว แล้วดูดเม้มเบาๆ
พอให้สะท้านไปทั้งช่องอก ขณะเดียวกัน คิบอมก็รั้งร่างนิ่มให้นอนแนบลงกับฟูกนุ่ม
ฝ่ามือหยาบอีกข้างลูบไล้เรือนกายขาวอย่างเบามือ ซึ่งทำให้ดงแฮบิดกายน้อยๆ
“เจ้าช่างน่ารักยิ่งนัก
ดงแฮ” องค์ชายหนุ่มเคลื่อนตัวลงมาจนใบหน้าของทั้งสองใกล้ชิดกัน ก่อนที่ยกยิ้มน่าดู
แล้วประกบริมฝีปากลงบนความหอมหวานอย่างไม่ปล่อยให้ร่างน้อยได้ทักท้วง
“อื้อ”
ดงแฮร้องเบาๆ ในลำคอ ยามที่สองมือขยุ้มอาภรณ์ที่คิบอมสวมใส่เอาไว้แน่น
เรียวปากเผยอแย้มรับความอุ่นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เรือนกายสูงใหญ่ก็ทิ้งตัวลงแนบกับความเนียนนุ่มจนแทบไร้ช่องว่าง
ให้ผิวกายที่มีเพียงเนื้อผ้าบางเบาแนบชิดกัน ขณะเดียวกัน คิบอมก็กำลังชิมความหวานอย่างไม่รู้จักพอ
ฝ่ามือหยาบกร้านปลดรั้งชุดที่ประดับอยู่บนเรือนกายทีละน้อย พร้อมมอบจุมพิตร้อนแรงที่กำลังหนักหน่วงมากขึ้นทุกขณะ
“อาห์...”
เสียงครางหวานล้ำดังคลอจากปากแดงช้ำฉ่ำชื้น
ยามที่ดงแฮแทบจะสำลักความหวานที่ถูกป้อนให้ไม่ขาดสาย เนื้อตัวร้อนระอุจากฝ่ามือหยาบที่ลากไล้ไปทั่วทุกที่ของผิวกาย
และยามที่คิบอมยอมผละห่าง เสียงหอบหายใจก็ดังก้องไปทั่ว แผ่นอกบอบบางสะท้านขึ้นลงอย่างรุนแรง
“เจ้าหอมหวานไปทั้งตัวจริงๆ
ดงแฮ”
เสียงแหบพร่ากระซิบชิดผิวเนื้อ
ยามที่คิบอมลากไล้ริมฝีปากมาตามลำคอระหง ประดับรอยกุหลาบให้เบ่งบานบนผิวขาวจัด
มือใหญ่ก็รั้งชุดสวยออกจากกาย
ใช้เวลาไม่นานก็เหลือเพียงเรือนกายเปล่าเปลือยแสนเย้ายวนเสียยิ่งกว่าดอกไม้แรกแย้มให้ประจักษ์แก่สายตา
“เจ้าช่างงามนัก”
ถ้อยคำหวานที่วีล่าน้อยเปิดปรือดวงตาฉ่ำน้ำขึ้นมาอย่างเชื่องช้า สบเข้ากับดวงตาสีเข้มซึ่งเปี่ยมไปด้วยความต้องการที่กำลังกวาดมองเรือนร่างของเขา
ให้ความสะท้านอายพุ่งวาบเข้ามาในอก
“และยิ่งเจ้าขลาดเขิน
เจ้าก็ยิ่งน่ารัก”
“อ๊า!” ดงแฮแหงนเงยหน้าขึ้นทันที แผ่นอกสะท้านเฮือก
ยามที่ปลายลิ้นร้อนกำลังปาดไล้ความนุ่มนิ่มจนแข็งตึง สองมือก็ขยุ้มเรือนผมสีเข้มของคิบอมเอาไว้แน่น
ปากสีแดงสดเผยอครวญอย่างที่เป็นทุกครั้งยามที่ชายผู้นี้สัมผัสร่าง
ขณะเดียวกัน
ยอดอกสีระเรื่อที่กำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำใสก็ราวกับเป็นของหวานรสเลิศขององค์ชายหนุ่มที่ยิ่งดื่มกินเท่าไหร่
ก็ยิ่งติดใจมากเท่านั้น จนริมฝีปากร้อนยิ่งมอบสัมผัสหวาม
ยามที่ฝ่ามือหยาบกร้านสอดลึกเข้าใต้เรียวขาขาวเพื่อสัมผัสกับส่วนนุ่มนิ่มสีระเรื่ออย่างอ่อนโยน
“อือ...คิบอม...ยะ...อย่า...”
เสียงหวานครางเครือพร่ำกระซิบอยู่ริมหู สองมือยิ่งกอดรัดลำคอแกร่งมั่น
ซบหน้าลงกับลาดไหล่แข็งแรง เมื่อฝ่ามือหยาบกำลังมอบสัมผัสที่ทำให้ร่างทั้งร่างเหมือนลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
ทว่า
เสียงของวีล่าน้อยกลับยิ่งปลุกเร้าความต้องการของผู้ที่ป้อนสัมผัสอย่างต่อเนื่อง
ริมฝีปากร้ายกาจก็ลากไล้ลงมาตามผิวเนื้อขาวผ่อง ปลายลิ้นเลียแผ่นท้องขาว
ให้เรือนร่างใต้ร่างสั่นระริก เชิดหน้าขึ้นครวญครางก้องไปทั่วทั้งห้องขนาดใหญ่
“อ๊า!...คิบอม...ไม่...อืม...เจ้า...ยะ...อย่า...ไม่ไหว...”
วีล่าน้อยบอกเสียงสั่นระริกพอๆ
กับร่างที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อตามแรงฟอนเฟ้น
เมื่อองค์ชายหนุ่มครอบริมฝีปากลงที่ส่วนอ่อนไหวอย่างอ่อนโยน ปลายลิ้นร้อนหยอกเย้า
แหย่ชิมไม่ว่างเว้น
จนผู้ที่ได้รับสัมผัสแทบจะขาดใจกับสัมผัสซาบซ่านในรสรักที่ถูกปรนเปรอให้
ทว่า
เสียงร้องขอกลับไม่ทำให้องค์ชายหนุ่มหยุดการกระทำในครั้งนี้
มีเพียงริมฝีปากที่ขยับรุนแรงขึ้นทุกขณะ ให้เรือนร่างขาวยิ่งตัวสั่นสะท้าน
เปลือกตาปิดสนิทหลีกหนีภาพที่น่าขลาดเขิน
ฟึ่บ
คิบอมค่อยๆ
รั้งปลายเท้าเรียวให้แยกกว้างออกจากกัน อย่างที่วีล่าน้อยก็ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน
รู้สึกเพียงว่าร่างทั้งร่างกำลังจะถึงจุดหมายปลายทางเพียงสัมผัสเล้าโลมของสวามี น้ำตาหยดใสเอ่อคลอ
ก่อนที่จะหยาดหยดผ่านพวงแก้มขาว เสียงหวานใสเครือสั่นมากขึ้นทุกขณะ
“มะ...ไม่ไหว...คิบอม...ข้าไม่ไหว...”
ยามนี้
วีล่าน้อยแสนดื้อดึงก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยว่าง่ายที่ทำได้เพียงขยับตามแรงชักนำขององค์ชายหนุ่มอย่างไร้แรง
ใบหน้างดงามก็ส่ายไปมาน้อยๆ ยามที่คลื่นความต้องการกำลังพัดโหมกระหน่ำเข้ามาในอก
“อือออ!” ไม่นานเลยที่ดงแฮจะปลดปล่อยความต้องการออกมา
ก่อนที่ร่างจะทรุดฮวบลงหอบหายใจหนักๆ บนฟูกนุ่ม
“อื้อ!” ดงแฮร้องเบาๆ อย่างตื่นตกใจ
ก่อนที่จะสำลักเมื่อน้ำรสปร่าถูกป้อนผ่านริมฝีปากของชายคนรัก
จนเผลอกลืนเข้าไปเกือบทั้งหมด
มีเพียงบางส่วนที่ไหลเลอะปลายคางซึ่งคิบอมก็ตามมาเก็บกวาดทุกหยาดหยดอย่างไม่ยอมให้เสียเปล่า
“ช่างหวานนัก”
ถ้อยคำที่ผู้ฟังยิ่งเขินอายจนแทบจะแทรกฟูกหนี จนต้องสะบัดค้อนให้อีกฝ่ายเสียวงโต
ซึ่งคิบอมก็แนบริมฝีปากลงมาที่เรียวปากหอมหวานอีกครั้ง
ยามที่สองมือรั้งเรียวขาให้แยกกว้างออกอย่างเชื่องช้า
“เรียกข้าว่าท่านพี่สิ
ดงแฮ”
“ไม่”
ร่างน้อยพึมพำเสียงสั่น ก่อนที่จะผวาเฮือก กอดรัดท่อนแขนแกร่งมั่น
เมื่อความร้อนผ่าวกำลังเสียดสีที่ช่องทางคับแคบจนความร้อนรุ่มก่อเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
ดวงตากลมโตก็มองฝ่าม่านน้ำตามามองตาคนมากเล่ห์ซึ่งกำลังหัวเราะเบาๆ
“ข้าอยากได้ยินเจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่เหลือเกิน”
ถ้อยคำร้องขอที่มาพร้อมกับจุมพิตหวานซึ่งประทับแนบลงบนเรียวปากแดงช้ำ
กับเรียวขาขาวที่ถูกยกสูง ทำให้ดงแฮยิ่งกอดรัดท่อนแขนแข็งแกร่งมั่น
ฟึ่บ
เฮือก!
“อื้อ!...คิบอม คิบอม อาห์...” ดงแฮผวาไปทั้งตัว
เมื่อความใหญ่โตกำลังกดสอดเข้ามาในกายท่ามกลางเสียงหอบหายใจที่สะท้อนไปทั่ว หยาดน้ำหยาดรินผ่านแก้มหยดแล้วหยดเล่า
เสียงหวานครางเครือดังในลำคอ
ก่อนที่จะสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง เมื่อท่อนไฟร้อนผ่าวสอดลึกเข้ามาจนสุดความยาว
“ดงแฮ...ดงแฮของข้า
เรียกข้า...” เสียงทุ้มพร่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์รักกระซิบวอนขอ
และคราวนี้วีล่าน้อยแสนซนก็หมดฤทธิ์โดยพลัน
ดวงตาหวานซึ้งคลอหน่วยด้วยน้ำใสกะพริบปริบ แหงนเงยหน้าขึ้นจนสุด
เมื่อท่อนไฟร้อนกำลังขยับเคลื่อนเข้ามาในกายจนร่างทั้งร่างแทบสำลักความหวานซ่านรัญจวนใจ
“ดงแฮ...อาห์....ดงแฮ”
“อึ้ก...ทะ...ท่านพี่...”
สองมือสั่นระริกเลื่อนมาประคองใบหน้าคมคายที่ชื้นเหงื่อเอาไว้มั่น
เพื่อให้ดวงตาสบประสานกัน
ก่อนที่จะเอ่ยถ้อยคำหวานหูที่แม้เสียงจะสั่นระริกเพียงใดก็ตาม
“ท่านพี่...อึ้ก...ท่านพี่ของน้อง...ท่านพี่...อ๊า!!!”
ดงแฮได้แต่หวีดร้องออกมาเสียงดังลั่น
เมื่อเพียงเอ่ยเรียกตามที่อีกฝ่ายต้องการ
ความร้อนระอุก็สอดลึกเข้ามาในกายรุนแรงมากขึ้น
ฝ่ามือมือทั้งสองข้างกอดกระชับเรือนกายเล็กเอาไว้มั่น
เพราะสรรพนามเรียกขานแสนน่ารักนั่นทำให้องค์ชายหนุ่มแทบจะหมดสิ้นความอดทน
ฟึ่บ
“ท่านพี่...ยะ...อย่า...ท่านพี่...”
ดงแฮได้แต่ผวากอดรัดลำคอแกร่ง เมื่อสองมือกอดกระชับสะโพกเล็กแล้วอุ้มขึ้นมานั่งตักอย่างรวดเร็ว
ยามที่ความใหญ่โตก็กำลังสอดลึกเข้ามาอย่างไม่ผ่อนปรนจังหวะ
ให้วีล่าน้อยที่ถูกสอนสั่งประสบการณ์ไม่เว้นทุกราตรีขยับกายสอดรับอย่างไม่อาจจะห้ามกายตนเองได้
“เจ้าช่างน่ารัก...น่ารักเหลือเกิน
ยอดรักของข้า” คิบอมมองภาพความงดงามของวีล่าน้อยซึ่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของตน
ฝ่ามือลูบไล้แผ่นหลังชื้นเหงื่อ
ดวงตามองใบหน้างดงามที่แดงระเรื่อซึ่งกำลังเคลื่อนกายตามที่ตนชักนำ
ก่อนที่จะก้มลงซุกไซ้ริมฝีปากที่แผ่นอกบอบบางอย่างรุนแรง จนวีล่าน้อยกระตุกกายถี่ๆ
เอี๊ยด
เสียงของเตียงไม้หนาหนักขยับเสียดสีกับพื้นห้องดังก้องประสานไปกับเสียงของความรักที่กำลังสอดประสานกันอย่างลงตัวบ่งบอกความร้อนแรงที่เกิดขึ้นภายในห้องรับรองแขก
ฝ่ามือหยาบกร้านก็กระชับส่วนอ่อนไหวสีระเรื่อแล้วขยับเคลื่อนไปพร้อมกัน
ยามที่ตนก็ดื่มด่ำความหวานล้ำ ตักตวงอย่างไม่อยากจะหยุดสักเสี้ยววินาทีราวกับไม่หวั่นเกรงว่าตนจะจมความหวานที่ได้รับจากวีล่าน้อยจนตาย
หากข้าตายเพราะเจ้า
ข้าก็ยินยอม
ความคิดขององค์ชายหนุ่มที่พลิกร่างน้อยลงนอนราบกับเตียงอีกครั้ง
ยามที่มอบจุมพิตแสนร้อนแรง ผลักดันให้ผู้ที่อยู่ใต้ร่างถึงสวรรค์ชั้นฟ้าอีกคราว
ขณะที่ตนก็ขยับเคลื่อนเข้าหาอีกครั้ง และอีกครั้งอย่างไม่คิดผ่อนปรนแรงกำลัง
จนดงแฮทำได้เพียงกอดรัดลำคอแกร่ง
เปล่งเสียงครางเครือหวานหูให้องค์ชายหนุ่มแสนเอาแต่ใจได้ฟังสมใจ
.........................................
อีกสักนิด ที่นี่
ขอบคุณมากค่ะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น