วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

NC มนตรา_59

NC มนตรา_59



            “อื้อ...คิบอม...” จากนั้น ดงแฮก็ได้ร้องเสียงแผ่วหวิว ยามที่ริมฝีปากอุ่นกำลังลากไปตามฝ่ามือขาว ปลายลิ้นร้อนผ่าวก็ส่งมาสัมผัสปลายนิ้วเรียว แล้วดูดเม้มเบาๆ พอให้สะท้านไปทั้งช่องอก ขณะเดียวกัน คิบอมก็รั้งร่างนิ่มให้นอนแนบลงกับฟูกนุ่ม ฝ่ามือหยาบอีกข้างลูบไล้เรือนกายขาวอย่างเบามือ ซึ่งทำให้ดงแฮบิดกายน้อยๆ

            “เจ้าช่างน่ารักยิ่งนัก ดงแฮ” องค์ชายหนุ่มเคลื่อนตัวลงมาจนใบหน้าของทั้งสองใกล้ชิดกัน ก่อนที่ยกยิ้มน่าดู แล้วประกบริมฝีปากลงบนความหอมหวานอย่างไม่ปล่อยให้ร่างน้อยได้ทักท้วง

            “อื้อ” ดงแฮร้องเบาๆ ในลำคอ ยามที่สองมือขยุ้มอาภรณ์ที่คิบอมสวมใส่เอาไว้แน่น เรียวปากเผยอแย้มรับความอุ่นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เรือนกายสูงใหญ่ก็ทิ้งตัวลงแนบกับความเนียนนุ่มจนแทบไร้ช่องว่าง ให้ผิวกายที่มีเพียงเนื้อผ้าบางเบาแนบชิดกัน ขณะเดียวกัน คิบอมก็กำลังชิมความหวานอย่างไม่รู้จักพอ ฝ่ามือหยาบกร้านปลดรั้งชุดที่ประดับอยู่บนเรือนกายทีละน้อย พร้อมมอบจุมพิตร้อนแรงที่กำลังหนักหน่วงมากขึ้นทุกขณะ

            “อาห์...” เสียงครางหวานล้ำดังคลอจากปากแดงช้ำฉ่ำชื้น ยามที่ดงแฮแทบจะสำลักความหวานที่ถูกป้อนให้ไม่ขาดสาย เนื้อตัวร้อนระอุจากฝ่ามือหยาบที่ลากไล้ไปทั่วทุกที่ของผิวกาย และยามที่คิบอมยอมผละห่าง เสียงหอบหายใจก็ดังก้องไปทั่ว แผ่นอกบอบบางสะท้านขึ้นลงอย่างรุนแรง

            “เจ้าหอมหวานไปทั้งตัวจริงๆ ดงแฮ”

เสียงแหบพร่ากระซิบชิดผิวเนื้อ ยามที่คิบอมลากไล้ริมฝีปากมาตามลำคอระหง ประดับรอยกุหลาบให้เบ่งบานบนผิวขาวจัด มือใหญ่ก็รั้งชุดสวยออกจากกาย ใช้เวลาไม่นานก็เหลือเพียงเรือนกายเปล่าเปลือยแสนเย้ายวนเสียยิ่งกว่าดอกไม้แรกแย้มให้ประจักษ์แก่สายตา

            “เจ้าช่างงามนัก” ถ้อยคำหวานที่วีล่าน้อยเปิดปรือดวงตาฉ่ำน้ำขึ้นมาอย่างเชื่องช้า สบเข้ากับดวงตาสีเข้มซึ่งเปี่ยมไปด้วยความต้องการที่กำลังกวาดมองเรือนร่างของเขา ให้ความสะท้านอายพุ่งวาบเข้ามาในอก

            “และยิ่งเจ้าขลาดเขิน เจ้าก็ยิ่งน่ารัก”

            “อ๊า!” ดงแฮแหงนเงยหน้าขึ้นทันที แผ่นอกสะท้านเฮือก ยามที่ปลายลิ้นร้อนกำลังปาดไล้ความนุ่มนิ่มจนแข็งตึง สองมือก็ขยุ้มเรือนผมสีเข้มของคิบอมเอาไว้แน่น ปากสีแดงสดเผยอครวญอย่างที่เป็นทุกครั้งยามที่ชายผู้นี้สัมผัสร่าง

            ขณะเดียวกัน ยอดอกสีระเรื่อที่กำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำใสก็ราวกับเป็นของหวานรสเลิศขององค์ชายหนุ่มที่ยิ่งดื่มกินเท่าไหร่ ก็ยิ่งติดใจมากเท่านั้น จนริมฝีปากร้อนยิ่งมอบสัมผัสหวาม ยามที่ฝ่ามือหยาบกร้านสอดลึกเข้าใต้เรียวขาขาวเพื่อสัมผัสกับส่วนนุ่มนิ่มสีระเรื่ออย่างอ่อนโยน

            “อือ...คิบอม...ยะ...อย่า...” เสียงหวานครางเครือพร่ำกระซิบอยู่ริมหู สองมือยิ่งกอดรัดลำคอแกร่งมั่น ซบหน้าลงกับลาดไหล่แข็งแรง เมื่อฝ่ามือหยาบกำลังมอบสัมผัสที่ทำให้ร่างทั้งร่างเหมือนลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
           
            ทว่า เสียงของวีล่าน้อยกลับยิ่งปลุกเร้าความต้องการของผู้ที่ป้อนสัมผัสอย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากร้ายกาจก็ลากไล้ลงมาตามผิวเนื้อขาวผ่อง ปลายลิ้นเลียแผ่นท้องขาว ให้เรือนร่างใต้ร่างสั่นระริก เชิดหน้าขึ้นครวญครางก้องไปทั่วทั้งห้องขนาดใหญ่

            “อ๊า!...คิบอม...ไม่...อืม...เจ้า...ยะ...อย่า...ไม่ไหว...” วีล่าน้อยบอกเสียงสั่นระริกพอๆ กับร่างที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อตามแรงฟอนเฟ้น เมื่อองค์ชายหนุ่มครอบริมฝีปากลงที่ส่วนอ่อนไหวอย่างอ่อนโยน ปลายลิ้นร้อนหยอกเย้า แหย่ชิมไม่ว่างเว้น จนผู้ที่ได้รับสัมผัสแทบจะขาดใจกับสัมผัสซาบซ่านในรสรักที่ถูกปรนเปรอให้

            ทว่า เสียงร้องขอกลับไม่ทำให้องค์ชายหนุ่มหยุดการกระทำในครั้งนี้ มีเพียงริมฝีปากที่ขยับรุนแรงขึ้นทุกขณะ ให้เรือนร่างขาวยิ่งตัวสั่นสะท้าน เปลือกตาปิดสนิทหลีกหนีภาพที่น่าขลาดเขิน

            ฟึ่บ

            คิบอมค่อยๆ รั้งปลายเท้าเรียวให้แยกกว้างออกจากกัน อย่างที่วีล่าน้อยก็ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน รู้สึกเพียงว่าร่างทั้งร่างกำลังจะถึงจุดหมายปลายทางเพียงสัมผัสเล้าโลมของสวามี น้ำตาหยดใสเอ่อคลอ ก่อนที่จะหยาดหยดผ่านพวงแก้มขาว เสียงหวานใสเครือสั่นมากขึ้นทุกขณะ

            “มะ...ไม่ไหว...คิบอม...ข้าไม่ไหว...” ยามนี้ วีล่าน้อยแสนดื้อดึงก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยว่าง่ายที่ทำได้เพียงขยับตามแรงชักนำขององค์ชายหนุ่มอย่างไร้แรง ใบหน้างดงามก็ส่ายไปมาน้อยๆ ยามที่คลื่นความต้องการกำลังพัดโหมกระหน่ำเข้ามาในอก

            “อือออ!” ไม่นานเลยที่ดงแฮจะปลดปล่อยความต้องการออกมา ก่อนที่ร่างจะทรุดฮวบลงหอบหายใจหนักๆ บนฟูกนุ่ม

            “อื้อ!” ดงแฮร้องเบาๆ อย่างตื่นตกใจ ก่อนที่จะสำลักเมื่อน้ำรสปร่าถูกป้อนผ่านริมฝีปากของชายคนรัก จนเผลอกลืนเข้าไปเกือบทั้งหมด มีเพียงบางส่วนที่ไหลเลอะปลายคางซึ่งคิบอมก็ตามมาเก็บกวาดทุกหยาดหยดอย่างไม่ยอมให้เสียเปล่า

            “ช่างหวานนัก” ถ้อยคำที่ผู้ฟังยิ่งเขินอายจนแทบจะแทรกฟูกหนี จนต้องสะบัดค้อนให้อีกฝ่ายเสียวงโต ซึ่งคิบอมก็แนบริมฝีปากลงมาที่เรียวปากหอมหวานอีกครั้ง ยามที่สองมือรั้งเรียวขาให้แยกกว้างออกอย่างเชื่องช้า

            “เรียกข้าว่าท่านพี่สิ ดงแฮ”

            “ไม่” ร่างน้อยพึมพำเสียงสั่น ก่อนที่จะผวาเฮือก กอดรัดท่อนแขนแกร่งมั่น เมื่อความร้อนผ่าวกำลังเสียดสีที่ช่องทางคับแคบจนความร้อนรุ่มก่อเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ดวงตากลมโตก็มองฝ่าม่านน้ำตามามองตาคนมากเล่ห์ซึ่งกำลังหัวเราะเบาๆ

            “ข้าอยากได้ยินเจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่เหลือเกิน” ถ้อยคำร้องขอที่มาพร้อมกับจุมพิตหวานซึ่งประทับแนบลงบนเรียวปากแดงช้ำ กับเรียวขาขาวที่ถูกยกสูง ทำให้ดงแฮยิ่งกอดรัดท่อนแขนแข็งแกร่งมั่น

            ฟึ่บ

            เฮือก!

            “อื้อ!...คิบอม คิบอม อาห์...” ดงแฮผวาไปทั้งตัว เมื่อความใหญ่โตกำลังกดสอดเข้ามาในกายท่ามกลางเสียงหอบหายใจที่สะท้อนไปทั่ว หยาดน้ำหยาดรินผ่านแก้มหยดแล้วหยดเล่า เสียงหวานครางเครือดังในลำคอ  ก่อนที่จะสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง เมื่อท่อนไฟร้อนผ่าวสอดลึกเข้ามาจนสุดความยาว

            “ดงแฮ...ดงแฮของข้า เรียกข้า...” เสียงทุ้มพร่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์รักกระซิบวอนขอ และคราวนี้วีล่าน้อยแสนซนก็หมดฤทธิ์โดยพลัน ดวงตาหวานซึ้งคลอหน่วยด้วยน้ำใสกะพริบปริบ แหงนเงยหน้าขึ้นจนสุด เมื่อท่อนไฟร้อนกำลังขยับเคลื่อนเข้ามาในกายจนร่างทั้งร่างแทบสำลักความหวานซ่านรัญจวนใจ

            “ดงแฮ...อาห์....ดงแฮ”

            “อึ้ก...ทะ...ท่านพี่...” สองมือสั่นระริกเลื่อนมาประคองใบหน้าคมคายที่ชื้นเหงื่อเอาไว้มั่น เพื่อให้ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่จะเอ่ยถ้อยคำหวานหูที่แม้เสียงจะสั่นระริกเพียงใดก็ตาม

            “ท่านพี่...อึ้ก...ท่านพี่ของน้อง...ท่านพี่...อ๊า!!!

ดงแฮได้แต่หวีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เมื่อเพียงเอ่ยเรียกตามที่อีกฝ่ายต้องการ ความร้อนระอุก็สอดลึกเข้ามาในกายรุนแรงมากขึ้น ฝ่ามือมือทั้งสองข้างกอดกระชับเรือนกายเล็กเอาไว้มั่น เพราะสรรพนามเรียกขานแสนน่ารักนั่นทำให้องค์ชายหนุ่มแทบจะหมดสิ้นความอดทน

            ฟึ่บ

            “ท่านพี่...ยะ...อย่า...ท่านพี่...” ดงแฮได้แต่ผวากอดรัดลำคอแกร่ง เมื่อสองมือกอดกระชับสะโพกเล็กแล้วอุ้มขึ้นมานั่งตักอย่างรวดเร็ว ยามที่ความใหญ่โตก็กำลังสอดลึกเข้ามาอย่างไม่ผ่อนปรนจังหวะ ให้วีล่าน้อยที่ถูกสอนสั่งประสบการณ์ไม่เว้นทุกราตรีขยับกายสอดรับอย่างไม่อาจจะห้ามกายตนเองได้

            “เจ้าช่างน่ารัก...น่ารักเหลือเกิน ยอดรักของข้า” คิบอมมองภาพความงดงามของวีล่าน้อยซึ่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของตน ฝ่ามือลูบไล้แผ่นหลังชื้นเหงื่อ ดวงตามองใบหน้างดงามที่แดงระเรื่อซึ่งกำลังเคลื่อนกายตามที่ตนชักนำ ก่อนที่จะก้มลงซุกไซ้ริมฝีปากที่แผ่นอกบอบบางอย่างรุนแรง จนวีล่าน้อยกระตุกกายถี่ๆ

            เอี๊ยด    

            เสียงของเตียงไม้หนาหนักขยับเสียดสีกับพื้นห้องดังก้องประสานไปกับเสียงของความรักที่กำลังสอดประสานกันอย่างลงตัวบ่งบอกความร้อนแรงที่เกิดขึ้นภายในห้องรับรองแขก

            ฝ่ามือหยาบกร้านก็กระชับส่วนอ่อนไหวสีระเรื่อแล้วขยับเคลื่อนไปพร้อมกัน ยามที่ตนก็ดื่มด่ำความหวานล้ำ ตักตวงอย่างไม่อยากจะหยุดสักเสี้ยววินาทีราวกับไม่หวั่นเกรงว่าตนจะจมความหวานที่ได้รับจากวีล่าน้อยจนตาย

          หากข้าตายเพราะเจ้า ข้าก็ยินยอม

            ความคิดขององค์ชายหนุ่มที่พลิกร่างน้อยลงนอนราบกับเตียงอีกครั้ง ยามที่มอบจุมพิตแสนร้อนแรง ผลักดันให้ผู้ที่อยู่ใต้ร่างถึงสวรรค์ชั้นฟ้าอีกคราว ขณะที่ตนก็ขยับเคลื่อนเข้าหาอีกครั้ง และอีกครั้งอย่างไม่คิดผ่อนปรนแรงกำลัง จนดงแฮทำได้เพียงกอดรัดลำคอแกร่ง เปล่งเสียงครางเครือหวานหูให้องค์ชายหนุ่มแสนเอาแต่ใจได้ฟังสมใจ

.........................................

อีกสักนิด ที่นี่

ขอบคุณมากค่ะ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น