วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Special CL_10 ผลลัพธ์ของงานปาร์ตี้

Special CL_10 ผลลัพธ์ของงานปาร์ตี้



            แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านหน้าต่างบานใสของดงแฮเข้ามาจนเห็นร่างของคนทั้งหกที่บางส่วนยังนอนหลับสนิทบนเตียงนอนหนานุ่ม ขณะที่บางคนก็ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวพร้อมออกไปทำงานทั้งที่เพิ่งจะหลับไปเมื่อตอนตีสามตีสี่

            “เอาไงซิน จะปลุกยังไงล่ะเนี่ย” อีทึกเอ่ยปากถามเพื่อนสนิทที่กำลังหวีผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จนทำให้เจ้าหญิงคนสวยหันกลับไปมองภาพของเหล่ารุ่นน้องที่ยังไม่มีใครตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่สักคน

            เวลานี้เตียงนอนหลังใหญ่มีเพียงดงแฮที่นอนขวางตามด้านกว้างของเตียงซุกอยู่กับหมอนใบนุ่ม ที่ว่างยับยู่เป็นของพวกเขาทั้งสองที่ลุกมาก่อนแล้ว ขณะที่ตรงพื้นข้างล่างมีที่นอนแบบเกาหลีวางชิดติดกันปรากฏร่างของฮยอกแจที่นอนมุมด้านหนึ่ง ถูกซองมินนอนกอดแขนเอาไว้ ขณะที่เรียวอุคก็กำลังนอนงึมงำๆ อะไรสักอย่างอยู่ในลำคอ

            ภาพของเหล่ารุ่นน้องที่ยังไม่ยอมตื่นทั้งที่พวกเขาตื่นมาสักพักแล้ว ทำให้สองรุ่นพี่อดจะหันมายิ้มให้กันไม่ได้

            “ปล่อยให้นอนไปเถอะ ยังไงวันนี้ก็วันหยุด เมื่อคืนกว่าจะนอนก็เกือบเช้า” ฮีชอลบอกด้วยรอยยิ้มบาง ยามที่หันไปคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของตนที่มุมหนึ่ง เตรียมพร้อมออกไปเปิดร้านขนมก่อนที่จะสายกว่านี้

            “อืม พี่ซิน พี่ทึกกี้...” แต่ก่อนที่สองสาวพี่ใหญ่จะก้าวออกจากห้อง ฮยอกแจที่ได้ยินเสียงพูดคุยเบาๆ ก็ผงกหัวขึ้นมาด้วยสีหน้างัวเงียไม่น้อย ชุดนอนกี่เพ้าของตนแบะออกพอให้เห็นคอขาวๆ ที่ยังมีรอยแดงประปรายกระจายอยู่ เสียงใสก็ร้องเรียก

            “ฮ้าววว พี่จะไปไหนฮะ” ลูกเจี๊ยบตัวน้อยถามพลางแกะมือเพื่อนอย่างเบามือ แล้วผุดลุกขึ้นมานั่งมองด้วยท่าทางไม่ตื่นดี

            “พวกพี่ต้องไปเปิดร้านน่ะ เมื่อวานก็รีบปิดก่อน เดี๋ยวเสียลูกค้าหมด” อีทึกบอกด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ขยับมาลูบเส้นผมนิ่มของคนที่ท่าทางจะตื่นแต่เช้าเป็นประจำอย่างเอ็นดู

            “นี่กี่โมงแล้วฮะ”

            “เจ็ดโมงเช้าเอง นอนต่อไปเถอะ เดี๋ยวพวกพี่ขอกลับก่อน” ฮีชอลบอกด้วยรอยยิ้ม แต่ทำให้คนฟังส่ายหน้าช้าๆ ยกยิ้มแห้งๆ เมื่อนึกถึงความผิดติดตัวเมื่อวานที่ทำเอาไว้

            “ให้นอนต่อก็ไม่หลับแล้วฮะ นอนไปผมต้องคิดตลอดแน่เลยว่าพี่ฮันจะโกรธมากแค่ไหน” ฮยอกแจว่าเบาๆ ขณะที่ยื่นแขนไปเขย่าเพื่อนปลาที่นอนอยู่บนเตียงจนคนหน้าหวานขยับตัวยุกยิกไปมานิดๆ ก่อนที่ใบหน้าเรียวจะโผล่มาจากตุ๊กตาตัวใหญ่ด้วยตาปรือๆ

            “พี่คิบอม...ด๊องตื่นสายหรือฮะ...” เสียงใสพึมพำเบาๆ อย่างคนไม่ตื่นดี ที่ทำเอาคนฟังยกยิ้มเอ็นดูขึ้นมาทันทีกับคนที่เพียงปลุกขึ้นมาก็ละเมอหาคนเย็นชาเสียแล้ว

            “พี่คิบอมที่ไหนล่ะ ดูดีๆ สิด๊อง” ฮยอกแจบอกพลางขยับไปนั่งอยู่บนเตียงอีกคน ให้คนตาปรือลืมตาขึ้นมาเต็มที่ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนทำอะไรมา

            ภาพที่ทำให้ดงแฮยิ้มหวาน แล้วร้องบอกอย่างน่ารัก

            “อรุณสวัสดิ์ฮะ พี่ซิน พี่ทึกกี้ แต่ขอด๊องนอนต่ออีกหน่อยนะ ง่วงจังเลยอ่ะ” ว่าแล้ว คนน่ารักก็ทำท่าจะมุดผ้าห่มต่อ จนฮยอกแจต้องดึงแขนเอาไว้สุดความสามารถ ก็มันเรื่องอะไรให้เขาตื่นมานั่งเครียดคนเดียวตอนพี่ๆ กำลังจะกลับล่ะ

            ฟึ่บ

            “ไอ้พี่เย่ เงียบหน่อยได้มั้ยห้ะ คนจะนอน! อ้าว” แต่เหมือนว่าเสียงพูดคุยกันเบาๆ นี้จะทำให้เรียวอุคที่นอนอยู่ด้านหนึ่งลุกพรวดขึ้นมานั่งบ้าง ดวงตาคู่สวยก็ดูขุ่นนิดๆ ก่อนจะร้องออกมาเมื่อภาพที่เห็นไม่ใช่ซาลาเปาแก้มป่องที่เพิ่งเล่นเกมหรือทำงานเสร็จแล้วเข้ามานอน แต่เป็นเพื่อนๆ พี่ๆ ที่กำลังหัวเราะออกมา

            “พี่ไม่ใช่เยซอง แต่เดี๋ยวพี่เงียบให้นะอุคกี้” แล้วก็เป็นอีทึกที่แซวขำๆ ให้เจ้าของชื่อได้แต่ส่งค้อนเล็กๆ มาให้ ตื่นเต็มตาขึ้นมาทันที พร้อมกับยื่นมือไปสะกิดเพื่อนที่นอนข้างๆ

            “มินมินตื่นได้แล้ว”

            “อื้อ...ไม่เอาน่าคยู ฉันเหนื่อย...”

            “อุ๊บ คิกๆ...” เพียงแค่กระรอกตัวน้อยเขย่าเบาๆ คนถูกปลุกก็ได้แต่ดึงไหล่หนี ทั้งยังงึมงำออกมาอย่างเคยชินเสียจนคนทั้งห้องหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะเหมือนว่าแต่ละคนจะหลุดชื่อคนรักออกมาเป็นชื่อแรกทั้งนั้นเลยนี่นะ

            แต่แล้ว ทุกคนก็ต้องชะงัก เมื่อซองมินบอกต่อ

            “ถ้าให้ฉันนอน...เดี๋ยวคืนนี้ออนท๊อปให้นะ...งึมงำๆ”

          อ่า ขนาดหลับยังทำให้คนอื่นเขินม้วนได้เลยนะลีซองมิน

            ฟึ่บๆ

            “จะมาออนท๊อปอะไรฉันห้ะมินมิน ฉันไปทำให้ไอ้พี่เย่ดีกว่ามั้ย” เรียวอุคได้แต่หัวเราะอย่างชอบใจ แล้วเขย่าไหล่เพื่อนแรงๆ เสียงแหลมใสก็ตะโกนเข้าไปในหูเพื่อน จนอีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้นมาทันที ก่อนที่กวาดสายตามองไปรอบห้องที่ตื่นกันหมดแล้ว

            “อ้าว อรุณสวัสดิ์ ตื่นเช้าจังเลย...” กระต่ายตัวน้อยทักทายด้วยรอยยิ้มไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วก็ลุกขึ้นมานั่งกอดหมอนใบนุ่มบ้าง ไม่สะทกสะท้านสักนิดที่เผลอหลุดอะไรออกมาให้คนอื่นได้อาย

            “จะออนท๊อปแต่เช้าเลยหรือมินมิน” แล้วก็เป็นดงแฮที่ถามด้วยรอยยิ้มใส ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับชาวบ้านเขาเลยว่าปล่อยเรื่องนี้ให้มันผ่านไปเถอะ จนคนฟังหลุดหัวเราะออกมา มือเรียวก็ยกขึ้นโบกไปมาทำนองว่าไม่ล่ะ แต่สำหรับคำตอบแล้ว

            “ก็มีบ้างน่ะด๊อง แต่ฉันไม่ชอบ เพราะมันทำให้เหนื่อยไปตลอดทั้งวันน่ะ” ซองมินยักไหล่นิดๆ ที่ทำให้ฮีชอลอดไม่ได้จะตีไหล่เล็กเบาๆ ทั้งยังส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

            “พวกเรานี่”

            “อ้าว นี่พวกพี่จะกลับกันแล้วหรือ ไม่ไปกินข้าวเช้ากันก่อนหรือ นานๆ มาค้างด้วยกันสักทีนะ” เรียวอุคเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นพี่ทั้งสองถือกระเป๋าเตรียมกลับบ้านอยู่ก่อนแล้ว จนอีทึกต้องตอบคำถามเดียวกับที่ตอบฮยอกแจไปก่อนหน้านี้แล้ว

            “อ้อ งั้นเดี๋ยวฉันไปเอามือถือให้นะพี่ ตอนนี้อยู่กับพ่อ” เรียวอุคบอกอย่างนึกขึ้นได้ ก่อนที่ร่างเล็กจะลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ทั้งที่นอนไปเพียงไม่นาน

          ก็แหม นอนน้อยแต่ได้นอนเต็มที่ไม่มีใครมากวนตอนดึกๆ มันก็เต็มตื่นกว่าหลับๆ ตื่นๆ นี่นะ อีกอย่าง...ไม่ต้องออกแรงด้วยนี่

            ว่าแล้ว กระรอกตัวน้อยที่ฝากเครื่องมือสื่อสารให้กับมุนฮวาก็ก้าวออกจากห้องไป เพราะเจ้าตัวก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้พี่เย่จะโทรมาหาเขาหรือฝากข้อความอะไรไว้บ้างหรือเปล่า

            ลับร่างของกระรอกตัวน้อย ฮยอกแจก็ลุกขึ้นบ้าง แล้วเดินไปที่ริมหน้าต่างซึ่งตากผ้าขนหนูเอาไว้เมื่อคืน เสียงใสก็ที่ติดกังวลหน่อยๆ ก็ร้องบอกเพื่อน

            “ด๊อง มินมิน ฉันขออาบน้ำก่อนนะ ไม่รู้พี่ฮันจะมาเมื่อไหร่น่ะ” ฮยอกแจพึมพำเสียงเบา ยังคงกัวลกับสายตาคาดโทษของคนตัวโตที่ส่งให้เมื่อวานเย็น เพราะฉะนั้น อาบน้ำแต่งตัวรอเลยดีกว่า ไม่รู้ว่ามาเฟียใหญ่จะมารับเองหรือส่งคนมารับก็ไม่รู้ แล้วเห็นที...คืนนี้ท่าทางจะน่ากลัวจริงๆ

            “คิก นายนี่น้าน่าจะเถียงอะไรพี่ฮันบ้างนะฮยอก อย่ายอมอย่างเดียวสิ” ซองมินว่าเสียงใสอย่างไม่เห็นด้วยกับเพื่อนเท่าไหร่ที่ยอมคนรักเสียทุกอย่าง แต่ลูกเจี๊ยบตัวน้อยก็โบ้ยไปทางเพื่อนซี้ทันที

            “งั้นบอกด๊องให้เถียงพี่คิบอมก่อนสิ ฉันจะลองเถียงพี่ฮันบ้าง”

            “ไม่เห็นต้องเถียงเลยนี่นา ทำไมต้องเถียงด้วยล่ะ ด๊องไม่เห็นว่าควรจะเถียงพี่คิบอมนี่นา” ว่าจบ ดงแฮก็ยู่หน้าเข้าหากันนิด ทั้งยังส่ายหน้าเร็วๆ ยืนยันเจตนารมณ์ความเป็นเด็กดีของตัวเองขั้นสุด จนซองมินได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

            จะยุยังไงให้สองคนนี้เถียงผัวได้บ้างมั้ยเนี่ย

            “ไม่เอาแล้ว ฉันไปอะ...”

            “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้บ้าเอ้ย!!!

            ขวับ

            แต่ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะก้าวจากจุดเดิมสักก้าว เสียงร้องโหยหวนประหนึ่งกระรอกถูกดึงหางก็ดังมาจากชั้นล่าง จนผ้าขนหนูผืนนุ่มที่ถือเอาไว้แทบหลุดจากมือ สายตาทุกคู่หันขวับไปมองหน้าห้องทันทีอย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น

            ตึก ตึก ตึก ตึก

            จากนั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังมาจากชั้นล่างพุ่งขึ้นมาชั้นบนทันทีอย่างไม่ต้องให้ใครสงสัยนาน แล้วสักพักเดียวกระรอกตัวน้อยที่เมื่อกี้ยังหน้าตาสดใสกลับทำหน้าเหมือนจะฆ่าคน มือเรียวหอบโทรศัพท์มือถือหลายเครื่องมาแล้วโยน...ใช่ โยนลงกลางเตียงนอนนุ่มแล้วคว้าเฉพาะเครื่องของตัวเองที่เพิ่งเปิดเครื่องเมื่อครู่ขึ้นมา

            “ไอ้พี่เย่บ้า ไอ้ผัวเฮงซวย แค่คืนเดียวเท่านั้นแหละ มันเล่นอย่างนี้จนได้!!! ฮึ่ย เมียมีของดีไม่ชอบ ชอบไปกินของนอกบ้านใช่มั้ย ไอ้พี่เย่บ้าเอ้ย!!” เรียวอุคด่าไฟแลบเสียจนคนในห้องที่ยังไม่ทันตั้งตัวได้แต่มองหน้ากันอย่างหวาดๆ ยิ่งสีหน้าแบบจะขย้ำคอคนที่ตัวเองพูดถึงก็ทำให้ฮีชอลรีบก้าวมาจับไหล่เล็ก

            “เกิดอะไรขึ้นอ่ะอุคกี้”

            ฟึ่บ

            “พี่ซินดูนี่ ไอ้พี่เย่ไปไปกกสาวไหนก็ไม่รู้ กอดกันกลมเลยด้วย พี่ดูสิๆๆๆๆ แค่หนีมานอนบ้านเพื่อนคืนเดียวมันก็ออกลายให้เห็นเลยนะ ใช่สิ เรามันของเก่าถูกใช้จนหลวม (?) จะไปสู้สาวๆ ได้ยังไง แค้น มันแค้น!!” เรียวอุคชูโทรศัพท์ของตัวเองที่บนหน้าจอมีภาพคนแก้มป่องกอดกับสาวสวยในชุดแซกบนโซฟาขึ้นมาทันที เสียงใสก็ก่นด่าไปด้วย จนแต่ละคนได้แต่อ้าปากค้าง

            หมับ

            “ฉันอาบก่อน จะรีบกลับไปจัดการไอ้โรคจิตให้มันหลาบจำ!” ว่าจบปุ๊บ เรียวอุคก็ฉวยผ้าขนหนูจากมือฮยอกแจแล้วก้าวดุ่มๆ เข้าห้องน้ำไปทันทีจนทั้งห้องไปแต่นิ่งอึ้ง

            ปัง!!!

            “...”

            ภายในห้องเหลือเพียงความเงียบเข้ามาเยือน เมื่อประตูห้องน้ำปิดลงไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่แต่ละคนก็ได้แต่มองโทรศัพท์เจ้าปัญหาที่เรียวอุควางทิ้งไว้บนเตียงอย่างหวั่นๆ หัวใจแต่ละคนเกิดคำถามว่าในเมื่อเยซองไปกอดกับผู้หญิงเมื่อคืน แล้วคนของตัวเองที่ไปกินเหล้าด้วยกัน (ตามคำบอกเล่าของดงแฮ) ล่ะ จะทำแบบนี้ด้วยมั้ย

          อ้อ ไม่สิ ต้องบอกว่าหัวใจของทุกคนเว้นแค่เพียง...

            หมับ

            “อ้าว นี่มันแทแทนี่นา”

            “เอ๋!!!


            ท่ามกลางบรรยากาศแสนเคร่งเครียด เสียงหวานของคนที่คลานดุ๊กดิ๊กมาคว้าโทรศัพท์ไปดูก็เอ่ยแทรกขึ้นมา จนเสียงอุทานดังลั่น สายตาทุกคู่หันขวับกลับไปมองปลาตัวน้อยที่ยังพันด้วยผ้าห่มผืนหนา เหลือเพียงแค่หน้ากับแขนที่โผล่ออกมากำลังบอกอย่างพินิจพิเคราะห์

            ฟึ่บ

            “นายว่าไงนะ แทแทหรือ” ซองมินที่ทำท่าจะอาละวาดเป็นเพื่อนเพื่อนสนิทรีบกระโดดมานั่งข้างดงแฮทันที ทั้งยังชะโงกหน้าไปมองหน้าจอโทรศัพท์ของชายหญิงคู่หนึ่งอย่างรวดเร็ว

            คำถามที่คนหน้าหวานพยักหน้าหงึกหงัก

            “ใช่สิ นี่มันแทแทน่ะมินมิน ด๊องจำได้ มุมนี้ของแทแทก็เคยทำให้ด็องเข้าใจผิดมาแล้วน่ะ เมื่อตอนปีสองปีสาม ยูริก็ส่งภาพแทแทกอดพี่คิบอมมาให้ด๊องดู ทำเอาเข้าใจผิดเลย ด๊องล่ะกลัวพี่คิบอมมีคนอื่นเลยยอมออนท๊อปกลางห้องทำงานพี่คิบอมที่ห้องสภาเลยนะ ตั้งแต่นั้นมา ด๊องก็จำได้ขึ้นใจล่ะว่ามุมนี้น่ะ...แทแทชัดๆ เลย”

            “...”

            เงียบ...กริบ

            สิ้นข้อสรุปของคนรู้ลึก รู้จริง รู้ทุกอย่าง ความเงียบก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งห้องนอนเล็กๆ ในทันที เหลือเพียงสายตาหลายคู่ที่สบกันอย่างอึ้งๆ ก่อนที่จะเป็นซองมินที่ฉีกยิ้มน่ากลัวก่อนคนอื่น

            “อ้อ เพื่อนกันเลยชอบเล่นอะไรแบบนี้งั้นสินะ อย่าให้รู้นะว่าเป็นความคิดคยู บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเอาความรู้สึกมาหยอกกันเล่น อยากให้ควงผู้ชายคนอื่นยั่วให้หึงอีกหรือไง” ซองมินบอกอย่างอดหงุดหงิดแทนเพื่อนไม่ได้ โทษไปถึงคนเจ้าเล่ห์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ เลยสักนิด

            “แล้วเยซองจะทำไปทำไมล่ะ” ฮีชอลถามอย่างแปลกใจ ที่ทำให้กระต่ายตัวน้อยบอกเสียงขุ่น

            “ฉันว่ายั่วให้หึงชัวร์เลย เล่นอะไรแผลงๆ” ซองมินว่าอย่างไม่ชอบใจ

            “งั้นเราบอกอุคกี้กันมั้ยว่าคนในภาพ...”

            ปัง!

            “ขอบคุณที่ให้มาค้างนะด๊อง ฉันกลับก่อน จะไปเอาเลือดหัวไอ้บ้านี่ออก ไปแล้ว” ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะเสนอความคิดจบ คนที่เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำ (หรือเผลอๆ อาจจะแค่ล้างหน้าแปรงฟัน) ก็โผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว เสียงแหลมใสบอกเร็วปรื๊อ ก่อนจะก้าวฉับๆ ออกจากห้องอย่างที่คนอื่นเรียกไว้ไม่ทัน

            “เอ่อ...”

            ปัง

            “ลืมหลักฐาน ไอ้พี่เย่ เตรียมตัวตายได้เลย!!” คนตัวเล็กที่ก้าวออกจากห้องไปแล้ววกกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะฉวยโทรศัพท์ของตัวเองในมือดงแฮไปอย่างรวดเร็ว แล้วก้าวฉับๆ จะออกจากห้อง

            “อุคกี้...”

            “ไม่ฟังพี่ซิน อารมณ์ไม่เย็นแล้วตอนนี้เดือดจนอยากฆ่าคนแล้ว” เพียงแค่ฮีชอลร้องเรียกเบาๆ เสียงแหลมก็แหวลั่นแล้วก็ก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว จนคนที่รู้แล้วว่ากระรอกตัวน้อยน่าจะถูกแกล้งได้แต่ยิ้มแห้งๆ

            “เอาไงดีล่ะเนี่ย” ฮยอกแจพึมพำอย่างเป็นกังวลที่ทำให้คนที่รู้นิสัยเพื่อนตัวเองดีกว่าใครยักไหล่นิดๆ

            “ปล่อยไปเถอะ ตอนนี้อุคกี้ไม่ฟังหรอก อีกอย่าง...” ดวงตาโตวาววับขึ้นมาทันทีอย่างเคืองแทน ทั้งยังหมายมาด

            “...เอาเลือดหัวคนชอบล้อเล่นความรู้สึกคนอื่นออกมาก็ดีเหมือนกัน ฮึ”

            เสียงใสที่คนฟังหลายคนอดจะเสียวสันหลังแทนไม่ได้ เพราะเหมือนว่าแม้งานนี้คยูฮยอนไม่เกี่ยว ซองมินก็จะลากมาเอี่ยวจนได้ซะแล้วสิ

            RRRRRRRrrrrrrrrrrrr

            แต่แล้ว โทรศัพท์เครื่องเล็กก็แผดเสียงก้องขึ้นมาในห้องนอน เสียงรอสายที่รู้ดีว่าใครทำให้ดงแฮรีบคว้ามันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเรียวสวยปรากฏรอยยิ้มหวานๆ ขึ้นมาทันที

            “ฮะ พี่คิบอม”

            “ตื่นแล้วใช่มั้ย” เสียงนุ่มทุ้มของอีกฝ่ายดังลอดเข้ามาให้คนฟังยิ้มหวานแล้วพยักหน้าหงึกหงัก

            “ตื่นแล้วฮะ พี่คิบอมล่ะฮะ ได้นอนหรือยัง” ร่างบางถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ ในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าไปผับกันมานี่นา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้นอนกันแล้วหรือยัง คำถามที่ทำให้ปลายสายนิ่งไปเพียงนิด แล้วตอบคำด้วยเสียงที่อ่อนลง

            “งีบไปหน่อยเดียวที่ผับฮันคยอง เมื่อคืนดื่มโต้รุ่งกับพวกมันมากไปหน่อย ฉันเพิ่งกลับเข้าบ้านมาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ว่าจะนอนสักหน่อย” คิบอมบอกเรียบๆ ที่ทำให้คนเร็วเสมอสำหรับเรื่องของผู้ชายคนนี้ยู่ปากเข้าหากันหน่อย

            “งั้นพี่คิบอมนอนก่อนนะฮะ เอาไว้ตื่นแล้วค่อยโทรหาด๊องก็ได้ อืม ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเย็นนี้ด๊องเข้าไปทำมื้อเย็นให้ทานดีกว่าเนอะ พี่คิบอมจะได้พักผ่อนเต็มที่” แล้วว่าที่เจ้าสาวก็ว่าอย่างน่ารัก คุยเจื้อยแจ้วกับปลายสายสักพัก รวมทั้งบอกว่าจะส่งคนมารับตอนเย็น จะได้ไม่ต้องไปหาเขาเอง อีกอย่าง...เลี่ยงการปะทะกับว่าที่พ่อตาเสียด้วย

            “ฮะ ฝันดีฮะพี่คิบอม” ดงแฮวางสายไปแล้ว ก่อนหันมามองคนในห้องแล้วรายงานเสียเรียบร้อย

            “พี่คิบอมบอกว่าเพิ่งแยกย้ายกันกลับเมื่อชั่วโมงที่แล้วฮะ นั่งดื่มโต้รุ่งกันมากไปหน่อย แต่ไม่ได้ถึงขั้นเมาเดินไม่ไหวนะฮะ แค่มึนๆ ส่วนใหญ่ก็นอนที่ผับพี่ฮันฮะ แต่ตอนนี้น่าจะแยกย้ายกลับบ้านแล้ว” คำรายงานที่ทำให้พี่ใหญ่ทั้งสองอดจะเป็นห่วงคนรักไม่ได้

            “อืม งั้นฉันโทรบอกคังอินก่อนนะว่าให้พักยาวเลย เดี๋ยวหายมึนค่อยไปหาที่ร้าน”

            “เหมือนกัน สงสัยต้องบอกซีวอนก่อน ไม่งั้นคงดื้อจะมารับให้ได้” ฮีชอลก็ตอบคำเพื่อน ก่อนจะหันมาหารุ่นน้องทั้งสามที่ยังอยู่ในห้อง

            “งั้นพี่ไปแล้วนะ เอาไว้วันไหนค่อยมาค้างคืนกันอีก”

            “คราวหน้าห้องฉันนะพี่ เดี๋ยวฉันไล่คยูไปนอนที่อื่นเอง” ซองมินบอกเสียงใสทันทีที่ทำให้พี่ใหญ่หัวเราะขำ แล้วก้าวออกจากห้องเพื่อไปลาเจ้าของบ้านอีกสองคนก่อน คราวนี้ก็เหลือเพียงสามลีที่มองหน้ากันนิด

            ฟึ่บ

            “งั้นฉันขออาบน้ำก่อนแล้วกันนะฮยอก หมาบ้าแถวนี้เวลาเมาแล้วทำอะไรเองไม่ได้ ต้องกลับไปดูซะหน่อย” แล้วคนใจแข็งกว่าชาวบ้าน (?) ก็บอกง่ายๆ หันไปคว้าผ้าขนหนูของตัวเองที่ทำให้ดงแฮอดจะหัวเราะคิกไม่ได้

            “มินมินห่วงพี่คยูใช่มั้ยล่ะ”

            คำถามที่ซองมินหันมาเลิกคิ้วขึ้นนิด แล้วบอกเต็มปากเต็มคำ

            “ไม่ห่วงสามีสุดที่รักจะไปห่วงใครล่ะ เจ้าปลาต๊อง” ว่าจบ ก็ผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ ให้คนต๊องหัวเราะคิกคัก ขาเรียวตีไปมาในอากาศอย่างน่ารักน่าเอ็นดู นัยน์ตาคู่สวยก็หันไปมองเพื่อนสนิทที่กลับมาทรุดนั่งอยู่บนเตียงอีกครั้ง หลังจากถูกแย่งห้องน้ำเป็นครั้งที่สอง

            “แล้วฮยอกล่ะ...”

            ขวับๆ   

            ฮยอกแจส่ายหน้าน้อยๆ อย่างเข้าใจคำถามของเพื่อน ทั้งยังโล่งอกอยู่ไม่น้อยจนต้องถอนหายใจแรงๆ ในเมื่อพี่ฮันไปกินเหล้ากับเพื่อน เขาก็ยังพอมีเวลาเตรียมใจก่อนจะถูกหิ้วกลับบ้านนี่นะ

            “พี่ฮันไม่เมาหรอก ไม่เคยเห็นพี่ฮันเมาสักที ถ้ายังไม่ได้นอน ป่านนี้คงกลับไปนอนมั้ง เดี๋ยวฉันอยู่ช่วยนายเก็บกวาดห้องดีกว่า ขยะเต็มเลย” ลูกไก่ตัวน้อยบอกอย่างน่ารัก ให้เพื่อนสนิทกดหน้าเร็วๆ พลางมองห้องที่ตอนนี้รกไปหมด ทุกทีถ้าไม่มีงานเข้าอย่างนี้ พวกเขาก็คงช่วยกันเก็บกวาดก่อนล่ะนะ แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างมีธุระก็ไม่เป็นไร

            “อืม งั้นวันนี้ทำขนมกันมั้ย ฮยอกจะได้เอาไปให้พี่ฮัน แล้วด๊องจะได้เอาไปให้พี่คิบอมด้วย...”

            “เอาสิ ตั้งแต่ไปจีน ฉันก็แทบไม่ได้เข้าครัวเลยน่ะ ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ได้ทำขนมกับแม่ซอนแฮตั้งนานแล้วด้วย” ฮยอกแจพยักหน้าอย่างแข็งขัน ก่อนที่สองสาวจะช่วยกันเก็บห้องนอนที่ตอนนี้รกใช่เล่นให้เข้าที่เข้าทาง โดยที่สองสาวไม่รู้เลยว่า...คนที่ตัวเองจะทำขนมไปให้น่ะ...เตรียมบทลงโทษเอาไว้แล้วล่ะ

            และท่าทาง...จะหนักเอาเรื่องเสียด้วย

.............................................

            ปัง!!!

            “อยู่ไหน ไอ้พี่เย่บ้า ไอ้ซาลาเปาแก้มบวม!!!

            ภายในคอนโดแสนกว้างขวาง กระรอกตัวน้อยที่ตรงดิ่งกลับบ้านมาก่อนก็เปิดประตูผั้วะใหญ่ แล้วก้าวดุ่มๆ เข้าไปตะโกนเรียกใครบางคนที่ทำให้เขาต้องข่มกลั้นความรู้สึกบางอย่างตั้งแต่เห็นภาพนั้นจนนั่งแท็กซี่กลับมาอย่างนี้

            แต่ภายในห้องที่เต็มไปด้วยภาพคู่ของคนทั้งสองกลับเงียบสนิท จนใจดวงน้อยเริ่มหวั่นอยู่ลึกๆ มือเรียวปล่อยกระเป๋าของตัวเองไว้กลางห้อง  อีกมือกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นจนแทบจะบาดเนื้อ เตรียมปะทุอารมณ์เต็มที่

            “ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้กวนประสาท อยู่ไหน!!!” เรียวอุคแหวลั่น ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวตรงดิ่งไปยังห้องนอนของทั้งสอง

            กึก

            “นี่มัน...” เสียงหวานกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อเห็นเสื้อผ้าของคนรักถอดระเกะระกะอยู่บนพื้นที่นำไปสู่ห้องนอน มือเรียวก็กำเสื้อเอาไว้แน่น ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโมโห

          ทำอย่างนี้ได้ยังไง เมื่อคืนพาใครมานอนด้วย อยากตายใช่มั้ยห้ะ ไอ้บ้า ไอ้งี่เง่า

            คนตัวเล็กร้องด่า ยามที่บังคับขาที่สั่นน้อยๆ ด้วยอารมณ์อยากกระทืบคน ให้ก้าวเข้าไปในห้องนอนกว้างที่เห็นเพียงร่างที่โผล่มาแค่เรือนผมสีเข้มที่เขารู้ดีว่าใคร เพราะต่อให้เห็นแค่นิ้ว (?) ของไอ้คนที่นอนอยู่ เขายังจำได้ดีเลยว่าเป็นของใคร (แน่ล่ะ ออกจะเป็นเอกลักษณ์)

            “ไอ้ผัวงี่เง่า ตื่นขึ้นมาคุยกันเดี๋ยวนี้นะ!!!” เสียงใสที่แหวลั่น ทำเอาคนที่เพียงงีบไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วตื่นเต็มตา ดวงตาคู่คมที่ยังมุดอยู่ใต้ผ้าห่มวาววับขึ้นมาอย่างชอบใจ

            เห็นมั้ยล่ะว่าตัวเล็กของเขากลับบ้านมาก่อนคนอื่นแน่นอน

            “หืม อะไรครับตัวเล็กของพี่เย่...” เยซองแกล้งงัวเงียแล้วโผล่หน้าขึ้นมาจากกองหมอน

            เปรี้ยง!

            “เฮ้ย!!!” คนที่เพิ่งโงหัวขึ้นมาถึงกับร้องลั่นทันที เมื่อโทรศัพท์เครื่องหรู (แน่ล่ะว่าเงินเขา) ถูกโยนมากระแทกหัวเตียงเฉียดกับหน้าเขาไปเพียงนิดเดียว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักของเสียงอุทาน ไม่ใช่เพราะตัวเล็กทำท่าอยากจะเฉือนของเขาทิ้ง แต่ว่า

            “ฮึก...ไอ้พี่เย่บ้า...ฮือ...ทำอย่างนี้กับฉันได้ยัง...ไง ฮือ”

          บรรลัยแล้วไง ตัวเล็กร้องไห้ งานเข้ากูล่ะไอ้เยซอง!!


...........................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น