วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Special CL_13 เรื่องของผัวๆ เมียๆ 3

Special CL_13 เรื่องของผัวๆ เมียๆ 3



          ย้อนกลับไปที่สองปลาไก่ที่ยังคงอยู่ที่บ้านหลังน้อยของดงแฮ หลังจากวิ่งวุ่นอยู่ในครัวเพื่ออบขนมไปฝากคนรักเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็มานั่งคุยเล่นกันอยู่ภายในห้องรับแขก เสียงหัวเราะใสๆ ก็ดังไปทั่วบริเวณกับสองเพื่อนรักที่ไม่ได้นั่งคุยเล่นกันอย่างนี้นานมากแล้ว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปยังบ่าย

            “แปลก”

            “อะไรหรือฮยอก” ดงแฮที่กำลังนอนตีขาอยู่บนพื้นหน้าทีวีหันมาถามอย่างสงสัย เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนที่ดังขึ้นเบาๆ ทั้งยังเงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง

          บ่ายสองแล้ว

            คำถามที่ลูกไก่ตัวน้อยขมวดคิ้วฉับ แล้วบอกอย่างไม่มั่นใจ

            “พี่ฮันน่ะสิด๊อง นี่บ่ายสองกว่าแล้ว ทุกทีน่าจะโทรมานี่นา หรือไม่ก็ให้คนมารับ แต่เงียบไปอย่างนี้...แปลกจัง” ฮยอกแจบอกอย่างอดเป็นกังวลไม่ได้ เมื่อเช้าก็กลัวว่าจะถูกลากไปสำเร็จโทษตั้งแต่ตอนนั้น แต่เมื่อรู้ว่าคนรักไปกินเหล้ากับเพื่อนก็พอจะเบาใจว่าพี่ฮันคงกลับไปนอนสักพัก แต่นี่...มันนานกว่าปกติแล้วนะ

            ทุกทีถ้าไม่ได้ขอไว้ก่อน อีกฝ่ายต้องโทรมาถามนี่นะ

            “อ้าว บ่ายสองแล้วหรือ อืม คงไม่เป็นไรมั้ง เดี๋ยวค่อยไปก็ได้” ดงแฮเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาตามเพื่อน ปลายนิ้วจิ้มแก้มเบาๆ ก่อนจะบอกเสียงใส ให้ฮยอกแจหันมามองแล้วนึกขึ้นได้

            “อ้ะใช่ นายจะไปหาพี่คิบอมนี่นา ไปก่อนก็ได้นะ”

            “ไม่ล่ะ อยู่เป็นเพื่อนกับฮยอกก่อนก็ได้ ยังไงคืนนี้ก็ตั้งใจไปค้างกับพี่คิบอมอยู่แล้วน่ะ” แล้วคนน่ารักก็บอกอย่างไม่ปิดบัง รอยยิ้มหวานๆ ถูกส่งมาให้ ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะหันไปมองโทรทัศน์ตามเดิม

            “ว่าแต่ ทำไมห่วงแล้วไม่โทรหาพี่ฮันล่ะ” ดงแฮเอ่ยปากถาม แต่ทำให้คนฟังกัดริมฝีปากน้อยๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อมองว่ามีใครหรืออะไรส่งมาบ้างหรือเปล่า แต่ก็ยังคงมีเพียงความเงียบและข้อความเรื่องบริการบัตรเครดิตเท่านั้น

            “ไม่กล้า...นี่นา”

            “หือ” ดงแฮได้แต่ลุกขึ้นมานั่งอย่างงๆ เมื่อได้ยินเพื่อนบอก ดวงตากลมโตฉายแววไม่เข้าใจ จนทำให้เพื่อนสนิทยกมือจิ้มหน้าจอเบาๆ แล้วยิ้มแห้งๆ

            “ก็กลัวโดนลงโทษอ่ะ...นายไม่เห็นสายตาพี่ฮันเมื่อวานนี่นา ท่าทางโกรธมากแน่ๆ เลย” ลูกเจี๊ยบตัวน้อยสั่นขึ้นมานิด เมื่อสายตาคู่นั่นยังชัดเจนหลังเปลือกตา มือเรียวก็ยังคงจิ้มหน้าจอซึ่งเป็นภาพคู่ระหว่างเขากับคนหน้าดุนิ่งอย่างไม่แน่ใจ

          คงยังหลับอยู่มั้ง หรือคงมีงาน

            ความคิดของฮยอกแจที่ชะงักไปทันที เมื่อดงแฮเอ่ยสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา

            “จริงหรือ ด๊องว่าสายตาพี่ฮันที่มองฮยอกมันไม่เห็นเหมือนโกรธเลย รักมากกว่านะ” ปลาน้อยแห่งคหกรรมบอกอย่างน่ารัก แล้วกระโดดมานั่งกับพื้นบนโซฟา ขณะที่คนฟังแก้มแดงน้อยๆ ยกเข่าขึ้นมากอดเอาไว้แน่น แล้วแนบหน้าที่ร้อนผ่าวลงตรงเข่า

            “เพราะสายตาเหมือนที่พี่คิบอมมองด๊องนี่นา”

            “นายเคยเขินบ้างมั้ยเนี่ย เจ้าปลาติ๊งต๊อง” ฮยอกแจยู่หน้าใส่เพื่อนที่บอกต่ออย่างไม่คิดอะไร จนทำให้คนฟังหันมามองอย่างงๆ แล้วหัวเราะเสียงใส

            “เคยสิ พี่คิบอมทำด๊องเขินบ่อยจะตาย” คนหน้าหวานบอกต่ออย่างไร้ท่าทีเขินอาย มีเพียงรอยยิ้มหวานๆ ยามที่คิดถึงคนรักรูปหล่อ คำตอบที่ฮยอกแจหลุดยิ้มออกมาจนได้ แล้วก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองต่อ

            “เอาไว้สักสามโมงแล้วกันนะด๊อง ถ้าพี่เขาไม่โทรมา ฉันค่อยโทรไป” เมื่อเพื่อนว่าอย่างนั้น ดงแฮก็พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ไม่ได้เร่งรีบจะไปหาคนรักอยู่แล้ว แต่เหมือนว่ารอแล้วรอเล่า ไม่ว่าจะช่วยดงแฮจัดการงานในบ้านก็แล้ว โทรศัพท์ก็ยังไม่ดังขึ้น จนเวลาเกือบชั่วโมงผ่านพ้นไป

          เอาไงดีล่ะเนี่ย

            “ด๊องแด๊ง มาช่วยแม่หน่อยลูก” แต่แล้ว ซอนแฮก็ส่งเสียงเรียกให้ดงแฮผละไปช่วยมารดา ขณะที่ลูกไก่ตัวน้อยซึ่งกำลังคิดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ถอนหายใจแผ่วเบา ใจดวงน้อยกระตุกแปลกๆ เพราะไม่เคยเห็นพี่ฮันจะเงียบไปนานขนาดนี้เลยนี่นา

          ถ้าบังเอิญเกิดอะไรขึ้นล่ะ

            ความคิดที่ทำให้คนกลัวถูกหิ้วตัดสินใจโทรหาด้วยความเป็นห่วง ใจดวงน้อยเต้นตึกตักอย่างหวาดหวั่น ความคิดด้านลบยิ่งวนอยู่ในหัว แต่เพียงแป๊บเดียวเมื่อปลายสายกดรับ

            “...”

            ปลายสายกดรับแล้วเพียงสัญญาณดังขึ้นไม่กี่ครั้ง แต่ฮันคยองกลับเงียบกริบไม่มีเสียงตอบรับ จนคนโทรหน้าซีดลงอีกนิด มือเรียวที่บีบขาเอาไว้ยิ่งบีบแน่น

          โกรธแน่ๆ เลย เงียบแบบนี้ต้องโกรธไก่แน่ๆ ฮือ

            “พี่ฮันฮะ...” เสียงใสที่สั่นน้อยๆ ทำให้มาเฟียรูปหล่อที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกภายในห้องชุดสุดหรูเพียงยกมุมปากขึ้นเพียงนิด ดวงตาคู่คมเหลือบมองนาฬิกาแล้วพบว่าเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก แต่เจ้าตัวก็ยังคงเงียบให้ปลายสายใจเสียอยู่แบบนั้น

            “พี่ฮัน...โกรธหรือฮะ” เสียงใสยังดังอย่างไม่แน่ใจ ซึ่งทำให้คนฟังทำเพียงยกขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะตัวหน้าแล้วนิ่งไว้ก่อน ทั้งที่เริ่มใจอ่อนกับเสียงสั่นๆ

          แต่ในเมื่อหนีเที่ยวก็ต้องมีบทลงโทษ

            “...”

            “พะ...พี่ฮัน พี่เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ โกรธผมหรือ...”

            “...”

            ยิ่งปลายสายเงียบมากเท่าไหร่ คนทางนี้ก็ยิ่งใจเสียมากขึ้นเท่านั้น จนเสียงที่ว่าสั่นเริ่มเจือสะอื้นน้อยๆ

            “ขะ...ขอโทษนะฮะ”

            “รู้ตัวมั้ยว่าเธอทำให้ฉันเป็นห่วง” ฮันคยองถามกลับเสียงเรียบ แต่ทำให้คนฟังเม้มริมฝีปากเข้าหากันช้าๆ มือเรียวจับขาตัวเองแน่น นึกถึงสายตาของคนที่แพ้พ่อมุนฮวาเมื่อวานแล้วได้แต่ตัวสั่น

          เห็นมั้ยเจ้าปลาต๊อง พี่ฮันโกรธไก่จริงๆ ด้วย

            “ขอโทษฮะ...” เสียงใสยังคงว่าด้วยคำเดิมที่ทำให้คนฟังแสยะยิ้มขึ้น แต่เจ้าตัวก็ยังคงน้ำเสียงนิ่งๆ เอาไว้เช่นเดิม ยามที่เอ่ยปากบอก

            “ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันไปทำงานต่อแล้ว” มาเฟียหนุ่มว่า ก่อนที่ปลายสายจะวางลงทันที จนทำเอาคนทางนี้อ้าปากน้อยๆ อย่างตกใจ ดวงตาเรียวสวยก้มลงมองหน้าจอนิ่ง ก็ใครจะเชื่อว่าช่างเถอะล่ะ ในเมื่อน้ำสียงนิ่งเรียบไร้ความรู้สึกขนาดนี้

            หนนี้เขาก็ผิดจริงๆ ล่ะ ในเมื่อไม่ได้โทรบอกก่อน ไม่สิ ถูกเพื่อนยึดโทรศัพท์ไปต่างหาก แต่จริงๆ แล้วเวลาพี่ฮันไปทำงานที่บอกเขาไม่ได้ก็หลายครั้งนี่นา

            ความคิดที่ฮยอกแจรีบปัดออกไปจากหัว รู้ดีว่าที่อีกฝ่ายไม่บอกว่างานอะไรก็เพราะเกรงว่าเขาจะกลัวน่ะสิ อีกทั้งเวลานี้ต้องเครียดเรื่องความโกรธแสนน่ากลัวเมื่อครู่มากกว่า จนคนที่นั่งนิ่งรีบผุดลุกขึ้นในจังหวะที่ดงแฮก้าวเข้ามา

            “อ้าว ฮยอกจะไปไหนน่ะ”

            “กลับบ้านแล้วน่ะ พี่ฮันโกรธแน่ๆ เลย...ไม่รู้จะง้อยังไงดี” เสียงใสที่ดังแผ่วๆ ทำให้ดงแฮนิ่งคิดเพียงนิดอย่างอยากช่วยเพื่อน ขาเรียวก็ขยับมาใกล้ แล้วว่าเสียงหวาน

            “ก็อ้อนมากๆ แล้วก็เอาใจสิ ไม่เห็นยากเลย เพื่อนด๊องแด๊งทำได้อยู่แล้ว” ปลาน้อยที่ไม่เคยทุกข์ร้อนว่าอย่างที่ฮยอกแจได้แต่ส่งค้อนให้ ก็ใครจะอ้อนน่ารักน่าเอ็นดูอย่างเพื่อนเขาล่ะ แต่คนตัวเล็กก็ถึงกับหน้าร้อนจัดเมื่อคนความรู้สึกช้าแนะนำต่อ

            “ไม่งั้น ฮยอกก็ทำแบบที่มินมินทำกับพี่คยูบ่อยๆ สิ”

            “มะ...ไม่เอาแล้ว ฉันไปดีกว่า จะไปลาแม่ซอนแฮแล้วด้วย” ฮยอกแจแก้มแดงจัด รู้อย่างเพื่อนทุกคนล่ะว่าไอ้ที่ว่าน่ะหมายถึงอะไร ให้ง้อแล้วเปลืองตัวแบบนั้นน่ะหรือ...คงไม่ต้องแม้แต่จะคิดล่ะ ยังไงพี่ฮันก็ไม่ปล่อยเขานอนเฉยๆ อยู่แล้วนี่นา งือ

            หลังจากลามารดาของดงแฮเสร็จ ฮยอกแจก็พบว่าเพียงแค่เขาก้าวออกจากบ้าน รถคันหรูที่ไม่รู้ว่าจอดอยู่ที่ไหนก็แล่นมาจอดเทียบที่หน้าบ้านให้ดวงตาเรียวสวยเบิกกว้างขึ้น

            “นายสั่งให้รอรับคุณฮยอกแจอยู่แล้วครับ” คำบอกเล่าที่ทำให้คนฟังยิ่งสั่นวูบไปทั้งไขสันหลัง ก็เขาคิดว่าพี่ฮันไมได้ว่าอะไรที่เขาอยู่ต่อกับเพื่อนเลยยังไม่ส่งคนมารับ แต่ที่ไหนได้...อาจจะดักเฝ้าตั้งแต่เช้าแล้วก็ได้

            แล้วงานนี้ไก่จะง้อมังกรยังไงดีล่ะเนี่ย หรือทำอย่างที่เจ้าปลาต๊องบอกดีล่ะ ฮือออ

..................................................


            ฮยอกแจก้าวเข้ามาในคอนโดหรูอย่างกล้าๆ กลัวๆ ร่างเล็กยิ่งงอไหล่ทั้งสองเข้าหากันจนร่างบอบบางยิ่งเล็กไปถนัดตา ดวงตาเรียวสวยก็กวาดมองไปรอบๆ แต่กลับไม่เห็นเงาของมาเฟียหนุ่มเลยสักนิด ขณะที่ใจหล่นตุบไปที่ตาตุ่ม เมื่อนึกถึงเสียงทุ้มที่ฟังดูน่ากลัวชอบกลเอ่ยมาตามสาย

            “เฮ้อ สงสัยออกไปข้างนอกแล้ว...”

            ปัง

            กึก

            ฮยอกแจที่ยังไม่ทันจะถอนหายใจจนสุดตัวแข็งทื่อไปทันที เมื่อได้ยินเสียงประตูที่เปิดออกเสียงดัง แล้วคนที่เขานึกถึงก็ก้าวออกมาจากห้องทำงานเดินตัดผ่านหน้าลูกเจี๊ยบตัวน้อยไปอย่างที่ไม่คิดหันมามอง และแทนที่จะทำให้ฮยอกแจสบายใจที่อีกฝ่ายไม่เข้ามาใกล้เขา ใจดวงน้อยก็ยิ่งหล่นหายจ๋อมออกนอกโลกไปเลย ในเมื่อเขารู้ดีว่าท่าทางแบบนี้...น่ากลัวกว่าปกติซะอีก

            “เอ่อ...พี่ฮันฮะ...” ฮยอกแจเอ่ยเสียงสั่น ซึ่งไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มสนใจ นอกจากก้าวเข้าไปในครัว แล้วคว้าน้ำมาเทใส่แก้วเท่านั้น จนคนตัวเล็กได้แต่กระเถิบๆ เข้าไปหาอย่างหวาดหวั่น

            แม้จะไม่กลัวพี่ฮันแล้ว แต่นั่นไม่ได้นับเวลาโกรธเลยนะ...เวลาพี่ฮันโกรธน่ะ ขอลูกเจี๊ยบมุดเข้าเปลือกไข่เลยดีกว่า แม้ว่าตลอดมาจะไม่ใช่ความโกรธที่มีเขาเป็นสาเหตุก็เถอะ แต่ครั้งนี้เต็มๆ เลยอ่ะ

          ฮือ ไก่ทำไงดีอ่ะ ทำไงดีๆ พี่ฮันไม่มองมาเลย

            คนตัวเล็กใจเสียไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ก้าวเข้าไปหาก็แล้ว เดินเข้าไปอยู่ในระยะสายตาก้แล้ว แต่ฮันคยองก็ยังคงทำเหมือนฮยอกแจไม่มีตัวตน ร่างสูงก็ทำท่าจะก้าวผ่านหน้ากลับห้องทำงานตามเดิม

            หมับ

            “พะ...พี่ฮัน...อย่าทำ...บะ...แบบนี้สิ” แต่ยังไม่ทันจะก้าวผ่านร่างน้อย มือเล็กก็เอื้อมมาจับเข้าที่ชายเสื้อของคนตัวโตเอาไว้มั่น ใบหน้าเรียวสวยก้มงุดจนคางแทบชิดอก เสียงใสก็สั่นอย่างคนที่ใจเสีย อาการที่คนตัวโตเพียงยกมุมปากขึ้น ดวงตาวาววับแล้วกลับมาเรียบเฉยตามเดิม

            “ฉันทำอะไร”

            “กะ...ก็...ก็ไม่คุยกับผมแบบนี้...ผมขอโทษ...” เสียงใสที่บอกอย่างน่าสงสารและร่างเล็กที่สั่นก็ทำให้คนมองเกือบจะใจอ่อน เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ชอบให้ฮยอกแจกลัวเขา แต่ครั้งนี้...มันมีจุดประสงค์

            “ขอโทษเรื่องอะไร...เรื่องเมื่อวานหรือเรื่องที่กว่าจะนึกได้ว่าต้องโทรมาก็ผ่านไปหลายชั่วโมง” ฮันคยองถามเรียบๆ แล้วหมุนตัวกลับมามองร่างน้อย ดวงตาคู่คมที่โหดเหี้ยมน่ากลัวทั้งยังลึกล้ำเข้มข้นทำให้คนขี้กลัวและเวลานี้กลัวว่าคนรักจะโกรธยิ่งบอกเสียงสั่น

            “ทะ....ทั้งสองเรื่องฮะ”

            ฮันคยองหรี่ตามองลูกเจี๊ยบตรงหน้าที่เอาแต่ก้มหน้า แต่แทนที่จะยกโทษให้อย่างเคย ชายหนุ่มกลับว่าเรียบๆ

            “งั้นมาไถ่โทษซะสิ” ชายหนุ่มบอกเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ทำให้คนฟังเงยหน้าที่ฉ่ำคลอด้วยหยดน้ำตาขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจ มือนิ่มยิ่งกำชายเสื้อของคนรักเอาไว้แน่นอย่างไม่แน่ใจ

            “ถะ...ไถ่โทษหรือฮะ...”

            “รู้ไม่ใช่หรือว่าต้องไถ่โทษยังไง” เมื่อเห็นสีหน้าลังเลไม่แน่ใจของคนรัก ฮันคยองก็กดดันกลายๆ ให้คนฟังแก้มแดงเถือก มือเรียวยิ่งสั่นทั้งยังชื้นด้วยหยดเหงื่อ เข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

          งือ ไก่ต้อง...เริ่มหรือ แต่ไก่ไม่ได้อยากหนีออกจากบ้านเลยนะ ฝีมือมินมินกับอุคกี้ทั้งนั้นเลย ฮือ

            ฮยอกแจบอกกับตัวเอง นึกเคืองเพื่อนรักทั้งสอง ทั้งที่ใจก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องได้รับโทษยาวจนลุกไม่ขึ้นแน่ๆ แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือตัวเองต้องเป็นฝ่ายไถ่โทษเสียเองนี่สิ เพราะมันหมายความว่า...

            “เอ่อ...” ฮยอกแจเอ่ยเสียงเบาแสนเบา ขณะที่ขยับตัวเข้ามาใกล้คนตัวสูง ใบหน้าสวยก็ขยับไปชิดที่อกแกร่ง ทั้งยังเอยอย่างแน่ใจ

            “ละ...แล้วพี่ฮันจะหายโกรธ...ใช่มั้ย”

            “มันอยู่ที่เธอฮยอกแจ” ชายหนุ่มตอบเรียบๆ แต่เหมือนว่านั่นจะทำให้คนฟังมีกำลังใจอีกโข คนตัวเล็กถึงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตัดสินใจเอาวินาทีนั่น

          ทำก็ทำ ทำเหมือนไม่เคยไปได้นะฮยอกแจ

            หมับ

            มือเรียวขยับขึ้นกอดรอบลำคอแกร่งอย่างไม่มั่นใจ ใบหน้าเรียวสวยแหงนเงยขึ้นสบตากับคนตัวโต แววตาที่สั่นระริกทั้งยังฉ่ำน้ำเรียกอารมณ์รักใคร่เอ็นดูจากชายหนุ่ม จากนั้นใบหน้าเรียวสวยก็ขยับขึ้นประทับแนบที่ริมฝีปากได้รูปแผ่วเบา...อ่อนหวาน...และน่ารักสมกับเป็นลีฮยอกแจ

            จูบที่คนตัวเล็กเพียงกดแผ่วๆ แต่ปลุกไฟในตัวฮันคยองให้ลุกโชนขึ้นมาโดยง่าย มือใหญ่ก็ขยับมาจับที่เอวเล็กจนทำให้ฮยอกแจพอจะใจชื้น จากนั้น ใบหน้าสวยก็ขยับเข้าที่ซอกคอแกร่งแล้วกดจูบที่ผิวเนื้อสีคร้ามแดดเบาๆ มือนุ่มนิ่มที่สั่นน้อยๆ ก็เลื่อนลงต่ำอย่างเชื่องช้า



          ถึงจะอายแทบมุดดินหนี แต่ก็...เคยทำมาแล้วไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบนี่นา

            เพียงมือเรียวจับเข้าที่แก่นกายใหญ่ภายใต้กางเกงแผ่วเบา มันก็ขยับขยายสู้มือช้าๆ จนแก้มใสยิ่งแดงจนไม่รู้จะแดงยังไง ก็รู้อยู่นะว่าของพี่ฮันน่ะตื่นง่าย แต่นี่แค่ลูบเองนะ

            ความคิดของคนที่กดจูบเบาๆ ตรงซอกแกร่งซ้ำๆ ไปมา แม้จะเป็นสัมผัสเพียงแผ่วผิว แต่กลิ่นกายหอมกรุ่นและเรือนร่างนุ่มนิ่มที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้ชายหนุ่มนึกอยากจะกลับคำแล้วดึงร่างเล็กมาจัดการด้วยตัวเอง

            แม้จะคิดอย่างนั้น แต่มาเฟียหนุ่มก็เพียงยืนเอาสะโพกพิงกับโต๊ะในห้องครัวอยู่แบบนั้น มองคนตัวเล็กที่กำลังขยับกายอย่างเชื่องช้า มือนุ่มก็กำลังกอมกุมความใหญ่โตของเขาแล้วลูบไล้ไปมาเบาๆ แล้วค่อยดึงกางเกงขายาวสีเข้มสำหรับใส่อยู่บ้านให้หล่นลงที่ข้อเท้า

            “อาห์...ดี...ฮยอกแจ...” เสียงทุ้มคำรามเบาๆ ในลำคอ เมื่อมือนุ่มกำลังลูบไล้ไปตามความร้อนผ่าวซึ่งกำลังขยับขยายมากขึ้นทุกที ใบหน้าคมคายก็ฝังลงที่กลุ่มผมนุ่มแล้วสูดกลิ่นหอมหวานเข้าเต็มปอด จนยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้พุ่งสูงขึ้น

            เสียงครางทุ้มต่ำที่ทำให้ฮยอกแจขยับลงไปนั่งคุกเข่าลงตรงหน้า ใบหน้าเรียวสวยแหงนเงยขึ้น ใช้ดวงตาที่ฉ่ำหวานด้วยอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นช้าๆ มองอีกฝ่าย แววตาที่เหมือนอ้อนวอนขอร้อง และยังอ่อนเดียงสาเสียไม่เหมือนคนที่ผ่านเรื่องทำนองนี้มาหลายปีทำให้ฮันคยองยกมือลูบเส้นผมนุ่มเบาๆ

            การกระทำที่ทำให้ลูกเจี๊ยบตัวน้อยหันกลับมามองสนใจของตรงหน้าอีกครั้ง ทั้งยังอดกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ไม่ได้

          งือ จะจับกี่ครั้ง จะเห็นกี่ทีก็...ใหญ่

            ฮยอกแจคิดพลางส่งมือไปลูบไล้ของตรงหน้าอย่างเบามือ หูก็ได้ยินเสียงคำรามในลำคอของคนรักจนปลายลิ้นสีสดขยับไปเลียเบาๆ ที่ส่วนปลายจนคนตัวโตกัดฟันกรอดกับความสุขสมที่ร่างเล็กมอบให้ และเหมือนว่าพอเริ่มมีอารมณ์ร่วม ฮยอกแจก็พอจะปัดความเขินอายที่เต็มเปี่ยมอยู่ในใจทีละน้อย

            ฟึ่บ...จากที่แค่เลียเบาๆ คนตัวเล้กก็เริ่มส่งปลายลิ้นมาขยับเลียตั้งแต่ส่วนโคนถึงปลาย ซึมซาบรสชาติแสนคุ้นเคยที่ทำให้ความร้อนวิ่งวูบไปทั่วร่าง มือเรียวก็ช่วยขยับแล้วรูดเบาๆ ไปด้วย

            “อืม....ฮยอกแจ...” ฮันคยองหลับตาแน่น กัดฟันจนขึ้นสันนูนกับเพียงแค่แตะต้องไม่นาน แก่นกายใหญ่ก็ตื่นเต็มที่ให้ร่างเล็กดูดกินอย่างที่เขานึกพอใจ

            ใจจริงหากถามฮันคยองว่าโกรธหรือไม่ที่คนรักหนีไปอยู่กับเพื่อน ชายหนุ่มคงตอบว่าไม่ได้โกรธ แค่ความไม่พอใจเล็กๆ ที่ทำลายแผนการของเพื่อนสนิทกลุ่มนี้ไม่สำเร็จเท่านั้น แต่ที่ทำอย่างนี้ก็แค่...หากำไรให้ตัวเองเท่านั้นเอง

            “อืม...” ฮันคยองส่งเสียงในลำคอ เมื่อลูกเจี๊ยบตัวน้อยกำลังส่งท่อนเนื้อร้อนผ่าวเข้าไปในโพรงปากเล็กลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือเรียวก็ช่วยขยับไปด้วยในตัว ปากบางก็ทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ขณะที่รู้สึกถึงความร้อนวูบวาบที่แล่นพราดไปทั้งตัว

            “ยกสะโพกหน่อยฮยอกแจ” คำสั่งของมาเฟียหนุ่มที่ทำให้จากที่ฮยอกแจนั่งคุกเข่า ร่างเล็กก็ขยับขึ้นมาทำท่าคลานอยู่ตรงหน้า ให้ฮันคยองโน้มตัวไปด้านหน้า มือใหญ่ก็ดึงกางเกงเนื้อนุ่มให้หลุดจากสะโพกมนอย่างที่ร่างบางก็ไม่คิดขัดขืน

            “อื้อ” ฮยอกแจที่กำลังใช้ปากรูดรั้งความใหญ่โตได้แต่ส่งเสียงในลำคอ เมื่อคนรักกำลังใช้นิ้วกลางดันเบาๆ ที่ร่องหลืบสีสวยทั้งที่ยังมีชั้นในตัวเล็กปกปิดเอาไว้ จากนั้นก็ถูไถไปรอบๆ จนเนื้อผ้าเสียดสีกับส่วนอ่อนไหว ขาเรียวก็เกือบจะหุบเข้าหากันเพราะความเสียวซ่าน แผ่นท้องหดเกร็งด้วยแรงอารมณ์

            ฟึ่บ

            แต่ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะได้ทำตามใจคิด ฮันคยองก็ขยับนิ้วเข้ามาด้านใน แล้วใช้นิ้วเดิมดันเบาๆ ที่ช่องทางสีสด จนฮยอกแจยิ่งห่อปากแน่น แรงรูดรั้งยิ่งมากขึ้นตามอารมณ์ของร่างเล็กที่เพิ่มสูงขึ้นทุกที ยิ่งฮันคยองสะกิดเกลี่ย ถูไถ ซุกไซ้ไปมา ฮยอกแจก็ยิ่งตัวสั่นขึ้นเรื่อยๆ ดวงตายิ่งฉ่ำปรือด้วยหยดน้ำแห่งอารมณ์

            “อึ้ก...เร็วไป...ฮยอกแจ..เดี๋ยวฉันไปก่อน...” ฮันคยองเอ่ยบอก เมื่อคนตัวเล็กยิ่งขยับปากรุนแรงขึ้นทุกทีจนสัมผัสได้ถึงน้ำขุ่นที่ซึมออกมาช้าๆ คำพูดที่ทำให้ร่างเล็กพยายามลดความเร็วลง แต่มันกลับแทบทำไมได้ เมื่อคนตัวโตยังคงแกล้งเขาด้วยการถูไถปลายนิ้วไปมาแบบนี้

            หมับ

            “มานี่”

            “อึ้ก...พี่ฮัน...” ฮันคยองที่เกือบจะหมดความอดทนตัดสินใจดึงร่างเล็กให้ยืดตัวขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยที่คราบน้ำใสไหลซึมที่มุมปากก็ช้อนขึ้นมอง ใบหน้าสวยแดงซ่านยิ่งเร้าอารมณ์รัก จนชายหนุ่มขยับไปบีบขยำที่ก้มนุ่มแรงๆ สองมือบีบคลึงไม่ได้หยุดจนฮยอกแจต้องเกาะบ่าแกร่งเอาไว้มั่น

            “อ้าปาก” ชายหนุ่มบอก ซึ่งทำให้ร่างบอบบางเผยอเรียวปากทีละน้อย รับริมฝีปากที่ฉกวูบเข้ามา ปลายลิ้นร้อนก็สอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานหอม เข้ารุกไล้กับลิ้นนิ่มที่ส่งมาโต้ตอบอย่างน่ารัก เสียงจูบดังสะท้อนไปทั่วห้องคอนโดกว้าง ขณะที่ฮันคยองกำลังดึงชั้นในตัวเล็กให้หล่นไปตามแรงโน้มถ่วง

            ฟุ่บ

            “อื้อๆ...อึ้ก...” เสียงครวญครางดังอื้ออึงในโพรงปากอุ่น ขณะที่ลิ้นของทั้งคู่กำลังแลกเปลี่ยนน้ำใสจนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน ในเมื่อฮันคยองกำลังแหวกก้นนุ่มเพื่อใช้ปลายนิ้วยาวกดสอดเข้าไปในความคับแน่นอย่างเชื่องช้า จนฮยอกแจต้องแอ่นก้นให้ ขาเรียวยิ่งสั่นระริกกับความวาบหวามที่ได้รับ

            แต่เหมือนว่าฮันคยองจะไม่ยอมปล่อยให้เรียวปากหวานเป็นอิสระง่ายๆ นอกจากดันร่างเล็กให้เป็นฝ่ายพิงกับโต๊ะด้านหลัง มือใหญ่ก็สอดแทรด ถูไถ รุกล้ำเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ แล้วเพิ่มปลายนิ้วเข้าไปอย่างเชื่องช้า จนฮยอกแจยิ่งเกาะบ่าแกร่งแน่น ริมฝีปากบางยิ่งร่ำร้องขอจูบที่หนักหน่วงกว่านี้ ซึ่งมีหรือที่ฮันคยองจะปฏิเสธ

            “อ๊า...พะ...พี่ฮัน...แฮ่กๆ...อาห์..ตะ...ตรงนั้น...กดแรงๆ..ระ..แรง...อึ้ก” พอมาเฟียหนุ่มยอมผละห่างออกไปซุกเข้าที่ซอกคอขาว ฮยอกแจก็ครวญครางเสียงพร่าหวาน ใบหน้าสวยเชิดรั้งขึ้น ยามที่อ้าขาออกให้ปลายนิ้วยาวกดเข้ามาได้สะดวกมากขึ้น แล้วเพียงแค่ฮันคยองย้ำเข้าไปที่จุดอารมณ์ภายใน เสียงครวญครางก็ดังก้องไปทั่วห้องครัว

            ฮยอกแจเริ่มได้เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว

            คนที่ไม่เคยใจแข็งกับร่างน้อยได้นานบอกกับตัวเอง แล้วดันฮยอกแจให้หันหลังให้ แก่นกายใหญ่ก็ขยับมาแทนที่ปลายนิ้วที่ดึงออกไป จนใบหน้าสวยซบหน้าลงกับโต๊ะตรงหน้า แอ่นก้นเข้าหาคนรักในทันที

            “อ๊าาาา...วะ...ไหว...พี่ฮัน...ผมไหว...อึ้กๆ...” ฮยอกแจสะท้านเยือกกับความใหญ่โตที่กำลังสอดเข้ามาอย่างเชื่องช้าอย่างรู้ดีว่าคนรักกลัวเขาจะเจ็บ มือเรียวก็จิกเข้าที่โต๊ะไม้ตรงหน้า ก่อนจะครางออกมาสุดเสียง เมื่อมาเฟียหนุ่มดันทีเดียวจนมิดด้าม

            “อาห์ ฮยอกแจ...รัดฉันแน่นไป” ฮันคยองคำรามเสียงดัง เมื่อผนังนุ่มกำลังตอดรัดเขาไม่ได้หยุด ทั้งยังขมิบถี่เสียจนต้องขบกรามแน่น มือใหญ่ก็เลื่อนไปหมุนคลึงที่ยอดอกสีหวานซึ่งยังซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเนื้อนุ่ม

            “อาห์...อึ้กๆ...” ฮยอกแจกัดปากตัวเองจนเจ็บ หากแต่เสียงหวานก็หลุดลอดออกมาเป็นระยะ แล้วก็ต้องหวีดร้องเมื่อแก่นกายใหญ่ดึงออกแล้วขยับกระแทกเข้ามาจนสุด

            “อาห์...ที่หลังไปไหนก็ต้อง...อึ้ก...บอก...เข้าใจมั้ย...”

            “อ้ะ....อื้อ...พะ...พี่ฮัน...อ๊าาา...ฮื่อ...”
           
            “ว่าไง” ฮันคยองเน้นย้ำคำถาม ขณะที่สอดมือเข้าใต้เรียวขาขาว แล้วกอบกุมส่วนอ่อนไหวเอาไว้ในฝ่ามือ ขยับอย่างเนิบนาบให้คนตัวเล็กยิ่งครางพร่า เสียงใสก็รับคำเสียงสั่นสะท้าน
           
            “ฮะ...ผม...จะ...จะบอก...อ้ะๆ..” ทันทีที่ฮยอกแจรับคำ ชายหนุ่มก็โน้มหน้าไปประซิบริมหูด้วยคำที่ทำให้ลูกเจี๊ยบตัวน้อยยอมทุกอย่าง

            “เพราะฉัน...ห่วงเธอ”

            พั่บๆๆๆ

            ว่าจบ แก่นกายใหญ่ก็ขยับสอดเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เน้นย้ำเข้าที่จุดอารมณ์ภายในจนฮยอกแจครางลั่น ใบหน้าสวยซบลงกับท่อนแขนเรียวนิ่ง โต๊ะไม้เนื้อหนาตรงหน้ายิ่งขยับโยกไหวตามแรงอารมณ์ของคนด้านหลังที่ใส่แรงมาไม่ยั้ง

            ความรู้สึกที่ราวกับล่องลอยอยู่บนสวรรค์ ความสุขพร่าพรายไปทั่วร่างของคนทั้งคู่ จนยิ่งขยับส่ายประสานจังหวะกันอย่างลงตัว

            เสียงครวญครางดังถี่ๆ เพียงไม่นาน ก่อนที่ฮันคยองจะปล่อยให้ร่างเล็กเข้าสู่จุดหมายปลายทางไปก่อน และตามมาติดๆ เพียงแค่กระแทกกายไปไม่กี่ครั้ง

            “แฮ่กๆ...” เสียงหอบหายใจดังถี่ระรัว พร้อมกับแผ่นอกที่สะท้านขึ้นลงกับกิจกรรมที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป ขณะที่ฮันคยองก็รวบร่างเล็กเอาไว้มั่นแล้วก้มลงกดจูบที่แผ่นหลังขาวผ่องซึ่งเสื้อเนื้อนุ่มถูกถลกขึ้นไป สัมผัสที่ทำให้ฮยอกแจได้แต่ส่งเสียงเบาๆ ในลำคอ

            สัมผัมอ่อนหวาน หากแต่เรื่องหนึ่งยังติดอยู่เต็มห้องหัวใจ
           
            “พี่ฮัน...หายโกรธผมนะฮะ” เสียงใสที่สั่นน้อยๆ เครือไปกับเสียงหอบทำให้คนตัวโตหัวเราะในลำคอ มือใหญ่ก็ลูบเอวขาวผ่องเบาๆ

          ท่าทางไม่หายโกรธ คนคิดมากแถวนี้คงไปแอบร้องไห้

            “ฉันหายโกรธ แต่ทีหลังไปไหนก็บอกฉันก่อนนะฮยอกแจ” ฮันคยองโน้มตัวไปกระซิบริมหูเบาๆ ให้คนฟังหันขวับมามองอย่างดีใจ ใบหน้าสวยประดับด้วยรอยยิ้มหวาน แต่เพียงมองเข้าไปในดวงตาคู่คม ร่างบอบบางก็ต้องสะดุ้งเฮือก

          ไม่นะ สายตาแบบนี้ ฮือ ไก่แย่แน่เลย

          “เมื่อกี้น่ะไถ่โทษ ส่วนตอนนี้เธอมาให้ฉันทำโทษได้แล้ว”

            ฟึ่บ

            ว่าจบ ฮันคยองก็ช้อนร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอด จากนั้นก็หมุนตัวกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้มือเรียวได้แต่กำเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้มั่น แก้มแดงซ่านไปจรดลำคอ นึกรู้ชะตากรรมตัวเอง

          แต่ถ้าพี่ฮันหายโกรธ ไก่ก็ยอม

            ความคิดของร่างบอบบางที่ไม่รู้เลยว่าฮันคยองไม่ได้โกรธ ก็แค่แกล้งโกรธให้ใครบางคนเริ่มก่อนและหากำไรให้ตัวเอง...ก็เท่านั้น


.....................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น