Special
CL_5 ค่ำคืนของสองเรา
ผืนผ้าสีรัตติกาลคลี่คลุมท้องฟ้าภายนอกจนมืดสนิท
ประดับด้วยดวงดาวที่อาจจะดูอ่อนจางในตัวเมืองเช่นนี้ ตรงข้ามกับท้องถนนเบื้องล่างที่เปิดไฟสว่างไสว
ขณะเดียวกัน
คอนโดหรูที่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมก็กำลังเปิดไฟสว่างไปทั่วทั้งชั้น
หลังจากที่เจ้าของหายไปจีนนานนับเดือน
ในเวลานี้ บนโซฟาสีเข้ม
ร่างสูงใหญ่ของฮันคยองกำลังกึ่งเอนกึ่งเหยียดขายาวลงบนโต๊ะตัวเล็กตรงหน้า
สายตาก็จับจ้องข่าวที่ฉายบนโทรทัศน์เครื่องใหญ่
บนกายมีเพียงกางเกงนอนขายาวสีดำสนิทเท่านั้น เปิดเผยแผ่นอกแข็งแกร่งที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวสวย
แม้ว่าผู้รายงานข่าวสาวตรงหน้าจะรายงานข่าวภาคดึกไปเรื่อยๆ
แต่เหมือนว่าหนุ่มจีนจะไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก นอกจากยกมุมปากขึ้น
ในหัวก็มีเพียงภาพของอดีตลูกไก่ขี้กลัวที่ยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่ามีคนมาให้ท่าเขา
ดีแล้วที่ไม่รู้ เดี๋ยวก็ร้องไห้อีก
ฮันคยองบอกตัวเองอย่างขำๆ
นึกย้อนไปถึงเมื่อสัปดาห์ก่อนที่คนตัวเล็กคิดมากเรื่องมีลูก
ทั้งที่เขาก็พอจะคิดเอาไว้ว่าสักวันฮยอกแจต้องสัมผัสกับคำถามนี้
แม้ไม่ใช่จากคนในบ้านก็ต้องเป็นคน...นอกบ้าน
ยังไงสักวันก็ต้องมีคนถามว่าเขาจะให้ใครเป็นทายาทคนต่อไปของตระกูลหาน
แต่เจ้าตัวก็ต้องมาคิดมากเสียก่อนเพราะ...คำพูดพล่อยๆ ของสาวใช้สองคน
สำหรับฮันคยองมันไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดที่จะหาว่าใครเป็นตัวการ
แค่เขาเอ่ยถามเสียงหนักว่าไปพูดอะไรลับหลังเขาหรือเปล่า สาวใช้สองคนก็ตัวสั่นงันงก
กลัวจนแทบทรุด ถ้าไม่ได้ฮยอกแจขอไว้ เขาคงทำอะไรรุนแรงมากกว่าส่งตัวไปทำงานให้ห่างไกลจากเมืองหลวงเช่นนี้
ทั้งที่...มีวิธีจัดการมากมายหลายวิธี
“ฮึ เมียดันขี้ใจอ่อนนี่นะ”
ฮันคยองบอกกับตัวเองเบาๆ
นึกถึงวีธีอ้อนขอให้เขาลดโทษสาวใช้สองคนนั้นทั้งที่ก็ทำให้ตัวเองคิดมากแล้วนึกพอใจ...ก็เขาเล่นหนักเสียวันนั้นฮยอกแจไปไหนกับม๊าเขาไม่ได้วันเต็มๆ
ฮันคยองปล่อยความคิดของตัวเองไปเรื่อยๆ
ยามที่สายตาก็จับจ้องภาพตรงหน้า
แล้วอดไม่ได้จะกวาดมองห้องชุดที่เปรียบเหมือนบ้านของเขาจริงๆ
เสียแล้ว...ไม่ใช่บ้านใหญ่ที่จีน
สำหรับเขาที่นี่ต่างหากคือบ้านของเขาและฮยอกแจ...
บ้านของเราที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาหลายปี
บ้านที่เขาทำให้ฮยอกแจเชื่อว่าที่นี่คือที่ของเรา
บ้านที่เขาได้ร่างกายของฮยอกแจครั้งแรก
บ้านที่เขา...อยากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฮยอกแจ
ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขำๆ
ที่เขาพยายามเคลียร์งานในเสร็จ ทั้งยังเร่งมารดาให้จัดการพาฮยอกแจเปิดตัวตามที่ต่างๆ
ให้เร็วที่สุด รู้จักกับคนในตระกูลให้ครบ เพียงเพราะว่า...ฮยอกแจอยากกลับบ้าน
ทำไมหานฮันคยองจะไม่รู้ล่ะว่าคนรักตัวขาวของเขาอดทนมากแค่ไหนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่จีน
ฮยอกแจต้องใช้ภาษาที่เรียนมา ต้องปรับตัว แม้แต่อาหารการกินที่ไปช่วงแรกๆ เจ้าตัวยังทานอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ
แต่ทุกอย่างเขารู้ดีว่าคนขี้กลัวพยายามทำเพื่อให้อยู่ใกล้ๆ เขา
ไม่ว่าอะไร ฮยอกแจไม่เคยปริปากบ่น
มีเพียงน้ำตาหยดใสที่แอบไปร้องไห้เงียบๆ คนเดียวเท่านั้น
แล้วแน่ล่ะว่าเขาต้องรับรู้ เขารู้ทุกอย่าง แล้วเขาก็พยายามปลอบที่สุดเท่าที่ทำได้
อย่างที่ฮันคยองบอกกับตัวเองหลายครั้ง ฮยอกแจไม่จำเป็นกลัวว่าเขาจะทิ้ง
เขาต่างหาก...ที่ไม่มีวันขาดคนขี้กลัวคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว...คนที่ทำทุกอย่างเพื่อเขาได้
แล้วมันจะผิดอะไร หากเขาพยายามทำตามความต้องการของฮยอกแจ
การกลับมาที่บ้านของเรา
“ฮึ มึงนี่หลงเมียเอามากจริงๆ อาเกิง”
ฮันคยองส่ายหน้านิดๆ ยามที่นึกถึงคำของบิดาที่ชอบเปรยกับเขาบ่อยๆ
แล้วเขาก็สวนกลับไปทันควัน
‘ก็เหมือนป๊าตามใจม๊าไม่ใช่หรือไง’
คำตอบที่อาจจะตรงใจของสองพ่อลูก
เพราะรู้ดีที่สุดว่าใครสำคัญที่สุดสำหรับตัวเอง
“พี่ฮันฮะ...ยังไม่นอนหรือฮะ”
ขวับ
กึก
แต่แล้ว
เสียงหวานใสของคนที่เข้าไปอาบน้ำเสียนานจนเขาไปอาบอีกห้องก็เอ่ยเบาๆ
จนชายหนุ่มต้องหันกลับไปมอง แล้วเพียงเท่านั้น ร่างสูงก็ชะงักกึก
กวาดมองร่างบอบบางตรงหน้าด้วยสายตาที่ทำให้ฮยอกแจแก้มแดงปลั่ง
ตอนแรกว่าจะให้พักเพราะนั่งเครื่องมาหลายชั่วโมง
แต่เหมือนควรจะล้มเลิกความคิดเสียแล้ว
ฮันคยองบอกตัวเองด้วยแววตาที่วาววับขึ้น
ยามที่มองคนตัวเล็กที่เขานึกว่าจะกลับมาสวมเสื้อนอนเข้าชุดกัน
แต่ฮยอกแจกลับสวม...ชุดนอนกี่เพ้า
ชุดนอนที่เขารู้แล้วว่าชอบให้เมียตัวเองใส่มากแค่ไหน
ยิ่งยามที่สัมผัสความลื่นของผิวผ้าที่ไหลไปกับผิวเนื้อเนียน...เขายิ่งหลงรักมัน
แล้วในเวลานี้
คนตัวเล็กเจ้าของผิวขาวผุดผาดก็อยู่ในชุดนอนสีน้ำเงินเข้ม
เนื้อผ้าเรียบลื่นแขนกุดที่มีเพียงสายเชือกเส้นเล็กผูกรั้งมันเอาไว้เท่านั้น อย่างที่เพียงกระตุกไม่กี่ที
ผ้าลื่นๆ ก็พร้อมจะเลื่อนหลุดจากไหล่บางอย่างง่ายดาย
ท่อนล่างเป็นกางเกงขาสั้นกุดที่โชว์เรียวขาขาวผ่องที่แสนน่าลูบไล้...ชุดนอนสบายๆ
ที่อาจจะไม่ได้โป๊หรือยั่วยวนสำหรับคนทั่วไป แต่ไม่ใช่กับหนุ่มจีนคนนี้
“พะ...พี่ฮันมองผมอย่างนั้นทำไมฮะ”
ฮยอกแจถามเสียงเบา ทั้งที่พอจะรับรู้จากสัญชาตญาณว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา
แล้วก็เลยได้แต่ก้มมองตัวเองที่สวมชุดนอนกี่เพ้าที่อาจจะ...ไปปลุกอารมณ์มังกรบางตัว
“เปล่า มานั่งนี่สิ”
ฮันคยองยักไหล่นิดๆ เมื่อเห็นว่าดวงตาเรียวรีกำลังหลุกหลิกไปมา
ทั้งยังก้มมองชุดนอนตัวเองอย่างไม่แน่ใจ จนตบเบาะข้างๆ ให้คนตัวเล็กก้าวเข้ามาหาช้าๆ
เปล่าได้ยังไงอ่ะ
เมื่อกี้ไก่มั่นใจนะว่าสายตา...แทบจะกลืนลงไปทั้งตัว
แม้จะคิดเช่นนั้น
แต่คนที่เวลานี้คุ้นเคยกับการสวมชุดนอนกี่เพ้า (แล้วก็ตื่นมาด้วยสภาพไร้ชุดนอน)
ก็ก้าวเข้ามาหาอย่างรู้ว่าอย่าไปขัดใจจะดีที่สุด ร่างเล็กก็หย่อนก้นนั่งข้างๆ
ยามที่สัมผัสถึงมือใหญ่ที่สอดลึกเข้ามาโอบรอบเอวคอด
“คิดถึงที่นี่มั้ย”
ฮันคยองถามขึ้นมาง่ายๆ ขณะที่ก้มลงไปสูดดมความหอมหวานของแก้มเนียนเบาๆ
จนคนตัวเล็กหน้าร้อนวูบ แต่ก็ได้แต่พยักหน้าแรงๆ
“คิดถึงฮะ ไปอยู่โน่นตั้งเดือนกว่า...”
ฮยอกแจพึมพำ ยามที่สัมผัสได้ว่ามือใหญ่ที่กอดเอวเล็กเหมือนจะไม่กอดอย่างเดียวเฉยๆ แต่ลูบไล้ไปมาอย่างพอจะรับรู้ชะตากรรมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าของเขาได้อย่างดี
แล้วเขาก็ไม่คิดหลบหนี
ถ้าพี่ฮันอยาก...เอ่อ...ง่ะ ไก่ก็ให้ไง
“พะ...พี่ฮัน
พรุ่งนี้ผมไปหาพ่อแม่นะฮะ...ได้มั้ย” ฮยอกแจถามเสียงเบา ขณะที่ช้อนดวงตาเรียวสวยขึ้นสบอย่างไม่แน่ใจ
แต่เขาก็คิดถึงพ่อแม่นี่นา
คำขอที่ทำให้ฮันคยองขมวดคิ้วฉับ
แล้วเอ่ยบอกขำๆ
“ถ้าฉันไม่ให้ไป
จะร้องไห้หรือเปล่าล่ะ”
“กะ...ก็...” ร้องแน่ๆ ล่ะฮะ
คำตอบที่ไม่ต้องบอกก็รู้กันดี
จนฮันคยองหัวเราะหึๆ ในลำคอ มือใหญ่ก็ขยับมาลูบต้นแขนเนียนนุ่มเบาๆ แล้วเอ่ยตอบ
“ได้ เดี๋ยวฉันไปส่ง
แล้วฉันค่อยเข้าบริษัท” คำตอบตกลงที่ทำให้ฮยอกแจยิ้มออก
แต่สิ่งที่ตัวเองต้องการมันยังไม่มีเพียงเท่านี้นี่นะ
“แล้ว...ผมไปค้างที่บ้านนะฮะ”
กึก
คำขอที่ฮันคยองชะงักกึกทันที
ดวงตาคู่คมวาววับขึ้นมาหน่อย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฮยอกแจก็กลับไปนอนบ้านประจำเวลาที่พ่อแม่ไม่ได้ออกต่างจังหวัด
แต่ช่วงเดือนกว่ามานี้เขามีฮยอกแจนอนอยู่ข้างๆ ทุกคืน มันก็เลยแปลกๆ
ถ้าต้องกลับมานอนคนเดียว
ท่าทางนิ่งเงียบไปของมาเฟียรูปหล่อที่ทำให้คนขอเริ่มหน้าหดเหลือสองนิ้ว
มือเรียวก็เลื่อนมาจับท่อนแขนแกร่งเอาไว้ แล้วบอกเสียงสั่น
“นะฮะ...คะ...คือผมคิดถึงพ่อแม่นี่นา...คืนเดียวก็ได้”
คำขอที่ฮันคยองรู้ดีว่าเขาก็ให้ได้ แต่มันผิดหรือไงที่เขาไม่คิดอยากให้
“ก็ได้
พรุ่งนี้กลับไปค้างบ้านพ่อแม่เธอก็ได้” คำตอบตกลงที่ทำให้ฮยอกแจยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี
ใบหน้าสวยก็เอนซบที่ไหล่แกร่งอย่างหลงลืมตัว มือเรียวกอดท่อนแขนแกร่งมั่น
“ขอบคุณฮะพี่ฮัน”
คำขอบคุณที่มาเฟียมากเล่ห์พร้อมจะแปลให้มันเป็นอย่างอื่น
มือใหญ่ที่โอบรอบไหล่เล็กจึงสอดเข้าไปที่เอวบอบบางอีกครั้ง
ใบหน้าคมคายก็ขยับไปชิดริมหูแล้วบอกเสียงนุ่ม
“งั้นมาขอบคุณฉันดีๆ”
ฮันคยองขบเม้มติ่งหุเล็กเบาๆ อย่างที่คนตัวเล้กก็รู้ความหมาย ใจดวงน้อยเต้นระรัว
มือเรียวเผลอบีบท่อนแขนแกร่งแรงขึ้น ร่างกายรับรู้ทันทีที่ว่าคนรักต้องการอะไร
แล้วจริงๆ เขาก็เต็มใจมอบให้
ใครว่าฮยอกแจไม่รู้ล่ะว่าพี่ฮันชอบชุดนอนกี่เพ้า
เขารู้ และเพราะรู้ว่าพี่ฮันชอบ...เขาก็เลยใส่
“ฉันบอกตั้งแต่ร้านอาหารแล้วใช่มั้ยว่าอยากกินนมน่ะ”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า ยามที่ดึงร่างเล็กให้ขยับมานั่งที่ตักแกร่ง
มือใหญ่ก็แกล้งปัดผ่านเม็ดเล็กๆ ตรงแผ่นอกบอบบางเบาๆ จนฮยอกแจกัดปากตัวเองแน่น
ใบหน้าสวยแดงซ่านขึ้นมาทันที
“กะ...ก็กินสิฮะ...”
เสียงใสที่เอ่ยเบาแสนเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่กับในห้องที่เงียบขนาดนี้
มีหรือจะไม่ได้ยิน
สิ้นคำตอบรับน่ารักๆ
ฮันคยองก็ดึงร่างเล็กให้ขยับหันหน้ามานั่งคร่อมทับที่ต้นขาแกร่งเสียเรียบร้อย
มือใหญ่ก็ยกขึ้นแตะที่แก้มนุ่มแล้วลูบไล้ไปมาเบาๆ
“จูบหน่อยสิฮยอกแจ”
นัยน์ตาคมที่ทอดมองริมฝีปากอย่างมีความหมาย
ทำให้คนขี้กลัวขยับมือไปกอดรอบลำคอแกร่งหลวมๆ ใบหน้าหวานก็ขยับเข้ามาใกล้
ก่อนที่...จะแนบริมฝีปากลงไปอย่างสิ้นแรงจะขัดขืน...อีกทั้ง เต็มใจเหลือเกิน
ริมฝีปากนุ่มๆ ที่แตะแนบลงมาแผ่วเบา
แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความน่ารักสมกับเป็นฮยอกแจ ใบหน้าสวยเอียงน้อยๆ
ยามที่สัมผัสกับริมฝีปากได้รูปของคนรักเบาๆ แล้วดึงออก จากนั้นก็แนบลงมาใหม่อย่างที่ฮันคยองนึกพอใจ
หมับ
“อ้ะ!”
คนตัวเล็กร้องเบาๆ ยามที่มือใหญ่ยื่นมากระชับเข้าที่ต้นคอระหงแล้วบดเบียดริมฝีปากเข้ามาหา
ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียกลีบเนื้อนุ่มแล้วสอดลึกเข้าไปอย่างที่ฮยอกแจก็เผยอปากน้อยๆ
ส่งลิ้นนิ่มมาเกาะเกี่ยวแลกเปลี่ยนสัมผัสที่แสนรัญจวนใจ
มือเรียวก็ขยับไปขยุ้มเส้นผมดกดำอย่างเบาแรง
“อื้อ...อ้ะ...” เสียงครวญครางหวานๆ
ดังแผ่วในลำคอ ยามที่ริมฝีปากถูกดูดดึงเบาๆ ยามที่ฮันคยองผละออก
ฮยอกแจก็ขยับเข้าหา เกาะเกี่ยวปลายลิ้นอย่างที่ไม่อยากให้มันหยุดลง
ท่าทางน่ารักๆ
ของคนตัวเล็กที่ฮันคยองยิ่งพอใจ
มือใหญ่ก็ลูบไล้ที่สะโพกกลมมนที่สวมเพียงกางเกงเนื้อบางเอาไว้อย่างเบามือ
ฟึ่บ
“อ้ะ...พี่ฮัน...” คนตัวเล็กได้แต่ร้องเบาๆ
ยามที่ฮันคยองขยับมือมาดึงรั้งเส้นเชือกตรงคอทีเดียวมันก็หลุดไปเสียสามเส้น ผืนผ้าที่ทบกันเอาไว้ขยับแยกออกทันที
แก้มขาวแดงก่ำ เมื่อปลายนิ้วยาวกำลังลูบคลึงตรงเนินเนื้อนิ่มเบาๆ
“ทำไมหอมขนาดนี้นะฮยอกแจ”
เสียงทุ้มพึมพำเบาๆ ยามที่กำลังใช้ปลายจมูกสูดดมความหอมตรงซอกคอขาว ประทับรอยแดงแนบเข้าที่เดิมที่ทำทุกค่ำคืน
ปลายลิ้นร้อนก็ลากเลียผิวเนื้ออ่อนนิ่มจนฮยอกแจเสียวซ่าน
ขาเรียวที่แบะกว้างออกคร่อมคนตัวโตก็สัมผัสถึงความโป่งนูนที่กำลังขยับขยายทีละน้อย
“พะ...พี่ฮัน...”
เสียงหวานครวญครางชื่อคนตัวโตเบาๆ ยามที่ขยับมือมาเกาะเกี่ยวที่ไหล่กว้าง
สัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นร้อนของฮันคยองที่กำลังพรมจูบไปทั่วเนินเนื้อขาว
บางก็ดูดเม้ม ฝ่ามือใหญ่ก็เอาแต่เคล้นคลึงก้นกลมเบาๆ จนมันแยกออกกว้างนิดให้พอเสียวซ่านในอารมณ์
“อยากกินตั้งแต่ที่ร้านแล้วรู้มั้ย”
ฮันคยองว่าเสียงพร่า ยามที่ลากปลายลิ้นร้อนมาถึงยอดอกสีหวานที่ชูชันอยู่ตรงหน้า
นัยน์ตาคมก็ตวัดกลับมามองใบหน้าแสนสวยที่กำลังแดงก่ำด้วยอารมณ์
ดวงตาเรียวรีฉ่ำน้ำน้อยๆ
ฟึ่บ
“อ้ะ!!”
ฮยอกแจได้แต่สะดุ้งสุดตัว เมื่อปลายลิ้นร้อนปาดเลียยอดอกสีหวานแรงๆ
ความสากของปลายลิ้นและน้ำลายที่ทำให้แผ่นอกบอบบางเด้งเข้าหาอย่างที่เจ้าของควบคุมไม่ได้
“หึๆ อร่อยที่สุดจริงๆ ฮยอกแจ”
“อ๊าาาา!!! พะ...พี่ฮัน...ดูดระ...แรงไป...แรงจัง...” ฮยอกแจยิ่งกัดปากตัวเองแน่น
ใบหน้าสวยส่ายซ่านไปมา เมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองลงไป อีกทั้งยังใช้ปลายลิ้นตวัดเกี่ยวไปมาให้ยิ่งแข็งขืน
มือเรียวบีบบ่ากว้างแน่น ขณะที่แอ่นอกให้อีกฝ่ายดูดกลืนมากยิ่งขึ้น
สัมผัสของเม็ดเล็กๆ ที่ยิ่งดูดกลืนมากเท่าไหร่
ยิ่งแข็งชูชันโต้ตอบปลายลิ้นมากเท่านั้น จนฮันคยองยิ่งขบเม้มอย่างหิวกระหาย
มือใหญ่ที่สอดลึกเข้าไปประคองก้นนุ่มก็บีบแรงๆ จนฮยอกแจยิ่งเสียวสะท้านไปทั้งร่าง
ขาเรียวจิกเกร็งเอาไว้เต็มแรง
“อึ้ก!”
ฮยอกแจได้แต่กัดปากตัวเองแน่น เมื่อมือใหญ่กำลังสอดเข้ามาระหว่างก้นทั้งสองข้าง
ปลายนิ้วยาวก็กำลังยกเกลี่ยช่องทางสีหวานทั้งที่ยังมีกางเกงขาสั้นปิดบังเอาไว้
นิ้วมือทั้งสองก็ถูไถช่องทางเบาๆ จนต้องยกก้นขึ้นนิด
“อะ...อีกนิดฮะพี่ฮัน...อีก...”
ฮยอกแจบอกเสียงสั่น ยามที่ขมิบช่องทางด้านหลังแรงๆ
หวังจะได้รับการสัมผัสมากกว่านี้ จนชายหนุ่มที่กำลังดูดเลียส่วนบนหัวเราะเบาๆ
มือใหญ่ก็คว้าหมับเข้าที่มือเรียวแล้วบังคับให้ล่วงลึกเข้าไปในกางเกงนอนขายาวของตน
ความใหญ่โตที่แสนร้อนผ่าวและคุ้นเคย
ทำให้ฮยอกแจใช้ปลายนิ้วลูบไล้มันไปตามความยาว จนเสียงทุ้มคำรามเบาๆ
“ดะ...ดีมั้ยฮะ” ฮยอกแจถามเสียงพร่า ดวงตาคู่สวยยามนี้ฉ่ำด้วยหยดน้ำแห่งอารมณ์
ขณะที่กำลังใช้ก้นนิ่มกดลงมาให้สัมผัสกับมือใหญ่มากยิ่งขึ้น
“อืม...อย่างนั้น...”
ฮันคยองบอกอย่างพอใจ ยามที่ละปากจากยอดอกสีหวานขึ้นมามองหน้าขาวผ่องที่แดงก่ำ
มือเรียวก็ลูบไล้ไปตามลูกชายเขาอย่างเบามือ ใบหน้าสวยก็กัดปากน้อยๆ
เสียวซ่านกับนิ้วมือที่กำลังลูบไล้ไปตามช่องทางสีสดผ่านกางเกงตัวเล็ก
“อยากได้มากกว่านี้มั้ยที่รัก”
ชายหนุ่มถามเสียงพร่า ยามที่กดปลายนิ้วย้ำลงบนช่องทางนุ่มเบาๆ จนคนตัวเล็กหลุดเสียงครางอย่างห้ามไม่อยู่
หากแต่ความต้องการที่มีมากกว่าก็ปัดไล่ความอายออกไปจากใจ จนใบหน้าเรียวสวยกดลงแรงๆ
“มะ...มากกว่านี้ฮะ...อึ้ก...พี่ฮัน...มากกว่านี้”
คำตอบตกลงที่ทำให้ฮันคยองดึงมือเรียวจากกางเกงนอนของตน
แล้วดันให้ฮยอกแจที่ขาแทบไร้แรงให้ลุกขึ้น จนคนตัวเล็กขยับอย่างไม่เข้าใจ
“หันหลังมาสิ” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม
จนคนที่ใช้ขาสั่นๆ ยืนอยู่ตรงพื้นพรมได้แต่หน้าแดงก่ำ พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร
แต่ร่างเล็กก็ขยับหันหลังให้อย่างว่าง่ายจนก้นนิ่มอยู่ในระดับสายตาของคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
ฟึ่บ
“พะ...พี่ฮันฮะ...ผมอาย...”
“หึๆ ทุกทีเธอก็ชอบนี่นา”
เพียงแค่กางเกงตัวเล็กถูกดึงออกไปทิ้งไว้ที่ปลายเท้าเปิดเปลือยเนื้อตัวช่วงล่างที่แสนน่ารักให้แก่สายตาคนมอง
ฮยอกแจก็ได้แต่บอกด้วยตัวที่แดงเรื่อ
ทั้งที่ความต้องการแสดงออกชัดเจนผ่านแก่นกายเล็กที่กำลังขยายเสียเต็มที่
คำพูดที่ทำให้ชายหนุ่มเพียงยกยิ้มมุมปาก
แล้วจับมือเรียวให้เอื้อมมาจับที่ก้นนิ่มทั้งสองข้าง แล้ว...แหวกมันออก
ท่วงท่าน่าอายที่ฮยอกแจปิดตาแน่น
รู้ดีว่าตัวเองกำลังยืนเอามือแหวกก้นนิ่มให้อีกฝ่ายเห็นช่องทางสีสดที่กำลังเต้นตุบอย่างน่าอาย
อีกทั้งแอ่นกายไปด้านหลังน้อยๆ รู้ดีว่าฮันคยองจะทำอะไร
“อ้ะอ๊า...”
เพียงแค่ฮันคยองยกปลายนิ้วเกลี่ยไปตามกลีบเนื้อที่ปิดสนิท
ฮยอกแจก็กัดปากตัวเองแน่น ความเสียวซ่านพุ่งวาบเข้ามาในร่าง
เปลือกตาสีอ่อนยิ่งปิดแน่น
ฟึ่บ
“อ๊าาาา!!!” แล้วเพียงแค่ฮันคยองฉกวูบลงมาที่ช่องทางสีสด ฮยอกแจก็หวีดร้องออกมาลั่น
ขาเรียวแทบไร้แรงจะยืน ได้แต่อาศัยมือใหญ่ที่ประคองสะโพกมนเอาไว้มั่น
ปลายลิ้นร้อนผ่าวกตวัดเลียไปมาอย่างหยอกเย้า จนคนตัวเล็กยิ่งจิกขาลงกับพื้นพรม
“สะ...เสียว...อื้อ...พะ...พี่ฮัน...อึ้ก...”
เสียงหวานที่ครวญครางแทบไม่เป็นภาษา มือเรียวยิ่งแหวกก้นนิ่มกว้างขึ้น ให้ปลายลิ้นร้อนที่ตวัดเลียสอดเข้ามาลึกขึ้น
สมองขาวโพลนทันทีกับอารมณ์ที่สาดซัดเข้ามายิ่งกว่าคลื่นยักษ์
ส่วนอ่อนไหวยิ่งขนานไปกับพื้นห้องอย่างน่าอาย
“ฮือ...พะ...พี่ฮัน...ลึกอีก...อีก..”
ฮยอกแจบอกเสียงพร่า ยามที่เผยอปากน้อยๆ ปล่อยน้ำหยดใสไหลซึมที่ขอบปาก
แอ่นก้นเข้าหาปลายลิ้นร้อนมากยิ่งขึ้น
ยิ่งยามที่ฮันคยองกำลังกดลิ้นเข้ามาแล้วดึงออกเป็นจังหวะ...ฮยอกแจก็แทบขาดใจตาย
หมับ
ฮยอกแจยิ่งสะดุ้งสุดตัว
ยามที่มือใหญ่ขยับมากอบกุมส่วนอ่อนไหวแล้วขยับอย่างเนิบนาบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนขาเรียวยิ่งสั่นระริก
โครม!
“อื้อ...ฮือ...อึ้ก...”
มือเรียวที่จับก้นตัวเองมั่นต้องขยับไปยันกายกับโต๊ะตรงหน้าอย่างหมดแรงจจะพยุงตัว
เสียงครางยิ่งครางพร่า ดวงตาเรียวรีเปิดกว้างขึ้นอีกนิด
ยามที่มองเงาสะท้อนของตัวเองจากหน้าจอดำสนิทของโทรศัพท์เบื้องหน้า...ภาพของคนที่กำลังมีอารมณ์อย่างที่สุด
“พะ...พี่ฮัน...มะ...ไม่ไหวแล้วฮะ...ผะ..ไม่มะ...”
คนตัวเล็กบอกเสียงพร่า ยามที่ยิ่งกระดกก้นเข้าหาความร้อนแรงที่สุด
อีกทั้งมือใหญ่ยังลูบไล้ไปตามแก่นกายเล็กไปทั่วจนอารมณ์ภายในยิ่งปั่นป่วนจนยากจะหยุดยั้ง
ไม่ต่างกัน ภาพสวยๆ
ของคนรักยามที่ฮันคยองเงยหน้าขึ้นมามองก็เซ็กซี่เสียจนแทบทนไม่ไหว
ความปวดหนึบยิ่งเล่นงานอยู่ใต้กางเกง จนชายหนุ่มยกตัวแล้วดึงมันทิ้งอย่างไม่สนใจ
“มาสิ ฮยอกแจ” เสียงคำรามต่ำที่แฝงอันตรายบอกมาจากด้านหลัง
จนคนฟังที่กำลังยันมือกับโต๊ะตรงหน้าแทบจะทรุดไปกองกับพื้น
ดวงตาเรียวยาวที่ฉ่ำด้วยหยดน้ำก็หันกลับมาสบตา
แล้วก้มมองแก่นกายใหญ่ที่บ่งบอกชัดถึงความต้องการ
หมับ
ร่างเล็กขยับตัวหันหน้ากลับเข้ามาในอ้อมกอดแกร่งอีกครั้ง
มือเรียวกอดหมับเข้าที่ลำคอของคนรัก
เรียวปากหวานฉ่ำขยับไปบดเบียดแนยชิดกับปากอีกฝ่ายจนได้รับจูบที่แสรเร่าร้อนเสียจนร่างแทบไหม้
เรือนกายช่วงล่างต่างขยับเข้าเสียดสีกันจนอุณภูมิในห้องยิ่งพุ่งขึ้นสูง
“อึ้ก!!!!”
ฮยอกแจได้แต่ร้องครางในลำคอ ยามที่เป็นฝ่ายยกตัวแล้วกดกายลงครอบครองแท่งเนื้อร้อนใหญ่โต
ความร้อนผ่าวที่ทำให้ร่างกายแทบจะทนไม่ไหว
ความเสียวซ่านสาดซัดเข้ามาในร่างพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงที่ข้างแก้ม
“อาห์ ฮยอกแจ...แน่น...แน่นมาก...”
ฮันคยองที่ขยับมาซุกที่ซอกคอขาวคำรามก้อง มือใหญ่กระชับเอวเล็กเอาไว้แน่น
ยามที่ดันตัวขึ้นไปในช่องทางเล็กอีกแรง
รับรู้ถึงความน่ารักที่โอบเขาจนร้อนผ่าวไปหมด
เพียงแค่สอดเข้าไป เขาก็แทบจะถึงจุดหมายปลายทาง
“อ้ะอ๊า...พะ...พี่ฮัน...ฮื้อ...”
ใบหน้าสวยเอนซบกับไหล่กว้าง ยามที่กดกายลงไปจนสุด
เสียงหอบหายใจดังห้องไปทั่วห้องกว้าง ยามที่ขยับใบหน้ามาสบกับดวงตาคู่คมที่วาววับด้วยแรงอารมณ์
“ไหวมั้ย ฮยอกแจ”
คนตัวเล็กที่กดกายลงมานิ่งๆ ทำให้ฮันคยองห้ามอารมณ์ที่กำลังจะสวนกายกลับไปแรง
เสียงทุ้มถามอย่างเป็นห่วง ยามที่ขยับไปกดจูบซับน้ำตาที่เปลือกตาเบาๆ
จนลูกไก่ตัวน้อยกดหน้าแรงๆ
“วะ...ไหวฮะ...อึ้ก...”
คนที่ว่าไหวขย่มตัวลงมาเบาๆ ความเสียวซ่านที่ได้รับก็ทำเอาสะดุ้งสุดตัว
มือเรียวกอดรอบลำคอแกร่งมั่น ยามที่ดึงกายออกแล้วกดลงมาช้าๆ
การกระทำแสนเนิบนาบที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อฮยอกแจปรับตัวได้
“อ้ะอ๊า...อ๊า....อื้อ...” เสียงหวานหวีดดังก้อง
เมื่อแท่งเนื้อร้อนกระแทกเข้าที่จุดอารมณ์ภายใน
มือเรียวยิ่งจิกเข้าไปบนบ่ากว้างมากขึ้น
ยามที่ฮันคยองกำลังซุกไซ้ไปทั่วแผ่นอกบอบบาง มือใหญ่ก็ประคองสะโพกมนมั่น
เพื่อกระแทกกายกลับเข้าไปด้วยจังหวะที่แรงขึ้น
“อาห์...ฮยอกแจ...สุดยอดเลย...”
เสียงทุ้มคำรามต่ำ ยามที่กระแทกกายเข้าไปโดนจุดอารมณ์ภายในทุกครั้ง จนคนตัวเล็กหวีดก้อง
ช่องทางสีสดก็ขมิบถี่แรงทุกครั้งที่เขาเข้าไป
พั่บๆ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อยิ่งดังก้องไปทั่วทั้งห้องกว้างมากยิ่งขึ้น
มือใหญ่ก็บีบคลึงสะโพกมนแรงๆ เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมไปทั่วกาย
ยามที่ทั้งสองประกบจูบเข้าหากันครั้งแล้วครั้งเล่า
อารมณ์ร้อนๆ
ที่กำลังทำให้ทั้งห้องถึงจุดเดือด
“อ้ะ...อ๊า...อ๊า...พี่ฮันนนนนน...อ๊าาาา!!!” เสียงหวานหวีดร้องออกมาก้องห้องกว้าง ยามที่กดกายลงมาครั้งสุดท้าย
ปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะเปรอะเปื้อนแผ่นท้องแกร่ง
ใบหน้าสวยเอนซบที่ไหล่กว้างยามที่ชายหนุ่มจัการพลิกร่างเล็กให้นอนราบไปกับโซฟาตัวใหญ่
ใบหน้าคมคายที่ฉายชัดถึงอารมณ์อยู่เหนือร่างที่ฮยอกแจกอดคอเอาไว้แน่น
ดวงตาคมกริบจ้องมองคนรักที่กำลังหอบหายใจแรงๆ แล้วกดกายไปเพียงไม่กี่ที
เสียงทุ้มก็คำรามก้อง ก้มลงมาประกบปากกับคนตัวเล็กที่เผยอปากรับอย่างเต็มใจ
ร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆ
กับน้ำรักที่ไหลอาบไปทั่วเรียวขาขาว เสียงหอบหายใจดังก้องไปทั่วทั้งห้องกว้าง
ยามที่ฮันคยองก้มลงมากดจูบที่แก้มนุ่มอย่างแสนรัก
“จะทำให้ฉันทั้งรักทั้งหลงไปไหนหืม
ฮยอกแจ” มาเฟียหนุ่มบอกชิดริมหู กดจูบที่กกหูเบาๆ จนคนฟังหน้าแดงจัด
ใบหน้าสวยก็เอนซบกับไหล่กว้างแล้วงึมงำเบาๆ
“ผมก็รักพี่นะฮะ”
“แล้วไม่หลงฉันบ้างหรือ”
คำถามของคนตัวโตที่คนฟังยิ่งแก้มแดงจัด ซุกอกกว้างอย่างเขินแสนเขิน
ก็ดูพูดเข้าสิ
“ว่าไง ฮยอกแจ”
แต่เมื่อมาเฟียหนุ่มเร่งอีกนิด คนขี้กลัวก็ได้แต่ตอบเบาๆ
“กะ...ก็หลงฮะ” ก็รักอยู่คนเดียวจะไปหลงใครที่ไหนเล่า
คำตอบที่ทำให้ฮันคยองยิ้มกว้างอย่างพอใจ
มือใหญ่ก็โอบกระชับร่างเล็กมั่น
แล้วดึงมานั้งตักทั้งที่ยังเชื่อมต่อกันจนฮยอกแจได้แต่ครางประท้วงในลำคอ
“เราไม่ได้กลับบ้านตั้งเดือน...มาระลึกความหลังให้ครบทุกมุมดีมั้ย”
คำพูดง่ายๆ ของมาเฟียรูปหล่อที่ทำให้ฮยอกแจเบิกตากว้าง
ใบหน้าสวยเผลอเหลียวไปมองรอบห้องชุดสุดหรู พร้อมกับความคิดที่วิ่งวูบเข้ามาในใจ
ทะ...ทุกมุม
อย่างนี้ไก่ก็ตายแน่น่ะสิ...ในเมื่อ...ก็ทำกันมาทุกมุมในห้องนี้แล้ว ฮือ
สงสัยไก่ไม่ต้องไปนอนค้างบ้านพ่อแม่แล้วล่ะ กว่าจะระลึกครบทุกมุมคง...อีกสักสามวัน
ฮือออออ ไก่อยากทึ้งหัวววว
..................................................................
ในเวลาบ่ายที่ค่อนไปทางบ่ายแก่ๆ
บ้านหลังน้อยที่ช่วงหลังไม่ค่อยมีใครอยู่ ด้วยคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องทำงานต่างจังหวัด
ส่วนคนเป็นลูกก็ถูกมังกรหิ้ว วันนี้กลับอยู่กันพร้อมหน้ารวมทั้ง...พ่อลูกเขยมาเฟียที่นั่งนิ่งอยู่กลางห้องรับแขกด้วยอีกคน
“ไม่ได้เจอพ่อแม่นานนะครับ”
ฮันคยองบอกพลางยกมุมปากขึ้นน้อยๆ อย่างหวังลดความน่ากลัวของใบหน้าลงอีกสักนิด
แต่มันกลับทำให้ชายหญิงวัยกลางคนทำได้เพียงยิ้มกลับแห้งๆ
เหลือบไปมองลูกชายสุดที่รักที่ดูจะอ่อนเพลียไม่น้อยแทน
คือผ่านไปกี่ปี พ่อก็ยังกลัวน่ะนะลูก
ความคิดของคนเป็นพ่อที่ส่งสัญญาณให้ลูกชายตัวน้อยให้ช่วย
บ่งบอกว่าเวลาที่ผ่านมาหลายปีไม่ได้ทำให้ครอบครัวคนธรรมดาฐานะปานกลางครอบครัวนี้สนิทกับครอบครัวมาเฟีย...ไม่สิ
ลูกเขยมาเฟียสักเท่าไหร่
ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้ามุนฮวาลุกขึ้นมาเถียงกับคนอย่างคิมคิบอมหน้าดำหน้าแดงได้ยังไง
“ก็...เอ่อ...ก็เดือนกว่าแล้วนะ...ตะ...ตาฮัน”
คำเรียกขานที่ตะกุกตะกักนิดๆ ทำให้ฮันคยองเผลอขมวดคิ้วฉับ
เฮือก
เพียงแต่ท่าทางธรรมดา
(สำหรับคนรอบตัวฮันคยอง) แต่ดูโคตรน่ากลัวสำหรับบ้านนี้ ทั้งพ่อทั้งแม่ลีก็สะดุ้งน้อยๆ
เผลอใจหล่นวูบว่าไปตอบคำถามไม่ถูกใจอีกฝ่ายหรือเปล่า จนชายหนุ่มนึกอยากกุมขมับ
นี่เขาพยายามทำตัวดีๆ
ไม่แสยะยิ้มเวลาอยู่ต่อหน้าแล้วนะ
ร่างสูงได้แต่คิดอย่างไม่เข้าใจว่าเขาน่ากลัวตรงไหน
มือใหญ่ก็โอบรอบเอวเล็กของฮยอกแจมั่น สัมผัสถึงคนรักที่นั่งข้างๆ
แล้วเข้าใจว่าทำไมคนอย่างเขาต้องพยายามไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้...ทั้งหมดก็เพราะคนขี้กลัวที่นั่งยิ้มแห้งๆ
อยู่ข้างเขา
เขาก็อยากปรับตัวเข้ากับบ้านหลังนี้เหมือนกัน
“พ่อฮะ แม่ฮะ
พี่ฮันเขาเอาของมาฝากจากจีนด้วยนะฮะ หม่าม๊าเพ่ยอิงก็ฝากของมาเพียบเลย”
แล้วคนตัวเล็กก็ว่าเสียงใส พยายามทำให้บรรยากาศในบ้านดูผ่อนคลายลงอีกนิด ทั้งยังหันไปช้อนตามองคนข้างกายทำนองให้ช่วยพูด
จนคนที่กำลังปั้นหน้าไม่ถูกรับคำ
“ครับ...ผมซื้อของมาฝากจากจีน
ไม่รู้พ่อกับแม่จะชอบมั้ย” คำตอบรับที่ฮยอกแจได้แต่มองอย่างเป็นห่วง ก็ใครๆ ก็รู้นี่นาว่าพี่ฮัน...อืม...ไม่ค่อยจะพูดสุภาพกับใครสักเท่าไหร่
เท่าที่เห็นก็มีพ่อแม่เขาเนี่ยล่ะ
ท่าทางของลูกเขยที่ดูจะไม่น่ากลัวเท่าเมื่อก่อน
ทำให้คนฟังพอจะเบาใจ รับรู้ว่าคำตอบก่อนหน้าไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ
“ขอบใจมากนะ ตาฮัน...แล้ววันนี้...”
มารดาของฮยอกแจว่าเบาๆ แล้วหันกลับไปหาลูกชาย
ทำนองถามว่าจะกลับมานอนค้างที่บ้านหรือเปล่า
แววตาของคนเป็นแม่ที่บอกว่าคิดถึงมากมายทำให้ร่างเล็กน้ำตารื้น จนคนที่เฝ้ามองอยู่ยอมปล่อยจาเอวบาง
หมับ
“คิดถึงพ่อกับแม่จังเลยฮะ”
ฮยอกแจว่าเสียงอ้อน ยามที่โผเข้ามากอดบิดามารดาอย่างแสนคิดถึง
จนชายหนุ่มอดจะยกยิ้มไม่ได้
RRRRRrrrrr
แต่แล้ว
เสียงโทรศัพท์ของฮันคยองก็ดังแทรกความเงียบขึ้นมา
จนชายหนุ่มที่ล้วงมันขึ้นมาดูต้องเอ่ยขอตัวเสียงเบา แล้วก้าวไปอีกทาง
จนทั้งพ่อทั้งแม่ที่เงียบกว่าปกติพอจะยิ้มออก
ใครที่ไม่เคยมีลูกเขยเป็นมาเฟียไม่เข้าใจหัวอกพวกเขาหรอก
“ว่าแต่
วันนี้ลูกจะกลับมาค้างที่บ้านหรือเปล่า พ่อกับแม่คิดถึงลูกมากเลยนะ”
มารดาคนสวยบอกพลางลูบหลังบอบบางอย่างเบามือ
จนคนที่จ่ายค่าตอบแทนที่จะกลับมาค้างบ้านหน้าแดงแปร๊ด นึกย้อนไปถึงการรับศึกหนักจากคนตัวโต
แล้วรีบพยักหน้าแรงๆ มือเรียวก็กอดมารดาแน่น
“ค้างฮะ
ฮยอกขอพี่ฮันเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะกลับมาค้างที่บ้าน”
แต่ต้องตอบแทนด้วยการยอมถูกพี่เขากดจนกว่าจะลุกขึ้นก็เมื่อตอนบ่าย
“จริงหรือ ดีจริงๆ
เดี๋ยวพ่อลงมือทำครัวเอง” คนเป็นพ่อบอกด้วยรอยยิ้ม
พลางลูบเส้นผมสีดำเหลือบแดงของลูกชายอย่างเบามือ
ดวงตาที่ผ่านอะไรมามากก็จ้องมองลูกชายนิ่ง แล้วพบบางสิ่งที่แปลกไป
ฮยอกแจมีความสุขกับการได้อยู่กับหานฮันคยอง...และนั่นคือสิ่งที่คนเป็นพ่อแม่รู้สึกดี
แม้จะหวาดเกรง แม้จะต้องอกสั่นขวัญแขวนทุกครั้งที่เจอกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาสัมผัสได้...มาเฟียคนนี้รักลูกของพวกเขาจริงๆ
จนวางใจ...วางใจว่าฮยอกแจมีคนจะดูแล
ดังนั้น
เมื่อตอนที่ลูกชายบอกว่าต้องไปจีนกับฮันคยองเขาถึงอนุญาต...แต่ถึงไม่ไว้ใจยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีนี่นะ
ก็พ่อลูกเขยเล่นยืนโอบเอวแสดงความเป็นเจ้าของซะขนาดนั้น
“จริงหรือฮะ งั้นฮยอกเป็นลูกมือเอง รับรองว่าวันนี้อร่อยแน่ๆ”
ฮยอกแจบอกด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างที่ทำให้คนที่ออกไปคุยโทรศัพท์เพียงครู่ยกยิ้มที่มุมปาก
พอใจกับการที่เห็นลูกเจี๊ยบขี้กลัวทำหน้ามีความสุขขนาดนี้ จนเสียงทุ้มเอ่ยออกไปง่ายๆ
“ดีสิ
ฉันไม่ได้ชิมฝีมือเธอมาเกือบเดือนนี่นะ”
ขวับ
คำพูดของฮันคยองที่ทำให้คนทั้งบ้านหันขวับมามองอย่างพ้อมเพรียง
พร้อมกับคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันน้อยๆ ฮยอกแจเริ่มสังหรณ์ใจบางอย่าง
เสียงหวานจึงว่าเบาๆ
“วะ...วันนี้พี่ฮันจะทานข้าวที่นี่หรือฮะ”
“ใช่สิ
คงไม่ปล่อยให้ฉันกลับไปกินข้าวคนเดียวที่คอนโดหรอกนะ” คำถามที่ชายหนุ่มก็ตอบกลับทันควันอย่างชัดเจน
จนฮยอกแจต้องถามเพื่อความแน่ใจ
“ละ...แล้วพี่จะกลับตอนไหนฮะ”
ฉับ
เพียงคำถามสั้นๆ
แต่ทำให้ฮันคยองขมวดคิ้วเข้าหากันเพียงครู่แล้วคลายออก
ร่างสูงที่ยืนพิงผนังก็ยกมือกอดอก นัยน์ตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์เพียงครู่แล้วตอบคำง่ายๆ
“ใครว่าฉันจะกลับ
ในเมื่อเธอจะค้างที่นี่ ฉันก็ค้างที่นี่ด้วย...ใช่มั้ยครับ” ท้ายประโยค
ฮันคยองหันไปถามบุพการีของคนตัวเล็กที่เหมือนจะช็อกค้างไปเรียบร้อยแล้ว
เพราะแม้ว่าฮันคยองและฮยอกแจจะคบกันมาก็กว่าสามปี
แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ชายหนุ่มจะมาค้างที่นี่
คำที่ทำให้ฮยอกแจได้แต่ว่าตะกุกตะกัก
“ตะ...แต่ว่าพี่ให้...”
“ฉันไม่ได้บอกสักคำว่าจะให้เธอมาค้างคนเดียว...ฉันให้เธอมาค้าง
และฉันก็มาด้วยต่างหาก”
คำตอบที่ชัดเจนเสียฟาดเปรี้ยงลงกลางใจของคนฟังทั้งสามที่นิ่งอึ้งไปเรียบร้อยด้วยความคิดที่แตกต่าง
แน่ล่ะสำหรับคนเป็นพ่อแม่ แค่สบตายังยาก ให้มานอนค้างอย่างนี้คงเกร็งไม่น้อย
แต่สำหรับฮยอกแจแล้ว...
ก็บ้านไก่ไม่ได้มีระบบเก็บเสียงแบบบ้านพี่ฮันเขานะ
ถ้าพี่เขาทำ...ไก่ไม่ครางลั่นบ้านเลยหรือ ฮืออ ไม่น่าเลยฮยอกแจ หลงกลพี่ฮันอีกแล้วววว
แล้วที่จ่ายค่าตอบแทนเมื่อคืนคืออะไร...แงงงงงงงงงงงง
สุดท้าย
ลูกเจี๊ยบตัวน้อยก็ไม่พ้นมือมังกรตัวร้ายอยู่ดี...น่ะนะ
.................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น