วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Special CL_3 ปลาน้อย...ยาแก้เครียดของท่านประธาน

Special CL_3 ปลาน้อย...ยาแก้เครียดของท่านประธาน



            สำนักงานใหญ่ในเครือคิมกรุ๊ปตั้งโดดเด่นด้วยกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ ผู้คนมากมายต่างเดินเข้าออกเพื่อติดต่องานไม่ขาดสาย ในเวลาราวเที่ยงวัน รถแท๊กซี่คันหนึ่งก็เลี้ยวเข้ามาจอดบริเวณหน้าอาคารจนพนักงานรักษาความปลอดภัยขมวดคิ้วฉับ แล้วก้าวเร็วๆ มาหาทันที

            “คุณ ตรงนี้จอดส่งผู้โดยสารไม่ได้นะ!!!

            “เอ๋ ไม่ได้หรือฮะ...”

            “คะ...คุณดงแฮ!!” เพียงแค่พนักงานรักษาความปลอดภัยขยับตัวไปบอกกับคนขับ ใบหน้าหวานๆ ของผู้โดยสารที่กำลังจะจ่ายเงินก็โผล่หน้าขึ้นมาจนต้องเบิกตากว้าง เสียงเข้มดุและท่าทางเอาเรื่องเปลี่ยนเป็นความตกใจทันที แล้วรีบขยับโค้งให้เสียต่ำ จากนั้นก็เปิดประตูด้านหลังให้อย่างนอบน้อมราวกับคนละคน

            “อ่า ตรงนี้จอดไม่ได้หรือฮะ ขอโทษทีนะฮะ ทุกทีมากับพี่คิบอมแล้วลงตรงนี้ตลอด” ดงแฮที่จ่ายค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังก้าวลงมาพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่ถามอย่างงุนงงน้อยๆ ทำให้คนไม่ดูตาม้าตาเรือว่าใครนั่งรถโดยสารมาได้แต่หน้าเสีย

            “คะ...คือทุกทีมันก็ไม่ได้น่ะครับ แต่ถ้าเป็นคุณดงแฮ...” คุณลุงเจ้าหน้าที่ถึงกับปาดเหงื่อกับร่างบอบบางที่ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ มาให้อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ากำลังทำให้อีกฝ่ายหน้าหดเหลือสองนิ้วแค่ไหน

            ในเมื่อใครๆ ก็รู้ว่าท่านประธานอย่างคิมคิบอมรักคู่หมั้นลีดงแฮมากขนาดไหน...ก็ขนาดที่ว่าคนยิ้มยากหรือแทบไม่ยิ้มเลยสามารถยิ้มได้เมื่อมีร่างบอบบางที่ดูไร้พิษสงคนนี้ในอ้อมกอด

            “อ้อ ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรฮะ ที่หลังผมมาจะได้รู้ ขอบคุณมากนะฮะ” ดงแฮบอกด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังโบกมือลาน้อยๆ แล้วก้าวเข้าตัวตึกไป ปล่อยให้คนฟังอ้าปากค้าง แล้วนึกภาวนาว่าอย่าให้คนน่ารักคนนั้นไปฟ้องเจ้านายเลยว่าเขาห้ามไม่ให้จอดรถบริเวณนี้

            ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ ในเมื่อทุกทีคุณดงแฮจะนั่งรถของท่านประธานมาทุกทีนี่นา มาครั้งนี้นี่แหละที่มาเองคนเดียว เฮ้อ จะถูกไล่ออกมั้ยเนี่ย

............................................

            หลังจากลงจากรถ ดงแฮก็ก้าวมาตามทางเดินอย่างคุ้นเคย ริมฝีปากสีระเรื่อก็ยกยิ้มบาง ไม่ได้รับรู้เลยว่าสายตาของใครต่อใครในอาคารกำลังหันมาจับจ้องเป็นตาเดียว ไม่ใช่เพราะว่าดงแฮกำลังจะเป็นเจ้าสาวของคิมคิบอมเพียงอย่างเดียว แต่สายตาหลายคู่ก็หันมาจับจ้องเพราะว่า...ความสวยงามที่ได้เห็น

            ไม่แปลกที่คนอย่างคิมคิบอมถึงทั้งรักทั้งหวงยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น

            ในเมื่อ ร่างบอบบางตรงหน้านี้มีใบหน้าสวยหวานเสียยิ่งกว่าผู้หญิงหลายคน แก้มขาวใสดูเนียนนุ่มน่าสัมผัส เรียวปากสีหวานขยับแย้มเป็นรอยยิ้มน่าดู นัยน์ตากลมโตพราววิบวับอย่างคนอารมณ์ดี ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ยิ่งทำให้ใบหน้าหวานยิ่งหวานจัด เรือนร่างบอบบางก็มีผิวขาวอมชมพูอย่างคนสุขภาพดีเยี่ยม อย่างที่หากใครเคยเห็นลีดงแฮสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีสองว่าสวยแล้ว ตอนนี้ก็สวยยิ่งกว่า

            สมกับเป็นว่าที่เจ้าสาวของตระกูลใหญ่ในเกาหลี

            “ด๊องงงง!!” แต่เพียงร่างบอบบางกำลังจะขยับเข้าไปในลิฟต์ของผู้บริหาร เสียงหวานๆ ก็ดังไล่หลังมาพร้อมกับหญิงสาวร่างเล็กในชุดสูททรงเก๋ร้องเรียกให้ต้องหันกลับไปมอง ก่อนที่ริมฝีปากบางจะขยับเป็นรอยยิ้มน่าดู

            “แทแท สวัสดีฮะ” ดงแฮทักทายเสียงใส ยามที่มองเพื่อนคนสวยที่หอบหายใจน้อยๆ แล้วก้าวเข้ามาในลิฟต์เดียวกัน มือเรียวก็ขยับไปลูบแผ่นหลังเล็กเบาๆ อย่างเป็นห่วง จนหญิงสาวค่อยยังชั่ว

            “ด๊อง นายมาได้จังหวะพอดีเลย...อ้ะ แต่ไหนว่าพี่คิบอมจะไปรับบ่ายนี้ไม่ใช่หรือ” แทยอน ลูกพี่ลูกน้องคนสวยของท่านประธานถามอย่างสงสัย ในเมื่อเธอก็รู้มาบ้างว่าเย็นนี้พี่ฮันคยองและฮยอกแจจะกลับมาจากจีน แล้วพี่ชายเธอก็จะไปรับพร้อมกับดงแฮ แต่ไหงปลาน้อยน่ารักถึงโผล่มาที่นี่เวลานี้ได้ล่ะ

            แม้ว่าจะมาได้จังหวะพอดีเป๊ะก็เถอะ

            “อ้อ พอดีด๊องตื่นเต้นน่ะแทแท ไม่ได้เจอฮยอกตั้งเดือนกว่าแล้ว วันนี้ไม่มีอะไรต้องทำด้วย ด๊องไม่อยากรอที่บ้านเฉยๆ ก็เลยคิดว่าจะมาหาพี่คิบอมที่นี่ดีกว่า อย่างน้อยมานั่งรอที่นี่ก็ได้” ดงแฮบอกเสียงใส อีกทั้งยังชูถุงกระดาษที่เอาติดมือมาด้วยขึ้นมาตรงหน้า เสียงหวานก็ว่าเจื้อยแจ้วอย่างอารมณ์ดี

            “ด๊องทำอาหารเที่ยงมาด้วยแหละ เผื่อพี่คิบอมทำงานแล้วลืมกิน” คนน่ารักบอกด้วยรอยยิ้มหวานๆ รู้สึกมีความสุขเสมอที่ได้ทำอะไรให้กับพี่คิบอม แก้มใสก็แดงเรื่อขึ้นมาหน่อยอย่างที่แทยอนได้แต่ยิ้มตาม

            เป็นเรื่องของพี่คิบอมทีไร ทำหน้าน่ารักอย่างนี้ทุกที พี่คิบอมไม่หลงก็บ้าแล้ว

            “ดีเลยด๊อง วันนี้พี่คิบอมลืมกินแน่ๆ แหละ” แทยอนพึมพำเบาๆ พลางยิ้มแห้งๆ จนคนที่ฟังไม่ถนัดเอียงคอน้อยๆ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันนิด แล้วเอ่ยปากถาม

            “อะไรหรือ”

            “ไม่มีอะไรหรอก ด๊องมาก็ดีแล้ว รับรองพี่คิบอมอารมณ์ดีทันตาเห็นแน่ๆ งั้นเดี๋ยวฉันไปทานข้าวเที่ยงก่อนนะ” ว่าแล้ว แทยอนก็ส่ายหน้าเร็วๆ จากนั้นคุณหนูคนสวยที่กำลังจะออกไปทานข้าวเที่ยงแต่บังเอิญเจอกับดงแฮเสียก่อนก็โบกมือให้เพื่อนหน้าหวานที่ก้าวออกจากลิฟต์ เพื่อที่ตนจะได้ลงไปอีกครั้งหนึ่ง

            ท่าทางที่ดงแฮเพียงเอียงคอน้อยๆ แล้วก็ก้าวไปตามทางอย่างไม่คิดอะไร ในขณะที่แทยอนได้แต่ถอนหายใจเบาๆ นึกไปถึงการประชุมเมื่อเช้าที่แผนงานไม่ได้เป็นไปตามทิศทางที่กำหนดสักเท่าไหร่ โครงการใหญ่ที่ผิดพลาดไปพอสมควรทำให้พี่ชายเธอเงียบกริบ พอเอ่ยอะไรออกมาทีก็ทำเอาหนาวเยือกกันเป็นแถบๆ ห้องประชุมที่ว่าหนาวแล้วยิ่งเข้าสู่ช่วงติดลบกันกระทั่งเลิกประชุม

            เอาจริงๆ ว่าแทยอนยังนึกสงสารเลขาของพี่ชายที่คงเจอลมเย็นพัดผ่านให้ร้อนๆ หนาวๆ ไปทั้งวันแน่ๆ แต่ก็ยังเป็นโชคดีที่...คนที่ละลายน้ำแข็งได้มาถึงพอดี

            ก็คงมีแค่ลีดงแฮเท่านั้นแหละนะที่ทำได้

.................................................

            ก๊อก ก๊อก ก๊อก

            แอ๊ดดด ด

            เสียงบานประตูห้องทำงานที่เปิดออกอย่างแผ่วเบาหลังจากที่ได้ยินเสียงเคาะประตู ทำให้ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ตวัดสายตามามองอย่างไม่พอใจ ในเมื่อสั่งแล้วว่าห้ามรบกวน แววตาคู่คมเย็นเยียบเสียจนควรจะทำให้ผู้ที่ก้าวเข้ามาสะดุ้งโหยงสุดตัว แต่เมื่อคนที่ก้าวเข้ามาไม่ใช่คนทั่วไป...มันก็เลยทำให้ใบหน้าหวานเพียงฉายแววงุนงงไปนิด

            ก่อนที่ฟันคมจะขบเข้าที่ริมฝีปากล่างเบาๆ

            “พี่คิบอม...โกรธอะไรด๊องหรือฮะ หรือด๊องเข้ามารบกวน” เสียงหวานของคนมาใหม่ถามขึ้นมาทันที จนคิบอมที่ชะงักไปตั้งแต่เห็นว่าร่างบอบบางเจ้าของใบหน้าสวยๆ เป็นใครนิ่งไปนิด

            ในขณะที่ดงแฮได้แต่มองอย่างงุนงง ทั้งยังนึกย้อนไปถึงตอนที่เลขาหน้าห้องของพี่คิบอมบอกว่าให้เขาเข้ามาได้เลยไม่ต้องรอขออนุญาต จนได้แต่ก้าวเข้ามาอย่างงงๆ แล้วไหงพี่คิบอมถึงมองเขาด้วยสายตาดุจัดขนาดนั้นล่ะ

          เอ หรือพี่คิบอมไม่พอใจอะไรเราหรือเปล่าน้า

            “เปล่า ไม่มีอะไร” คำตอบสั้นๆ ของชายหนุ่มที่ถอนหายใจออกมา ความไม่พอใจจากการประชุมเมื่อเช้าเหมือนจะลดน้อยลงทันที เมื่อเห็นใบหน้าหวานๆ และนัยน์ตาสวยๆ ที่จับจ้องมองเขานิ่ง แต่เหมือนว่าถ้อยคำเรียบๆ นี้จะทำให้ดงแฮมุ่ยปากน้อยๆ อย่างใช้ความคิด

            จากนั้น ขาเรียวก็ก้าวเข้ามาชิดโต๊ะทำงานตัวใหญ่อย่างรวดเร็วพร้อมกับถุงกระดาษที่มีอาหารฝีมือตัวเองติดมือมาด้วย

            “มีแน่ๆ เลยฮะ พี่คิบอมกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง...แต่ไม่ได้โกรธ” แล้วคนที่ช้าแสนช้าแต่จับความรู้สึกของคนตัวโตได้เสมอก็บอกอย่างที่ทำให้คนไม่พอใจ แต่ไม่ได้โกรธกระตุกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้

            ใครจะเชื่อว่าเพียงเสียงหวานที่เอ่ยเหมือนจับสังเกตอารมณ์เขาได้จะทำให้ท่านประธานแสนเย็นชาหลุดยิ้มออกมาเสียเฉยๆ

            “ไม่พอใจเรื่องงานนิดหน่อยน่ะ และก็ไม่ได้โกรธ” คิบอมเอ่ยย้อนคำที่ตรงกับคำของดงแฮทุกอย่าง จนคนหน้าหวานยิ้มน่ารัก ร่างเล็กก็ชะโงกตัวมามองนาฬิกาบนข้อมือแกร่งของคนรักผ่านโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แล้วเสียงหวานก็ว่าไปอีกเรื่องนึง

            “เที่ยงกว่าแล้วฮะพี่คิบอม ทานอะไรหน่อยมั้ย ด๊องทำเองกับมือเลย” จากนั้น ดงแฮก็ชูถุงกระดาษของตนขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาวาวหวานก็สบเข้ากับดวงตาคมกริบนิ่งอย่างน่ารัก ทั้งที่ไม่รู้ตัวว่าการที่ตนขยับใบหน้าข้ามโต๊ะมาจนชิดกับคนรูปหล่อจะทำให้คิบอมนึกอยากกินอย่างอื่นมากกว่าอาหาร

            หมับ

            มือใหญ่ขยับมาจับเข้าที่ลำคอระหงเบาๆ แล้วขยับใบหน้าเข้าไปบดเบียดที่ริมฝีปากได้รูปอย่างที่คนตัวเล็กยังไม่ทันจะตั้งตัว แต่ดงแฮก็ไม่ได้ผละหนี นอกจากทำตาโตขึ้นนิด ก่อนจะหลับตาพริ้ม ยอมรับจูบร้อนๆ ที่ประทับแนบลงมาอย่างเต็มใจ

            จูบของริมฝีปากที่ดูดดึงเข้าหากันเบาๆ ก่อนที่คิบอมจะผละออก ดวงตาคู่คมที่นิ่งจนน่ากลัวมาตลอดเช้าวาววับขึ้นมาหน่อยอย่างที่คนตัวเล็กร้อนวูบ

            ก็แววตาของพี่คิบอมอย่างนี้มันหมายความว่า...นี่นา

            “มานั่งนี่มาดงแฮ” คิบอมบอกเรียบๆ แต่ทำให้คนตัวเล็กที่วางถุงข้าวของบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ยอมเดินอ้อมมานั่งตักแกร่งอย่างว่าง่าย มือเรียวขยับมาโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้มั่น ทั้งที่ดวงตาคู่สวยยังจับจ้องใบหน้าคมคายนิ่ง แล้วเอ่ยปากถาม

            “พี่คิบอมทานข้าวกันนะฮะ จะได้มีแรงทำงาน...นะฮะ” แล้วคนสวยก็จัดการขยับใบหน้าไปที่ไหล่กว้าง ถูไถเบาๆ อย่างออดอ้อนให้คนที่ชอบทำงานลืมกินลืมนอนใจอ่อนวูบ ดวงตาคู่คมอ่อนแสงลงทันทีเมื่ออยู่กับคนน่ารักคนนี้ มือใหญ่ก็ขยับไปโอบกระชับเอวนุ่มเอาไว้หลวมๆ ทั้งยังขยับไปกดจูบที่เรือนผมหอมกรุ่นเบาๆ

            พอดงแฮอ้อนเขาทีไร คนอย่างเขาก็ใจอ่อนทุกที

            “ทำไมมาที่นี่เอง เดี๋ยวฉันก็ไปรับที่บ้านตอนบ่ายสามอยู่แล้ว” คำถามที่เปลี่ยนไปอีกเรื่องหนึ่งอย่างที่คนอื่นอาจจะคิดว่าคิบอมไม่พอใจที่ดงแฮมาที่นี่โดยไม่เอ่ยปากขอ แต่คนตัวเล็กกลับคิดตรงกันข้าม เสียงเรียบๆ กับดวงตาคู่คมที่ทอดมองมามีเพียงความรู้สึกเดียว...

            “พี่คิบอมไม่ต้องห่วงด๊องหรอกฮะ แค่มาที่นี่เอง สบายมาก...อีกอย่าง ด๊องไม่รู้จะทำอะไรนี่นา รอเฉยๆ ก็คิดถึงฮยอกจะแย่อยู่แล้ว มาหาพี่คิบอมดีกว่า พี่คิบอมจะได้ไม่เหนื่อยไปรับด๊องมาที่นี่ด้วยไงฮะ” เสียงหวานที่เอ่ยเจื้อยแจ้วราวกับนั่งอยู่กลางใจของคนเย็นชา ทำให้คิบอมยิ้มบาง นัยน์ตาคมอ่อนแสงลงทันทีกับท่าทางน่ารักของคนตัวเล็ก

            “คิดถึงเพื่อนแล้วคิดถึงฉันมั้ย” คำถามของคนตัวโตที่ขยับมากดจูบที่แก้มเนียน ทำให้แก้มขาวแดงระเรื่อขึ้นมานิด เมื่อมีคำตอบที่วิ่งวูบเข้ามาในใจทันที

            “คิดถึงสิฮะ ด๊องคิดถึงพี่คิบอมตลอด คิดถึงทุกเวลาเลย” คำตอบของคนที่ไม่เคยโกหกทำให้คนฟังยิ้มกว้างขึ้นมาทันที เสียงทุ้มก็กระซิบตอบด้วยความรู้สึกเดียวกัน

          “คิดถึงเธอเหมือนกัน”

            คิดถึงทุกเวลาแม้ว่าเมื่อวานจะเจอกัน คิดถึง...จนอยากเร่งเวลาให้งานแต่งมันเร็วกว่านี้ เร่งให้เรา...ได้มาอยู่ด้วยกันจริงๆ เสียที



            คำตอบที่ทำให้ดงแฮช้อนตาขึ้นมอง ดวงตากลมสวยฉายแววขัดเขิน แก้มขาวแดงระเรื่อยามที่สบกับดวงตาคมกริบที่ทอดมองมาไม่ละสายตา ฝ่ามือใหญ่เริ่มขยับไปลูบไล้แผ่นหลังบอบบางเบาๆ ที่ทำให้ดงแฮกระชับต้นคอแกร่งมั่น

            ดวงตาคู่สวยปรือหลับลงช้าๆ เมื่อคิบอมขยับเข้ามาใกล้....จนลมหายใจแตะต้องกัน

            สัมผัสของริมฝีปากที่ขยับมาแนบชิด แล้วบดเบียดอย่างเบาแรง จากนั้นก็ค่อยเพิ่มความร้อนแรงมากขึ้นทุกขณะ ปลายลิ้นร้อนผ่าวลูบไล้กลีบเนื้อนิ่มเบาๆ ทั้งยังขยับสอดลึกเข้าไปในเรียวปากหอมหวาน ตวัดเกี่ยวกับปลายลิ้นนุ่มที่โต้ตอบอย่างน่ารัก

            จูบที่ทวีความร้อนแรงขึ้นเป็นลำดับ

          “ฉัน...กินเธอก่อนกินข้าวได้มั้ยดงแฮ”


            “อ้ะ!!! พี่คิบอม” ชายหนุ่มผละจากเรียวปากหอมหวานมากระซิบริมหูเบาๆ แต่ทำให้ดงแฮหลุดเสียงครางอย่างเสียวซ่าน เมื่อมือใหญ่ขยับมาด้านหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทั้งยังสะกิดเขี่ยยอดอกนิ่มเบาๆ จนมันแข็งชันขึ้นมาทันตา ริมฝีปากก็ขบเม้มติ่งหูเล็กเบาๆ จนสะท้านเยือก

            “ว่าไง” เสียงทุ้มกระซิบถาม ทั้งที่มือใหญ่ยังคงเล่นสนุกกับยอดอกสีหวานเบาๆ จนมันยิ่งแข็งขืน มือใหญ่อีกข้างขยับไปลูบไล้สะโพกกลมอย่างเบามือ จนดงแฮยิ่งขยับหน้ามาซุกซบที่ซอกคอแกร่ง

            “ตะ...ตามใจพี่คิบอมสิฮะ”

            ฟึ่บ

            เพียงแค่ดงแฮเอ่ยบอกเบาๆ คิบอมก็อุ้มร่างเล็กขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานของตนอย่างรวดเร็ว มือใหญ่ขยับแฟ้มงานไปอีกทาง ร่างสูงขยับลุกขึ้นยืนมองคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งหน้าแดงเรื่อน้อยๆ ด้วยสายตาที่วาววับ

            “อ้าขาหน่อยสิดงแฮ” เสียงทุ้มที่เอ่ยบอก ทำให้คนน่ารักขยับเรียวขาขาวออกกว้างตั้งฉากกับพื้นโต๊ะ มือเรียวทั้งสองข้างยันกับโต๊ะทำงานเอาไว้มั่น แก้มขาวยิ่งแดงเถือก แต่ก็ไม่อายที่จะทำตามสิ่งที่อีกฝ่ายบอก

            คิบอมขยับตัวไปยืนระหว่างขาเรียวทั้งสองข้าง ใบหน้าคมคายขยับไปบดจูบที่เรียวปากหอมหวานเบาๆ จนดงแฮเผยอเรียวปากรับจูบร้อนอย่างไม่เกี่ยงงอน มือเรียวข้างหนึ่งขยับมากอดลำคอแกร่งเอาไว้มั่น ปลายลิ้นทั้งสองก็ขยับเกี่ยวพันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนน้ำใสกำลังไหลลงที่ขอบปากสีระเรื่อ

            “อื้อ...” เสียงครวญครางหวานๆ ดังแผ่วเบาในลำคอยิ่งปลุกเร้าความต้องการของชายหนุ่มให้ลุกโชนได้อย่างง่ายดาย

            “อ้ะ!!” ดงแฮสะดุ้งน้อยๆ เมื่อฝ่ามือใหญ่ขยับมาแตะต้องที่แก่นกายเล็กภายใต้กางเกง แล้วลูบไล้เบาๆ เรือนร่างเล็กก็สะท้านวูบ แต่แทนที่จะขยับตัวถอยหนี ร่างเล็กกลับขยับเข้าหาฝ่ามือแข็งแกร่งอย่างคุ้นเคย มือเรียวก็เกาะลำคอแกร่งมั่น ยามที่แยกขาออกกว้างอีกนิด

            ฝ่ามือใหญ่อีกข้างส่งไปบีบคลึงสะโพกกลมมนอย่างเบามือ แต่ทำให้ดงแฮยิ่งขยับปากเข้าหาริมฝีปากร้อนผ่าวราวกับต้องการจูบที่ร้อนแรงกว่านี้ ขณะเดียวกันใบหน้าคมคายก็ยังคงบดเบียดจูบกวาดต้อนความหอมหวานอย่างไม่คิดผ่อนปรน

            “อื้อ พะ...พี่คิบอม...อาห์...” เสียงครวญครางหวานๆ ประสานไปกับเสียงหอบหายใจแรงๆ เมื่อคิบอมยอมผละจากเรียวปากบางมาซุกไซ้ที่ซอกคอหอมกรุ่น ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียผิวขาวนุ่มละมุนจนร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆ อีกทั้งมือสองข้างก็ทำหน้าที่อย่างไม่ขากตกพกบร่อง ด้วยข้างหนึ่งก็ขยี้ขยำแก่นกายเล็กปลุกเร้าความต้องการของร่างน้อย ขณะที่อีกมือก็บีบคลึงสะโพกมนแรงๆ

            ฟึ่บ

            “อ๊า...ดีจัง...ดีฮะ...พี่คิบอม...” ดงแฮเชิดหน้าขึ้นเต็มที่ เมื่อริมฝีปากร้อนฉกวูบเข้าที่แผ่นอกบอบบาง แล้วครอบลงบนตุ่มแต้มสีหวานอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นร้อนปาดเลียจนความเสียวสะท้านวิ่งวูบเข้ามาในกาย เสียงหวานครวญครางบอกอย่างหมดสิ้นความอาย เพราะรู้ว่าหากร้องขอ...พี่คิบอมจะทำให้

            “อึ้ก!!” ดงแฮส่ายสะบัดหน้าไปมาน้อยๆ เมื่อริมฝีปากทั้งดูด ทั้งดัน ทั้งเลีย ทั้งขบเม้มไปมาจนเสื้อเนื้อบางกำลังเปียกชุ่มด้วยน้ำลาย มือเรียวยันโต๊ะเอาไว้มั่น ยามที่ขยับก้นกลมเข้าหาฝ่ามือแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รับรู้ถึงความต้องการของตนที่กำลังขยับขยายในกางเกงอย่างน่าอาย

            “อะ...อีกข้างฮะ พี่คิบอม อีกข้าง...” เสียงหวานที่ร้องบอก ทำให้ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วขยับไปดูดเลียที่ยอดอกอีกข้างอย่างหิวกระหาย เม็ดเล็กๆ ที่กำลังดุนกันปลายลิ้นของเขาจนอดไม่ได้จะเย้าแหย่อย่างถึงใจ ดูดเม้มแรงๆ จนมั่นใจว่ามันต้องแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้

            แล้วในยามที่คิบอมขยับใบหน้าขึ้นมามองผลงาน แผ่นอกบอบบางที่ยังมีเสื้อเนื้อนุ่มปิดบังอยู่ก็เป็นรอยฉ่ำน้ำทั้งสองข้างจนแนบไปกับลำตัว เผยยอดอกสีหวานๆ ที่กำลังชูชันโดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน จนอดไม่ได้จะต้องใช้สองมือขยับไปบีบขยี้มันเบาๆ จนดงแฮกัดปากตัวเองแน่น

            แกร๊ก

            “ห้ามให้ใครเข้ามารบกวนเด็ดขาด”

            “อ้ะ...อ๊า...พะ...พี่คิบอม...” ดงแฮถึงกับปิดปากตัวเองแน่น เมื่อมือใหญ่ข้างหนึ่งยังบีบขยี้ยอดอกสีหวานของเขาอยู่เลย แต่อีกข้างกลับยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเลขาหน้าห้อง เสียงทุ้มก็เอ่ยบอกเสียงหนัก ทั้งที่ดวงตาคู่คมกำลังวาววับมองเรือนร่างบางที่บิดน้อยๆ อยู่ใต้ร่าง

            “พี่คิบอมอ่า...” เสียงหวานร้องเบาๆ อย่างขัดเขิน เมื่อเลขาหน้าห้องอาจจะได้ยินเสียงของเขาไปด้วย แต่ร่างเล็กก็เต็มใจจะยกก้นขึ้น เมื่อคิบอมจัดการดึงกางเกงที่สวมใส่ลงไปกองที่พื้น มือใหญ่ก็เกี่ยวกางเกงในตัวเล็กลงไปทิ้งที่ข้อเท้าขาวข้างหนึ่ง

            “สวย...รู้ตัวมั้ยว่าสวยแค่ไหน” คิบอมถามเสียงพร่า ยามที่จับจ้องใบหน้าเรียวสวยที่แดงก่ำ ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา เรือนร่างเล็กที่สวมเพียงเสื้อตัวเดียวที่บริเวณอกเปียกชุ่มโชกจนเห็นเม็ดเล็กๆ ที่น่าดูดกลืนชูชันขึ้นมา อีกทั้งขาเรียวขาวที่ยังอ้ากว้างออกก็ไร้เสื้อผ้ามาบดบัง เผยแก่นกายเล็กที่กำลังตื่นเต็มที่และช่องทางสีหวานที่กำลังเชื้อเชิญให้เขาสอดใส่เข้าไป

            “พะ...พี่คิบอมอย่ามองด๊องอย่างนั้นสิฮะ...ด๊องอาย” เสียงหวานเอ่ยอุบอิบเบาๆ กับดวงตาคู่คมที่มองมาไม่ละสายตา มือเรียวก็กุมแก้มน้อยๆ อย่างน่ารัก แต่ขาขาวก็ยังคงแยกออกกว้างให้ชายหนุ่มได้ยลของสวยงามอย่างไม่คิดปิดบัง จนคิบอมหัวเราะแผ่วๆ ในลำคอ

            “ยกก้นขึ้นหน่อยสิดงแฮ” แล้วเมื่อคิบอมบอก คนหน้าหวานก็ยกก้นขึ้นน้อยๆ มือเรียวทั้งสองข้างขยับไปยันพื้นโต๊ะเอาไว้ทันที ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเบิกตากว้าง

            “อ๊าาาาา!!! พี่คิบอม...พี่คิบอม!!!” เสียงหวานหวีดร้องออกมาดังลั่นห้องทำงานกว้าง เมื่อคิบอมจับขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า มือใหญ่กระชับเข้าที่ก้นกลมทั้งสองข้าง แล้วฉกริมฝีปาลงที่แก่นกายสีหวาน รับมันเข้าไปจนหมด จนมือเล็กแทบจะจิกลงกับพื้นโต๊ะทำงาน

            ใบหน้าสวยเชิดรั้นขึ้นทันที ริมฝีปากเผยออกน้อยๆ ปล่อยหยาดน้ำใสไหลลงที่ขอบปากอย่างไม่สนใจ เมื่อเรือนร่างช่วงล่างแทบจะบิดเร้าด้วยความทรมานปนกับสุขสม เมื่อคิบอมกำลังดูดรั้งแก่นกายเล็กเร็วๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว

            “อื้อ...อื้อ...มะ...มันเสียว...เสียวจัง...” ใบหน้าสวยส่ายสะบัดน้อยๆ ขาเรียวขยับไปมาเบาๆ กับบ่ากว้าง มือใหญ่ยังคงยึดก้นกลมเอาไว้แน่น ยามที่บีบคลึงแรงๆ จนดงแฮแทบทนไม่ไหว ยิ่งยามที่ความต้องการกำลังถูกดูดรั้งในโพรงปากอุ่นร้อนเช่นนี้

            “อ๊า!!!...ดะ...ดูดอีก...พี่คิบอมดูดอีก...อื้อ...อาห์อ้ะ...” ดงแฮที่ก้นลอยเหนือพื้นโต๊ะทำงานบอกอย่างเสียวซ่าน เมื่อคิบอมกำลังห่อปากแล้วดูดรั้งแรงๆ จนกายสะท้านเยือก เสียงหวานร้องขออย่างสิ้นความอายที่ทำให้คิบอมดูดส่วนปลายที่กำลังปริ่มน้ำแรงๆ จนดงแฮแทบจะดิ้นพล่าน

            ความเสียวซ่านที่ทำให้สมองพร่าเลือน มีเพียงความต้องการที่เกิดขึ้นเพราะคนๆ นี้เท่านั้น...กับพี่คิบอมเท่านั้น

            ฟึ่บ

            “อึ้ก...อาห์...ด๊อง...ด๊อง...อีก...” ดงแฮได้แต่ร้องครวญครางในลำคอ ใบหน้าสวยยิ่งเชิดขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยามที่ปล่อยน้ำใสๆ จากปากไหลลงแก้มขาวอย่างไม่คิดสนใจมัน เมื่อช่องทางด้านหลังที่เต้นตุบๆ อย่างเรียกร้องการสอดใส่กำลังถูกปรนเปรอด้วยปลายนิ้วยาวที่กดสอดเข้ามาจนสุด มือเรียวยิ่งป้ายเปะปะไปตามพื้นโต๊ะมากขึ้น สะโพกมนก็ขยับเข้าหาปากอุ่นแรงๆ อย่างทนไม่ไหว

            เสียงจูบและดูดดึงผิวเนื้อขาวดังก้องไปทั่วห้องทำงานกว้าง จนดงแฮต้องขยับมือมาบีบคลึงยอดอกทั้งสองข้างแรงๆ เสียงหวานก็ครางพร่าแทบไม่ได้หยุด เรือนร่างเล็กกระตุกเกร็งหลายต่อหลายครั้ง น้ำขุ่นขาวเริ่มไหลปริ่มออกมาช้าๆ ยามที่ดงแฮหวีดร้องออกมาสุดเสียง

            “พี่คิบอม...เข้ามา...อึ้ก...ขะ...เข้ามา...ได้โปรด...ด๊อง...มะ...ไม่ไหว...” เสียงร้องขอที่ทำให้คิบอมยอมผละร่างจากความหอมหวานที่ดูดกลืน มือใหญ่ดึงออกมาจากช่องทางสีสดยามที่ทอดมองร่างเล็กที่ทิ้งร่างลงกับพื้นโต๊ะอย่างสิ้นแรง ขาขาวยิ่งแยกกว้างออก ช่องทางด้านหลังยิ่งขมิบถี่บ่งบอกความต้องการของคนตัวเล็กที่พุ่งถึงขีดสุด

            ภาพแสนสวยที่ชายหนุ่มขยับไปกดจูบที่เรียวปากหอมหวานเบาๆ ยามที่ปลดรั้งกางเกงของตนลงไปง่ายๆ

            จูบที่แผ่วเบาต่างจากการกระทำก่อนหน้าที่ทำให้ดงแฮขยับมือไปกอดรอบลำคอแกร่งมั่น...

            “อ๊าาาา!!!” เสียงหวานหวีดร้องออกมาเต็มเสียง เมื่อแก่นกายใหญ่ที่ขยับขยายเต็มที่ถูกกดสอดเข้ามาในช่องทางด้านหลังเพียงทีเดียวจนสุด มือเล็กจิกลงบนบ่าแกร่งเต็มแรง ยามที่รู้สึกถึงความเสียวสะท้านที่พุ่งวาบเข้ามาในกาย

            มากมายเกินกว่าที่ปลายนิ้วและลิ้นจะทำได้...ของพี่คิบอม

            “ดงแฮ...อาห์...ดงแฮ” คิบอมคำรามต่ำเหนือร่าง ยามที่ความอุ่นร้อนกำลังตอดรัดเขาแทบบ้า อีกทั้งร่างเล็กยังขมิบร่างแรงๆ จนความอดทนแทบจะไม่เหลือเอาไว้เลยสักนิด มือใหญ่ขยับไปโอบกระชับสะโพกมนเอาไว้มั่น ให้ลอยเหนือพื้นขึ้นอีกนิด

            ฟึ่บๆ

            แก่นกายใหญ่ขยับสอดเข้าหาความอุ่นร้อนอย่างที่ดงแฮไม่ทันตั้งตัว ทำได้เพียงแค่กอดลำคอแกร่งไว้มั่น ยามที่รองรับความใหญ่โตที่กระแทกกระทั้นเข้ามาจนสุด ท่อนเนื้อร้อนก็ดึงออกเกือบหลุดแล้วกระแทกเข้ามาใหม่ จนเสียงหวีดหวานดังก้องไปทั่วห้องกว้าง

            “อ้ะ...อ๊า...พี่คิบอม..เสียว...ตรงนั้น...ตรงนั้น...อีกฮะ...” เสียงหวานที่ครวญครางแทบไม่เป็นภาษา ขาเรียวก็ขยับไปเกี่ยวเข้าที่เอวสอบ ยามที่ท่อนเนื้อร้อนกำลังเคลื่อนเข้าไปกระแทกจุดหนึ่งในกายจนได้แต่สะดุ้งสุดตัวทุกครั้ง สะโพกเล็กยิ่งส่ายซ่านไปมาจนคิบอมแทบคลั่ง

            ดงแฮทำให้เขารู้สึกอย่างนี้เสมอ...แทบจะคลั่งตายกับความน่ารัก

            ท่อนเนื้อร้อนยิ่งบดเบียดแนบชิดเข้าหาหลายต่อหลายครั้งอย่างที่หากมือใหญ่ไม่รองรับก้นนิ่มเอาไว้ เนื้อขาวๆ จนแดงเรื่อไปหมดแล้ว หากแต่ทั้งสองกลับไม่มีใครสนใจมัน นอกจากการขยับสอดเข้าหากันเป็นจังหวะที่ลงตัว

            พึ่บๆ

            เสียงเนื้อกระทบเนื้อยิ่งดังก้อง เรียวปากทั้งสองขยับบดเบียดเข้าหากันอย่างร้อนแรง เนื้อตัวยิ่งร้อนระอุกับจุดหมายปลายทางที่ใกล้เข้ามาแค่เอื้อม

            “พะ...พี่คิบอม...มะ...ไม่ไหวแล้ว...อื้อ!!!” เสียงหวานๆ ที่ร้องบอกต้องกลืนหายไปกับลำคอ เมื่อคิบอมประกบจูบลงมาอีกครั้ง บดเบียดเข้าหาความหอมหวานแรงๆ ยามที่กระแทกกายเข้าไปเพียงไม่กี่ครั้ง เสียงคำรามต่ำๆ ก็กลืนหายไปในลำคอของคนตัวเล็ก มีเพียงน้ำขุ่นขาวที่ฉีดพ่นเข้าไปในช่องทางสีหวานจนไหลย้อนกลับมา ขณะที่แผ่นท้องแข็งแกร่งก็เปื้อนไปด้วยน้ำรักของดงแฮ

            ตุบ

            คนหน้าหวานถึงกับทิ้งตัวลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่อย่างหมดแรง ยามที่คิบอมค่อยๆ ดึงแก่นกายใหญ่ออกมาอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาคู่คมทอดมองคนที่หอบหายใจแรงๆ อย่างแสนรัก


            จุ๊บ

            ใบหน้าคมคายขยับไปกดจูบที่ขมับบางเบาๆ แล้วผละออก

            “ฉันรักเธอ ดงแฮ” คำรักที่ทำให้คนหน้าหวานลืมตาขึ้นมามอง ริมฝีปากที่ครวญครางเสียงหวานมาตลอดครึ่งชั่วโมงก็ขยับเป็นรอยยิ้มหวาน

            “ด๊องก็รักพี่คิบอมฮะ”

            ดงแฮบอกด้วยรอยยิ้มหวาน ไม่ได้สนใจเลยว่าเนื้อตัวเกือบเปลือยของตนตกอยู่ในสายตาของคนตัวโต มีเพียงมือเล็กที่ยกขึ้นน้อยๆ ให้คิบอมขยับไปโอบอุ้มร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด ใบหน้าหวานก็ขยับมาซุกซบที่แผ่นอกแกร่ง แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาบอกเสียงใส

            “กินด๊องแล้ว ต่อไปพี่คิบอมก็ทานข้าวนะฮะ จะได้มีแรง...นะฮะ...” แล้วเสียงหวานก็เอ่ยอ้อนเบาๆ ทั้งยังถูแก้มกับบ่ากว้างเสียอีกที อย่างที่คิบอมหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู

            “เธอป้อนฉันนะ” คำต่อรองที่คนตัวเล็กแย้มยิ้มหวานแล้วพยักหน้าแรงๆ ดวงตาคู่สวยที่ฉายชัดถึงความเป็นห่วงพราวระยับขึ้นมาทันที อย่างที่คิบอมรู้ว่าดงแฮห่วงเขามากแค่ไหน

            ห่วงเขาจนลืมอายว่าตัวเองเพิ่งเมคเลิฟกับเขาเสร็จ ทั้งยังเปลือยไปครึ่งตัว

            ความคิดที่ทำให้ริมฝีปากได้รูปขยับเป็นรอยยิ้มกว้างอย่างที่คนทั้งบริษัทไม่เคยเห็น

            เพราะดงแฮเป็นอย่างนี้ไง เขาถึงรัก...รักมากเหลือเกิน

.....................................................

            ภายในสนามบินนานาชาติอินชอน สายตาของเหล่าผู้โดยสารขาเข้าต่างพากันจับจ้องร่างของคนสองคนที่ดูโดดเด่นกว่าใคร ด้วยคนตัวโตก็อยู่ในชุดสูทสีเข้มที่ยิ่งเสริมให้คนๆ นี้ดูดีขึ้นเป็นกอง และร่างบอบบางข้างๆ กันก็ดูสวยหวานใช่เล่น ทว่าสิ่งที่โดดเด่นจนใครๆ อดจะเหลียวมองซ้ำสองไม่ได้คงเป็น

            รอยช้ำแดงๆ สองสามรอยที่ปรากฏตรงลำคอขาวผ่องอย่างที่ดงแฮไม่รู้ตัวเลยสักนิด

            “พี่คิบอมฮะ พี่ฮันกับฮยอกจะออกมาเมื่อไหร่ฮะ” ปลาตัวน้อยที่คิดถึงเพื่อนหันมาจับแขนคนที่โอบรอบเอวคอดเอาไว้แล้วถามเบาๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ กับคนรักที่ยังคงมองหน้าเขานิ่ง ซ้ำยังมองเลยไปยังลำคอขาวผ่องด้วยแววตาที่ยิ้มได้

            “เดี๋ยวก็ออกมา คนของฉันบอกว่าเครื่องแลนดิ้งแล้ว ไม่น่าเกินสิบนาทีนี้” ชายหนุ่มตอบคำของคนรัก พลางลูบเส้นผมนิ่มเบาๆ ริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด แบบที่ไม่มีเค้าลางของคนอารมณ์เสียเมื่อเช้าเลยสักนิด

            สิ่งที่บ่งบอกได้ดีว่าลีดงแฮสามารถทำให้น้ำแข็งกลายเป็นน้ำอุ่นได้

            “ดีจังเลยฮะ ด๊องคิดถึงฮยอกมากๆ เลย เดือนนี้ทั้งเดือนโทรคุยกันแค่ห้าหกครั้งเอง ฮยอกบอกว่าถูกคุณป้าเพ่ยอิงพาไปหลายๆ ที่น่ะฮะ” ดงแฮเล่าด้วยรอยยิ้ม พลางนึกถึงคุณป้าเพ่ยอิงแสนใจดีที่เขาเคยเจอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

            ท่าทางน่ารักของคนตัวเล็กที่ไม่ว่าใครก็อดจะมองตามอย่างเคลิบเคลิ้มไม่ได้ แต่ก็ต้องมาชะงักงันเมื่อเห็นรอยแดงๆ บนคออย่างที่ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้กันหมดว่าเป็นฝีมือของใคร

            ก็คนรูปหล่อที่โอบเอวเล็กเอาไว้มั่นยังไงล่ะ

            “ก็คงเหมือนกับเธอตอนนี้ ฮยอกแจก็ต้องเตรียมตัวเป็นเมียเพื่อนฉัน อีกอย่างญาติฮันคยองค่อนข้างเยอะ ไปเปิดตัวที่โน่นก็คงแทบไม่ได้พัก” คิบอมว่าง่ายๆ แล้วยกปลายนิ้วลูบไปตามผิวแก้มขาวไปมาเบาๆ อย่างหวงแหน

            “ก็ดีนะฮะ ด๊องกับฮยอกเหนื่อยเท่ากันเลย” แล้วคนน่ารักก็ว่าเจื้อยแจ้วที่ทำให้คิบอมอดจะหลุดขำไม่ได้ มือใหญ่ก็ลูบผมนุ่มอย่างเอ็นดู ยามที่ฟังเสียงหวานว่าต่อ

            “ด๊องเป็นเพื่อนกับฮยอกมาตั้งแต่เด็กเลยฮะ เพราะพ่อเราเป็นเพื่อนกัน เรียนมาด้วยกัน ชอบทำอาหารเหมือนกัน แถมพอโตมาแล้วยังเจอ...” ดงแฮช้อนตาขึ้นมามองคนรักอย่างอดเขินไมได้ แต่ก็ไม่อายจะเอ่ยบอกความในใจของตัวเองออกมา

            “...เจอคนที่รักพร้อมกันด้วย...ด๊องรักพี่คิบอมนะฮะ” คำรักที่หากว่าทั้งสองไม่ได้อยู่ในสนามบิน คิบอมคงก้มลงไปประทับจูบที่เรียวปากฉ่ำหวานแรงๆ ให้สมกับความน่ารัก แต่ในเมื่อตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ประธานสภานักศึกษาเท่านั้น คิบอมจึงทำได้เพียงแค่จรดปลายจมูกโด่งที่แก้มใสเบาๆ แล้วสูดดมความหอมหวานเข้ามาเต็มปอด

            “เหมือนกันดงแฮ...ฉันก็รักเธอเหมือนกัน”

            คิบอมว่าด้วยริมฝีปากที่ยกยิ้มขึ้น เหมือนกับดวงตาที่เหมือนยิ้มได้ จนคนที่รับรู้ถึงความรักของผู้ชายเย็นชาคนนี้ยิ้มเขิน ได้แต่ขยับไปซุกหน้ากับซอกคอแกร่ง

            “อายม้วนเลยหรือดงแฮ”

            ขวับ

            แต่ก่อนที่ดงแฮจะมุดแผ่นอกกว้างหนี เสียงทุ้มแสนคุ้นเคยที่ดังกลั้วหัวเราะก็ดังมาให้ได้ยิน จนคนทั้งสองหันขวับกลับไปมองร่างของคนที่กลับจีนไปกว่าเดือน

            ภาพของชายหนุ่มร่างสูงที่สวมเพียงชุดลำลองอย่างกางเกงยีนสีเข้มและเสื้อเชิ้ตสีดำแลดูสบายๆ กำลังแสยะยิ้มนิดๆ อย่างเห็นขำ ข้างๆ กัน ร่างบอบบางของคนตัวขาวที่กำลังหน้าแดงเรื่อก็อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีหวานและกางเกงสีขาวสะอาดตา พันด้วยผ้าพันคออีกทบ ด้านหลังมีชายหนุ่มชุดดำหลายคนที่กำลังเข็นข้าวของตามมา

            “ฮยอก คิดถึงจังเลย!!!” แล้วดงแฮก็ถึงกับยิ้มกว้าง ผละจากร่างของคนรักโผเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่ยังหน้าแดงกับฉากการแสดงความรักกลางสนามบิน แต่ก็รีบขยับตัวเข้ามาหาเพื่อนซี้อย่างคิดถึง

            หมับ

            “คิดถึงจังเลย ด๊องอ่า คิดถึงนายสุดๆ ไปเลย” ฮยอกแจว่าพลางกอดกับเพื่อนจนกลม น้ำตาหยดใสเอ่อคลอที่ดวงตาเรียวสวยอย่างแสนคิดถึง จนดงแฮหัวเราะเบาๆ

            ภาพของสองสาวที่คิบอมและฮันคยองหันมามองหน้ากันนิด จากนั้น...

            หมับ

            มือใหญ่ของทั้งสองก็ขยับมาจับกันเอาไว้ แล้วคิบอมและฮันคยองก็ดันไหล่ขวามากระแทกกันเบาๆ เป็นธรรมเนียมการทักทายของพวกเขาตั้งแต่เด็กจนโต ขณะที่ฮันคยองก็เอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ

            “ชัดไปมั้ยคิบอม” คำถามที่คิบอมไม่คิดตอบ นอกจากหัวเราะหึๆ ในลำคอ ดวงตาคู่คมก็ตวัดกลับไปมองร่างบอบบางของฮยอกแจที่ทำท่าจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว แล้วบอกเสียงเรียบ

            “พอดีไม่มีผ้าพันคอติดรถ”

            คำตอบที่ฮันคยองหัวเราะออกมาด้วยแววตาที่วาววับ...ในเมื่อ ภายใต้ผ้าพันคอของฮยอกแจก็มีสภาพไม่ต่างจากดงแฮ...สักเท่าไหร่นี่นะ

            หลังจากที่กอดเพื่อนเสียแน่นแล้ว ฮยอกแจที่ผละจากร่างของเพื่อนรักก็เพิ่งสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ประดับอยู่บนลำคอระหงจนต้องเบิกตากว้าง

            “ด๊อง...นี่มัน” ฮยอกแจชี้ไปยังลำคอขาวๆ จนคนน่ารักต้องก้มลงมองตามรอยชี้ รอยสีกุหลาบที่เด่นชัดบนผิวขาวผ่องทำให้ดวงตากลมโตเพียงเบิกกว้างขึ้นนิด แล้วมือเรียวก็ขยับมาแตะมันเบาๆ

            “อ่า เมื่อกี้เป็นรอยขนาดนี้เลยหรือ ไม่น่าล่ะ เลขาพี่คิบอมมองตาโตเลย” แล้วคนหน้าหวานก็เพียงบอกเสียงเบา นึกย้อนไปถึงตอนที่เลขาวสาวหันมามองเขาอย่างอึ้งๆ แต่พอถามพี่คิบอม รายนั้นก็บอกว่าไม่มีอะไร เพิ่งจะมารู้ตอนนี้แหละว่า...รอยเพียบเลย

            “เฮ้อ รับรู้อะไรรอบข้างบ้างเถอะด๊อง” ฮยอกแจได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แต่แล้วเพื่อนสนิทก็หันมายิ้มตาใส แล้วบอกง่ายๆ

            “ฮยอก ด๊องขอยืมผ้าพันคอหน่อยสิ”

            หมับ

            เท่านั้นแหละ ฮยอกแจก็กระชับผ้าพันคอของตัวเองเอาไว้แน่น แล้วขยับเข้าไปหาฮันคยองอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยก็ส่ายไปมาน้อยๆ แล้วพึมพำบอก

            “คะ...คือฉันหนาว ให้ยืมไม่ได้หรอก” คำตอบที่ฮันคยองหลุดขำออกมาอย่างอารมณ์ดี มือใหญ่ก็โอบรอบเอวคอดเอาไว้มั่น ไม่ต่างจากคิบอมที่ก้าวมาโอบไหล่บอบบางของดงแฮที่กำลังขมวดคิ้วอย่างงงๆ เอาไว้

            “ไปเถอะ เดินทางมาเหนื่อย ฮันคยองกับฮยอกแจคงหิวแล้ว เดี๋ยวฉันให้คนไปเอาผ้าพันคอจากที่บ้านมาให้” คิบอมว่าเรียบๆ ที่ทำให้ดงแฮแย้มยิ้มหวานทันที ทั้งยังพยักหน้าแรงๆ เดินไปจับมือกับเพื่อนสนิทที่ผ่อนลมหายใจอย่างค่อยยังชั่วว่าเพื่อนคงไม่ทำอย่างเมื่อก่อนแบบดึงผ้าพันคอเขาออกหรอก

            ก็ถ้าดึง...มันก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

            ร่างบอบบางของทั้งสองก้าวนำไปก่อน ยามที่มีสองหนุ่มก้าวตาม แล้วฮันคยองก็เปรยเรียบๆ

            “ให้ยืมผ้าพันคอมั้ย”

            “ฮึ ไม่ต้องหรอก คราวหน้าจะเตรียมให้พร้อม”

            บทสนทนาสั้นๆ ที่รู้กันของสองเพื่อนซี้ต่างนิสัย ก็ถึงแม้ว่าคิบอมและฮันคยองจะนิสัยต่างกันลิบ แต่ก็โตมาด้วยกันนี่นะ...อะไรบางอย่างก็เลยเหมือนกัน อย่าง...ชอบแสดงความรักกับคนที่ตัวเอง...รักไงล่ะ


..................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น