วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Special CL_7 ปาร์ตี้ชุดนอน 1

Special CL_7 ปาร์ตี้ชุดนอน 1



          ในเวลาที่ท้องฟ้าพร่างพราวไปด้วยหมู่ดาว บ้านหลังน้อยที่เมื่อราวชั่วโมงก่อนเกิดสงครามเย็นระหว่างหนึ่งพ่อตากับบรรดาลูกเขย (เหมารวมเพื่อนลูกเป็นลูกหมด) ก็เข้าสู่สภาวะปกติ เมื่อบรรดารถคันหรูประหนึ่งงานโชว์รถนอกขนาดย่อมยอมแล่นออกไปจากบริเวณนี้ทั้งหมดแล้ว บ่งบอกว่าว่าบรรดาเมะทั้งหลายยอมล่าถอยไปพร้อมกับความพ่ายแพ้

            ซึ่งเหมือนจะทำให้ใครบางคนสะใจ๊สะใจอย่างไม่คิดปิดบังความรู้สึกเลยสักนิด

            “ฝีมือพ่อใช้ได้มั้ยลูก” ลีมุนฮวาถามด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจยามที่ไล่เห็บหมัดทั้งหลายให้พ้นจากสนามหญ้าหน้าบ้านได้ จนคู่หูคหกรรมที่จับมือกับคุณพ่ออย่างแนบสนิทคราวนี้หัวเราะคิก กระต่ายตัวน้อยก็หยอดอย่างน่ารัก

            “คุณพ่อเก่งที่สุดเลยฮะ แฟนมินมินน่ะนิสัยเสีย ต้องเจออย่างพ่อเลยฮะ”

            “เหมือนกันฮะ พี่เย่ของอุคกี้น่ะกวนประสาทที่หนึ่งเลย วันนี้ทำหน้าจ๋อยแบบนั้น อุคกี้ชอบ” เรียวอุคก็เอ่ยเสริมทันควันที่ทำให้มุนฮวาหัวเราะอย่างเอ็นดู นัยน์ตาที่ผ่านอะไรมามากก็มองเข้าไปยังห้องนอนของลูกชายที่เล็กไปถนัดตาเมื่อเต็มไปด้วยหนุ่มหน้าสวยทั้งหกที่บ้างนั่งเล่น นั่งคุย นอนกลิ้งไปมาบนเตียง แววตาฉายชัดถึงความเอ็นดู

            “วันนี้ก็สนุกกันให้เต็มที่นะ พ่อไม่กวนแล้วล่ะ ไม่ได้เห็นภาพพวกลูกมานอนเล่นคุยเล่นกันมาหลายปีเหมือนกันนะ”

            “ก็ตั้งแต่มีแฟนนั่นแหละฮะ” ซองมินพยักหน้าหงึกหงักบอกอย่างแสนเสียดายที่กิจกรรมโปรดของพวกเขาอย่างการมานอนค้างด้วยกันถูกยกเลิกไปเพราะต่างฝ่ายต่างมีแฟน ไม่อย่างนั้น ไม่พวกเขามาค้างที่บ้านหลังนี้ก็แห่กันไปสิงอยู่ที่หอพักของพี่ซินบ่อยๆ

            แต่ตั้งแต่มีแฟนนั่นแหละ...ชีวิตนี้ไม่เคยว่างกันสักเท่าไหร่เลย

            “พูดแล้วพ่อก็ยังโมโหเจ้าพวกนั้นไม่หาย นึกว่าพ่อจะกลัวอิทธิพลมืดงั้นหรือ คิมคิบอมพ่อยังไม่กลัวเลย” มุนฮวาว่าพลางส่ายหน้าช้าๆ จากนั้นคนเป็นพ่อก็เอ่ยขอตัวให้เวลาสาวๆ ได้เป็นอิสระบ้าง

            “งั้นพ่อกลับห้องแล้วนะ เดี๋ยวมือถือพวกลูกเก็บไว้กับพ่อ อ้อ ถ้ามีใครปีนหน้าต่างห้องเข้ามา ตะโกนดังๆ พ่อพร้อมไล่เสมอ” มุนฮวาว่าพลางผละออกจากห้อง ทั้งที่รอยยิ้มยังคงกว้างบ่งบอกความภูมิใจกับชัยชนะในวันนี้

          หึๆ ได้เห็นสีหน้าแห่งความพ่ายแพ้แล้วท่าทางคืนนี้จะฝันดี

            “บ๊ายบายฮะ ฮีโร่ของพวกเรา” ทั้งซองมินและเรียวอุคยืนโบกมือบ๊ายบายอยู่หน้าห้อง และเมื่อคุณพ่อจอมหวงแห่งปีก้าวเข้าห้องไปแล้ว บานประตูก็ปิดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งดวงตาทั้งสองคู่ที่หันมาสบประสานสายตาด้วยกันอย่างมีความหมาย

            พรวด

            ตุบ

            “เมื่อกี้พวกนายเห็นมั้ยๆๆๆๆๆ พี่เย่ทำหน้าเหมือนขี้ไม่ออกมาสักสามวันน่ะ” เรียวอุคกระโจนพรวดขึ้นไปนั่งเบียดบนเตียงกว้างเป็นคนแรก ทั้งยังสะกิดฮยอกแจยิกๆ ดวงตาคู่สวยวาวระยับ นึกภาพคนกวนประสาทที่ได้แต่ยิ้มเจื่อน เอาหลังพิงรถอย่างแสนจะชอบใจ

            “เหมือนกันเลย หน้าคยูนะ ฮ่าๆๆๆๆ เคยเห็นหมาหงอยเวลามองเจ้าของตาปริบๆ มั้ย โอ๊ย ฮาอ่ะ” ซองมินที่ก้าวมาทรุดนั่งจุ้มปุ้กอยู่ที่พรมหนานุ่มกลางห้องพร้อมกับกอดหมอนใบนิ่มบอกด้วยเสียงหัวเราะ เรียกความสนใจของคนอื่นที่กำลังพูดคุยกันให้หันมามอง

            “ดูพูดเข้าสิ เราสองคนนี่ พี่สงสารซีวอนเขาเหมือนกันนะ...ท่าทางเขาจะรู้สึกผิดเรื่องคราวก่อนมากเลย” เจ้าหญิงคนสวยเอ่ยเตือน ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของคนรักที่ซีดลง ทั้งยังพูดไม่ออกกับคดีร้ายแรงที่เคยทำเอาไว้เมื่อคราวก่อนโน่น ไอ้สงสารมั้ยก็สงสารหรอก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน

            “อ่า หวังว่าคังอินจะเข้าใจนะ” แล้วก็เป็นอีทึกที่เอ่ยขึ้นมาอย่างอดเป็นห่วงคนรักไม่ได้ ขณะที่หัวใจก็กำลังนึกภาพของหมียักษ์ตัวโตที่ถอนหายใจแรงๆ แต่ว่ากันอีกที เขาก็บอกไว้แล้วนี่นะ คังอินไม่โกรธอะไรง่ายๆ หรอก

            ความคิดของราชินีคนสวยที่อาจจะยังไม่รู้ตัวว่าคนอย่างคังอินน่ะเข้าใจอะไรง่ายๆ ก็ต่อเมื่อเป็นเรื่องของเขาทั้งนั้นแหละ

            ท่าทางของสองพี่ใหญ่ที่กำลังเอาหลังพิงพนักเตียงด้วยกันทั้งสองคน ทำให้ฮยอกแจที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมของเพื่อนรักหันมามอง แล้วเสียงหวานก็ว่าพร้อมทั้งยิ้มแหยๆ

            “พี่ฮันไม่ใช่แค่โกรธนะฮะ เหมือนจะโกรธมากเลยด้วย กลับไปหนนี้ท่าทางจะโดนลงโทษหนักเลย” ฮยอกแจพึมพำเบาๆ ทั้งที่ใจนึงก็สนุกน่ะนะที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ แบบนี้ แต่จากสีหน้าและแววตาของมังกรตัวโตที่บอกชัดๆ ว่าฝากไว้ก่อนก็ไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่

          เห็นทีหลังจากนี้จะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกนานเลย งือ

            “ใช่ๆ พูดถึงลงโทษ...จริงๆ วันนี้ด๊องก็ต้องไปค้างบ้านพี่คิบอมเหมือนกันนะ แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เอาไว้ชดเชยวันอื่นก็ได้” แล้วดงแฮที่กำลังนอนคว่ำอยู่บนพื้นพรมก็เงยหน้าขึ้นมาบอกเสียงใสแจ้ว ทั้งที่ในมือยังมีโทรศัพท์เครื่องสำรอง (ทำนองว่าสามีสู้กับพ่อมานาน รู้ว่าต้องทำยังไง) อยู่ในมือ นิ้วเรียวก็จิ้มโทรศัพท์ยิกๆ เป็นข้อความว่า

          ยังไงคืนนี้ขอให้ฝันดีนะฮะพี่คิบอม ด๊องไปคุยกับเพื่อนแล้วนะ

            บอกเสร็จปุ๊บ มือเรียวก็จัดการวางโทรศัพท์ไว้อีกมุมหนึ่ง อย่างที่คู่หูชมรมคหกรรมหันมามองหน้ากันแล้วอดจะย่นจมูกนิดๆ ไม่ได้

            “พวกพี่นี่นะ...พวกนายสองคนด้วย รู้มั้ยว่าพวกเราอย่าทำตัวเป็นของตายเชียวนะ ต้องหาเรื่องมาทำให้พวกนั้นวุ่นซะบ้าง ไม่อย่างนั้นก็ชอบคิดเสมอว่ากลับบ้านไป กลับห้องไปก็เจอพวกเรารออยู่แล้ว ฮึ วันนี้ล่ะจะประกาศให้รู้ว่า พวกเราก็อยากมีเวลาส่วนตัวเหมือนกัน” ว่าแล้ว เรียวอุคก็จัดการร่ายยาวทันที จนคนฟังทั้งสี่ได้แต่ทำตาปริบๆ มีเพียงกระต่ายตัวน้อยที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

            “อุคกี้พูดถูก พี่รู้มั้ยว่าคยูน่ะเซ็กส์จัดที่สุดเลย”

            “มินมิน!!!” ฮีชอลถึงกับร้องเรียกเสียงหลง เมื่อรุ่นน้องบอกด้วยเสียงแค้นหน่อยๆ แต่คนมั่นใจมีหรือจะรู้สึกอะไร นอกจากรีบขยับให้พ้นจากมือเจ้าหญิงที่จะเอื้อมมาหยิกแขน โทษฐานพูดจาน่าเกลียด แล้วคว้าขนมห่อที่ซื้อมาเสียเต็มสองถุงใหญ่ๆ มาแกะกินทันที

            “อายทำไมล่ะฮะพี่ซิน พวกเรากันเองทั้งนั้น...มันเรื่องจริงนะฮะ ถ้าอาทิตย์ไหนงานหมอนั่นหนักนะ จะชอบเล่นเกมแก้เครียด แล้วเกมที่ชอบมากที่สุดน่ะ...”

            “เกมบนเตียง”

            “ถูก!!” ซองมินเงียบเสียงลงไปนิด ก่อนที่เรียวอุคจะเป็นฝ่ายเอ่ยต่อคำราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายเจออะไร ก็แหม เป็นเพื่อนซี้กันมาตั้งแต่เด็กยันโต ทำไมจะไม่ได้ฟังเรื่องราวชีวิตรักของเพื่อนล่ะ แม้ว่าต่างฝ่ายจะต่างเรียนจบ แยกย้ายกันไปแล้วก็เถอะ

            คำที่ทำให้ทั้งฮีชอล อีทึกและฮยอกแจถึงกับหน้าแดงแปร๊ดกับคำพูดตรงๆ มีเพียงดงแฮที่กำลังเอามือทั้งสองข้างเท้าคางมองตาปริบๆ ดวงตากลมโตก็มองเพื่อนทั้งสองด้วยรอยยิ้มหวาน แล้วเสียงใสก็เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างน่ารัก

            “แต่มินมินกับอุคกี้ก็ชอบเกมบนเตียงใช่ม้า”

            กึก

            เจ้าของชื่อทั้งสองถึงกับชะงักไป ก่อนจะหันมามองปลาน้อยของกลุ่มที่กำลังส่งขนมเข้าปากบ้าง ขาเรียวก็กำลังตีไปมาในอากาศอย่างสบายใจ จนอดไม่ได้จะขยับไปดึงแก้มนุ่มๆ เสียคนละที ทั้งที่ใบหน้าสวยๆ ก็พยักหน้ารับคำอย่างไม่คิดอาย

            ก็แหม บอกแล้วว่าพวกเดียวกัน สนิทกันทั้งนั้น จะอายไปทำไมล่ะ...จริงมั้ย

            “พวกเรานี่...ว่าแต่ ด๊อง พี่ยังไม่ได้ถามเลยว่าเปลี่ยนเตียงใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ มาคราวก่อนโน่นยังเป็นเตียงเดี่ยวอยู่เลยไม่ใช่หรือ” เมื่อเห็นว่าน้องๆ กำลังจะคุยเรื่องน่าอาย (ในความรู้สึกคุณแม่ของกลุ่ม) ฮีชอลก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันควัน พลางชี้นิ้วลงบนเตียงนุ่มที่ตัวเองกำลังนั่งพิงอยู่อย่างสงสัย

            ข้อสงสัยที่ทำให้ฮยอกแจก็เอ่ยต่อทันที

            “จริงด้วย เมื่อก่อนไม่มีนี่นา ฉันยังนอนเบียดกัยนายบ่อยๆ เลย” ฮยอกแจว่าพลางลุกขึ้นจากโต๊ะคอมมายังเตียงนอนหลังใหญ่ที่เล่นกินที่ไปเกือบครึ่งห้อง แต่ว่ากันอีกที เขาก็ไม่ได้มานอนค้างห้องเพื่อนมาเป็นปีแล้วด้วยนี่นะ

            คำถามที่ทำให้ดงแฮแย้มยิ้มหวาน แล้วก็บอกเสียงใสอย่างไม่คิดปิดบัง

            “อ้อ หลังๆ มานี้พี่คิบอมมาค้างด้วยที่นี่บ่อยๆ น่ะฮะพี่ซิน เวลามีอะไรกัน เตียงเล็กๆ มันอึดอัดไปหน่อย พี่คิบอมก็ตัวใหญ่นี่นา พี่เขาก็เลยสั่งเตียงใหม่มาเปลี่ยนให้”

            “...”

            คำตอบที่เรียกให้ทั้งห้องพากันเงียบกริบกับคำพูดที่แสนเปิดเผยของปลาน้อยความรู้สึกช้า แถมพอเจ้าตัวตอบเสร็จก็ยังหันไปนั่งกินขนมต่อ ขาเรียวก็ตีไปมาในอากาศราวกับไม่รู้ตัวว่ากำลังพูดเรื่องน่าเขินอายออกมา จนชายเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ร่นขึ้นไปนิด เรียกว่าถ้าไม่มีกางเกงขาสั้นใส่ข้างในก็คงเซ็กซี่ขาดใจเลยล่ะ

            “ฉันชอบคำตอบนาย ฮ่าๆๆ” แล้วเรียวอุคก็ถลาเข้าไปนอนกลิ้งบนพื้นพรมบ้าง ศีรษะเล็กก็นอนลงบนแผ่นหลังบอบบางของดงแฮคล้ายแทนหมอนใบนุ่ม คำตอบที่ทำให้อีทึกหัวเราะเบาๆ ทั้งยังบอกกับเพื่อนสนิทอย่างขำๆ

            “ด๊องเขาเป็นอย่างนี้แต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา ตอบตรงคำถามเป๊ะเลย”

            คนฟังทั้งหลายถึงกับหลุดยิ้มออกมาอย่างขำๆ นั่นสินะ ถ้าไม่ใสซื่อ คิดช้า แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้แก่คิมคิบอมแล้วก็ไม่ใช่ลีดงแฮตัวจริงหรอก

            ภาพแสนน่ารักของคนทั้งหกที่หากมีใครได้ชะเง้อหน้าผ่านบานประตูเข้ามาคงนึกว่าเป็นสรวงสวรรค์ที่มีแต่นางฟ้าสวยๆ กำลังนั่งเล่นนั่งคุยกันอยู่ อีกทั้งนางฟ้าแต่ละองค์ก็...เซ็กซี่ขาดใจกันเลยทีเดียว

            ในเมื่อคอนเซ็ปปาร์ตี้คืนนี้คือ...ชุดนอน แน่ล่ะว่าชุดนอนที่ใส่ประจำเวลาอยู่กับ...สามี

            เริ่มจากคนแรก ดงแฮที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น มือทั้งสองข้างยันกายขึ้นมานิดก็อยู่ในชุดเชิ้ตตัวใหญ่สีขาวสะอาดตาที่บอกได้เลยว่าต้องเป็นของพี่คิบอมอย่างไม่ต้องสงสัย ชายเสื้อก็ยาวเลยมาปิดถึงโคนขาอ่อนและจากการซักถามเสียเรียบร้อยก็ได้ความว่า ทุกที ไอ้กางเกงขาสั้นน่ะไม่มีหรอก แต่ด้วยความที่วันนี้อยู่กับเพื่อนๆ ก็เลยใส่เพิ่มอีกตัวซะเลย

            ขณะที่ถัดมาที่กระรอกตัวน้อยที่กำลังนอนหงายเอาหัวหนุนเอวดงแฮอยู่ก็อยู่ในชุดนอนเนื้อนุ่มลายการ์ตูนสีม่วงอ่อนตัวเก่ง แต่ทว่ากางเกงนอนกลับดูไม่เข้าคู่กันสักเท่าไหร่ ด้วยเป็นกางเกงขายาวเนื้อนุ่มตัวใหญ่จนต้องพับขากางเกงขึ้นมาหลายทบอย่างที่บอกว่าน่าจะเป็นของเยซองแน่ๆ

            และคนสุดท้ายที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นด้วยการชันเข่าขึ้นเอนหลังพิงเตียงนอนด้านหลังอย่างซองมินกลับดูธรรมดาด้วยชุดนอนเสื้อยืด กางเกงขาสั้นพอดีตัวแต่ก็ยังดูน่ารักอยู่ดี แต่เมื่อซักถามว่าทำไมถึงเป็นชุดนี้ คำตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างก็ตามมา...ก็ทุกทีฉันไม่ได้ใส่อะไรนอนเวลาอยู่กับคยูนี่นา เพราะฉะนั้นวันนี้จะใส่อะไรก็ค่าเท่ากันแหละ

            ส่วนสามคนที่อยู่บนเตียง ก็เริ่มจากฮยอกแจคนตัวขาวที่กำลังนั่งห้อยขาอยู่ริมเตียงก็อยู่ในชุดนอนกี่เพ้าเว้าแขนเนื้อนุ่มสีน้ำเงินเข้มที่โชว์ผิวเนื้อขาวๆ ให้ปรากฏแก่สายตาอย่างที่เจ้าตัวได้แต่อุบอิบเบาๆ ว่าพี่ฮันหลงกี่เพ้า ใส่ทีไรไม่รอดทุกที ส่วนล่างก็เป็นกางเกงขาสั้นแค่คืบที่กระชากทีเดียวก็คงหลุดลุ่ยอย่างง่ายดาย

            ถัดออกไปอีกนิด ก็เป็นอีทึกที่กำลังเอาหลังพิงพนักเตียงนอนอยู่พร้อมกับกอดหมอนใบนุ่มก็อยู่ในชุดนอนตัวโตด้วยเสื้อนอนสีเข้มอย่างที่ไม่ใช่แบบที่นางฟ้าคนสวยชอบแน่ๆ กางเกงนอนก็เหมือนจะเอาของแฟนสุดที่รักมาด้วยจนดูหลวมโพรก แต่กลับยิ่งทำให้ร่างบอบบางยิ่งขึ้นไปอีก และถ้าถามว่าทำไมต้องชุดนี้ อีทึกก็คงตอบว่า...ชุดนอนคังอินอุ่นนี่นา เหมือนเจ้าของนั่นแหละ

            ส่วนคนสุดท้ายก็เป็นฮีชอลที่นั่งเคียงข้างเพื่อนสนิทด้วยแก้มที่แดงน้อยๆ กับคำพูดตรงประเด็นของทั้งเพื่อนทั้งน้อง ร่างบอบบางก็อยู่ในชุดนอนตัวยาวเนื้อนุ่มที่คล้ายชุดกระโปรงสีอ่อนยาวลงมาครึ่งต้นขาที่ดูอ่อนหวานสมกับเป็นเจ้าหญิงคนสวยของชมรมคหกรรม

            หกสาวหกสไตล์ที่ยังเจือด้วยกลิ่นอายบางอย่างของแฟนหนุ่มอยู่ด้วย และมันก็...ยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูเมื่อมาอยู่รวมกันอย่างนี้


            และเมื่อคำถามตอบล่าสุดของดงแฮหลุดออกมา ซองมินก็ทำหน้าครุ่นคิดขึ้นมาหน่อย มือเรียวก็ส่งขนมเข้าปากไม่มีหยุด ปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที

            “นี่ๆ ไหนๆ วันนี้เราก็มีปาร์ตี้ชุดนอนกันแล้ว มาผลัดกันเล่าเรื่องเอามั้ย” ซองมินว่าอย่างกะตือรือร้นเสียจนเพื่อนๆ พี่ๆ หันมามองอย่างสนใจ แล้วก็เป็นอีทึกที่เอ่ยปากถามอย่างไม่แน่ใจ

            “เหมือนเวลาไปค่ายแล้วผลัดกันเล่าเรื่องผีหรือ” คำถามที่ทำเอาฮยอกแจส่ายหน้าขวับๆ ทำนองว่าถ้าพูดเรื่องนี้จะอุดหูนอนคนแรกเลยนะ จนซองมินหัวเราะขำ

            “ไม่ใช่ฮะ ไม่สนุกหรอกเรื่องอย่างนั้นน่ะ เรามาเล่าเรื่องที่ปกติเล่าไม่ได้กันดีกว่า”

            “เอ๋ ปกติเล่าไม่ได้?” ฮีชอลถามอย่างงงๆ ทั้งที่เริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ กับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกระต่ายตัวน้อยที่ดวงตาดูเจ้าเล่ห์หน่อยๆ

            รู้สึกว่าจะติดนิสัยคยูมาเหมือนกันนะ

            “ใช่เลยพี่ซิน...” ซองมินว่าด้วยน้ำเสียงที่เร่งให้ทุกคนตื่นเต้น มือเรียวก็ทำสัญญาณให้แต่ละคนสุมหัวเข้ามาหา และเมื่อแต่ละคนขยับเข้ามาอย่างตั้งใจฟังแล้ว กระต่ายตัวแสบก็บอกเต็มปากเต็มคำ

          “มาเล่าเรื่องบทรักบนเตียงกันดีกว่า”

            “ห้ะ!!

            สิ้นคำของกระต่ายตัวน้อยเสียงอุทานก็ดังลั่นห้องกว้าง ซึ่งมีเพียงแค่ดงแฮและเรียวอุคเท่านั้นที่ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ในกรณีของดงแฮเหมือนจะไม่คิดอะไรกับคำเพื่อนซะมากกว่า ริมฝีปากสีระเรื่อก็แย้มยิ้มน้อยๆ ทำนองว่าถ้าจะให้เล่าก็ไม่ขัดข้อง แต่สำหรับเรียวอุคแล้ว ความคิดนี้...สุดยอดที่สุด

            "บะ บ้าหรือ..."

          "ฉันเห็นด้วย !!!!"

            พรวด

            ยังไม่ทันที่ฮยอกแจจะเอ่ยแย้งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ กระรอกตัวน้อยก็ลุกพรวดพราดขึ้นไปนอนบนเตียงกว้าง ใบหน้าสวยฉายชัดถึงความตื่นเต้น อย่างที่ว่าล่ะ เรื่องของคนอื่นสนุกเสมอล่ะ แล้วถ้าจะให้เล่าเรื่องของเขา ก็ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน ก็แหมคบกันมาตั้งกี่ปี ก็รู้ๆกันอยู่ว่าทั้งกลุ่มมีประสบการณ์กันมาทั้งนั้นนี่นะ

            คำพูดที่ทำเอาทั้งเจ้าหญิงทั้งลูกเจี๊ยบหน้าแดงก่ำ ส่ายหน้ากันพรืดใหญ่ทำนองว่าไม่เล่าเด็ดขาดเลยนะ

            "โธ่ อายอะไรกันเนี่ย จำไม่ได้หรือ เมื่อก่อนที่เราเคยคุยกันเรื่องครั้งแรกเป็นยังไงในห้องชมรมน่ะ ตอนนั้นพี่ซินยังพูดเลย ใช่มั้ย นายด้วยฮยอก นายก็เล่านี่นา" ซองมินว่าอย่างขำๆ พลางนึกถึงตอนนั้นที่เขากับเรียวอุคยังไม่มีครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ จนต้องมาเค้นพวกมีประสบการณ์ให้เล่าเรื่องล่ะ

            คำถามที่ทำเอาฮยอกแจค้อนให้เสียวงใหญ่ ดวงตาเรียวรีฉายแววเคืองหน่อยๆ

            “ก็นายบังคับให้ฉันเล่านี่ ถ้าฉันไม่เล่า นายคงกระโดดขึ้นคร่อม จับฉันแก้ผ้าแน่ๆ” ฮยอกแจงึมงำเสียงเบา ขณะที่เอนตัวลงนอนซุกหน้ากับหมอนใบโตที่ทำเอาคู่หูตัวแสบหัวเราะอย่างขำๆ

            “ก็มันอยากรู้นี่ เนอะๆ ตอนนี้พี่ซินยังบอกเลยว่าครั้งแรกเป็นยังไง”

            โป๊ก

            “พวกนี้นี่!!” สิ้นคำของเรียวอุค มะเหงกลูกเล็กๆ ก็ถูกโขกลงบนศรีษะได้รูป จนกระรอกตัวแสบรีบขยับให้ห่างจากรัศมีมือของคุณแม่ชมรม ใบหน้าสวยก็แย้มยิ้มหวาน พลางกวาดสายตามองไปรอบห้อง

            “งั้นมาโหวตกัน เริ่มจากนายก่อนเลยด๊อง จะเล่าไม่เล่า” เมื่อเห็นว่าขืนเถียงกันไปเรื่อยๆ อย่างนี้ เห็นทีจะไม่ได้รู้เรื่องที่อยากรู้แน่ๆ เรียวอุคก็เลยโพล่งขึ้นมาเสียงดัง ทั้งยังเอ่ยปากถามปลาตัวน้อยที่ยังนอนกินขนมอย่างน่ารักอยู่บนพื้นพรม จนใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นมาสบตา

            ดงแฮเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสนิทอย่างฮยอกแจที่ถึงกับส่ายหน้ารัวๆ แล้วหันมามองสายตามีความหวังของทั้งเรียวอุคและซองมิน แต่เมื่อมันออกมาจากสมองของคนความรู้สึกช้าที่ขนาดต่อมอายยังต้องถูกกระตุ้นถึงจะรู้สึก ดงแฮก็เลย...ยิ้มหวาน

            “เอาสิ อยากรู้เรื่องอะไรของด๊องกับพี่คิบอมหรือ”

            “โอเค หนึ่งโหวต แล้วฉันก็หนึ่งโหวต มินมินหนึ่งโหวต สามโหวตแล้ว” เรียวอุคว่าอย่างเป็นต่อ พลางกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง แน่ล่ะว่าคำตอบของดงแฮไม่เกินความคาดหมายอยู่แล้ว ยังไงแววชนะก็ลอยมาเห็นๆ

            “แต่ฉันกับพี่ซินไม่เอาด้วยหรอก...พี่ทึกกี้ล่ะฮะ” ฮยอกแจยังคงยืนยันคำเดิม ชืนให้เล่าเรื่องลีลาบทรักบนเตียงของเขากับพี่ฮัน

          ฮือ แค่คิดก็เขินจนจะมุดเตียงไปดาวอังคารอยู่แล้ว บ้าหรือ จะให้พูดว่าของพี่ฮัน...ยะ...ใหญ่ขนาดนั้น ไม่เอาอ่า

            คราวนี้ เสียงโหวตสุดท้ายจึงมาตกที่อีทึกที่กำลังหัวเราะกับท่าทางของเพื่อนกับรุ่นน้องอยู่ ซึ่งคนตาสวยก็ทำท่าครุ่นคิดนิดหนึ่ง ในหัวก็นึกถึงคนรักอารมณ์ร้อนที่อ่อนโยนกับเขาเสมอ

            “ไม่เอาด้วยใช่มั้ยทึกกี้” ฮีชอลเริ่มพยายามโน้มน้าวเพื่อนสนิทเต็มที่ ซึ่งทำให้คนตาสวยหันมาสบสายตา ก่อนที่...จะหัวเราะเบาๆ

            “ขอโทษนะซิน แต่ฉันว่าเรื่องนี้ก็น่าสนใจดีนี่นา อีกอย่างน้องๆ พวกนี้ก็โตกันหมดแล้ว ถ้าไม่ลงลึกถึงรายละเอียด มันก็โอเคนะ”

            เท่านั้นแหละ การโหวตที่ชนะคะแนนสี่ต่อสองก็สิ้นสุดลง พร้อมกับคู่หูกระต่ายกระรอกที่ตีมือกันอย่างชอบใจ ท่าทางที่บ่งบอกว่าแพ้แน่ๆ ทำให้ฮยอกแจเอ่ยปากถามอย่างอดไม่ได้

            ไม่รู้พวกนี้จะถามอะไรแผลงๆ มั้ย

            “พวกนาย...จะตั้งหัวข้อเรื่องที่เล่าว่าอะไรล่ะ”

            คำถามที่ทำให้ทั้งห้องเงียบเสียงลง สีหน้าแต่ละคนบ่งบอกว่ากำลังครุ่นคิดอย่างหนักเสียยิ่งกว่าประชุมว่างานมหาวิทยาลัยปลายปีจะทำอาหารอะไรไปลงที่งานดีเสียอีก ในเมื่อลงลึกไป พี่ซินก็ไม่เอาด้วย ถามตื้นๆ อย่างมีอะไรกันครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ก็ไม่น่าสนุกเท่าไหร่ เพราะคำตอบมันน่าจะร่ำๆ ว่าเป็นเมื่อวานเสียทุกคน

            ท่าทางของคนทั้งห้องที่ทำให้ดงแฮเอียงคอน้อยๆ ร่างเล็กบอบบางก็ขยับมาลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่จะดึงตุ๊กตาปลาที่หนุนตรงอกขึ้นมากอด ใบหน้าสวยปรากฏรอยยิ้มหวานๆ แล้วบอกเสียงใส

            “เอามีอะไรกันที่ๆ แปลกมั้ย”

            “หืม” คนทั้งกลุ่มหันมามองคนที่พูดเรื่องนี้ออกมาหน้าตาเฉย ทั้งดวงตา ทั้งรอยยิ้มบอกได้อย่างชัดเจนว่าดงแฮไม่คิดอะไรมาก ซึ่งเหมือนว่าจะทำให้คนต้นคิดทั้งสองดีดนิ้วดังเป๊าะ

            “เข้าท่านะ สถานที่ที่ทำรักกันแปลกที่สุดดีกว่า” ซองมินว่าพลางกดหน้าหงึกหงักกับตัวเอง ในเมื่อเรื่องนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย แล้วยังไม่ต้องปล่อยให้ใครแย้งขึ้นมา กระต่ายตัวน้อยก็แย้มยิ้มหวาน

            “งั้นนายก่อนเลยมั้ยด๊อง ในฐานะที่เสนอความคิดขึ้นมาคนแรกน่ะ” เมื่อถูกถามให้ตอบคนแรก ดงแฮก็เอียงคอน้อยๆ มือเรียวจิ้มที่แก้มใสอย่างเบามือ ดวงตากลมโตฉายแววครุ่นคิด เพราะเสนอเองก็จริง แต่บางทีด๊องก็คิดไม่ออกนี่นา

            ไม่ใช่ว่ามีอะไรกันน้อยเกินไปจนนึกไม่ออก แต่เยอะมากจนไม่รู้จะเอาที่ไหนดีต่างหากล่ะ

            “ในระหว่างนี้ คิดนะเออ พี่ซินด้วย นายด้วยฮยอก อย่าพยายามหาทางชิ่ง พี่ทึกกี้ด้วยนะฮะ วันนี้ใครไม่เล่าต้องถูกจับกรอกเบียร์ให้เมาไปข้างนึงเลย” เรียวอุคว่าพลางขยับไปฉวยถุงพลาสติกที่กองอยู่ในกองขนมขึ้นมา พร้อมกับเบียร์แพคใหญ่ที่ช่วยกันขนมากับเพื่อนซี้

            บทลงโทษที่ทำเอาคนไม่อยากเล่าได้แต่ถอนหายใจอย่างยอมแพ้ ก็แค่...ไม่ลงรายละเอียดก็ได้นี่นา

            “ว่าไงด๊อง เล่าเร็วๆ” เมื่อถูกเพื่อนกระตุ้นอีกหน่อย ดงแฮก็ยู่ปากน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจ

            “ห้องทำงานพี่คิบอมล่ะมั้ง” คนหน้าหวานนึกถึงการออกนอกสถานที่ครั้งล่าสุดก็คงเป็นวันที่จะไปรับฮยอกแจ แต่เหมือนว่าคำตอบนี้จะทำให้อีทึกขยับมานอนราบกับเตียงนอนนุ่ม พร้อมทั้งยื่นหน้าไปหาคนที่ยังนั่งอยู่บนพื้น

            “แต่ด๊องมีอะไรกับคิบอม...เอ่อ...ในห้องทำงานที่สภามาตั้งแต่ปีสองแล้วไม่ใช่หรือ พี่ได้ยินยูริคุยกับแทแทน่ะ”

            “ใช่เรื่องนี้ฉันก็ได้ยิน มันไม่แปลกแล้ว สำหรับนายน่ะ มันต้องมีที่แปลกกว่านี้สิ” เรียวอุคต่อคำรุ่นพี่ทันที ทั้งที่ดวงตาวาววับอย่างสนอกสนใจ

            “อืม ไม่แปลกหรือ ตอนที่กำลังมีอะไรกัน พี่คิบอมโทรออกไปหาพี่เลขาหน้าห้องว่าห้ามรบกวนด้วยนะ เสียงเกือบหลุดออกไปแน่ะ” ดงแฮว่าเสียงซื่อ นึกถึงตอนที่เขาเก็บเสียงแทบแย่ เสียงหวานๆ ที่ทำเอาคนฟังหลายคนแก้มแดงจนไม่รู้จะแดงยังไง

            “อืม พูดเรื่องเรื่องเก็บเสียง เมื่ออาทิตย์ก่อนพี่คิบอมมานอนค้างที่นี่ แล้วด๊องก็ชอบร้องเสียงดังๆ มั้งฮะ จนพี่เขาต้องเตือนว่าระวังพ่อกับแม่ได้ยิน จนต้องเอามือปิดปากอย่างนี้ตลอดเลย” คนซื่อไม่เล่าเปล่า มือเรียวข้างหนึ่งก็ทำท่าปิดปากตัวเองแน่น เหลือเพียงดวงตากลมโตที่กำลังกระพริบปริบๆ

            แล้วทำไมไม่รู้เหมือนกันที่ทำให้คนทั้งห้องนึกภาพเจ้าปลาตัวบางแก้มแดงจัด ครวญครางปิดปากตัวเองแน่น

            ไม่น่าล่ะ...พี่คิบอมถึงหลงนักหลงหนา

            “ด๊อง นายกล้าเล่าได้ยังไงกัน” ฮยอกแจงึมงำกับตัวเองในลำคอ แก้มใสแดงไปจรดลำคอ ดวงตาคู่สวยหลุกหลิกเหมือนกำลังร้อนตัว ที่ทำให้อีทึกหันมามองด้วยรอยยิ้ม

            “พูดอย่างนี้ แปลว่าฮยอกก็เคยเก็บเสียงตอนอยู่ที่บ้านใช่มั้ยล่ะ”

            ฉ่า...คำถามที่ทำให้แก้มใสยิ่งแดงจัด ร่างเล็กก็ทำท่าจะมุดผ้าห่มหนี ถ้าไม่เจอคำขู่ซะก่อน

            “ถ้านายไม่บอก ฉันจะจับนายกรอกเหล้า แก้ผ้าแล้วถ่ายรูปส่งให้พี่ฮัน”

            เท่านั้นแหละ ไก่ตัวบางก็เบิกตากว้าง ริมฝีปากอ้าน้อยๆ ก่อนจะกดหน้าลงเร็วๆ ทันที ใบหน้าสวยก็ก้มลงต่ำ

            “เมื่อ...สามวันก่อน พี่ฮันไปค้างที่บ้าน แล้ว...ก็นั่นแหละ ที่ห้องไม่ได้เก็บเสียงนี่นา ตื่นเช้ามา พ่อกับแม่รู้หมดเลย” คำตอบของคนกลัวถูกจับแก้ผ้าที่ทำเอาคนฟังหัวเราะอย่างชอบใจ แล้วเหมือนว่ายิ่งคุยจะยิ่งออกรส เบียร์ที่เป็นบทลงโทษก็เริ่มถูกเปิดแล้วกระจายส่งให้ทั้งกลุ่ม ศีรษะแต่ละคนก็เริ่มสุมเข้ามาใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ

            “อย่ามามองงี้สิ มะ...ไม่เล่าแล้ว” ฮยอกแจส่ายหน้าแรงๆ ซึ่งทำให้ซองมินยักไหล่น้อยๆ

            “ก็ได้ เดี๋ยวถึงตานายก็ต้องเล่าอยู่ดี งั้นเอางี้ มาเริ่มกันใหม่ดีกว่า ฉันเชื่อว่าด๊องต้องมีที่แปลกกว่านี้แน่ๆ” กระต่ายที่เหมือนจะติดนิสัยเจ้าเล่ห์มาจากใครบางคนว่าพลางหัวเราะเบาๆ จากนั้น มือเรียวก็ชี้ไปยัง...ฮีชอล

            “ในฐานะที่พี่เป็นพี่ใหญ่ พี่เริ่มก่อนเลยฮะ”

            “ห้ะ”

            และแล้ว ปาร์ตี้ชุดนอนก็เริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงและท่าทางคืนนี้จะอีก...ยาว

.............................................................


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น