วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Special CL_5 ค่ำคืนของสองเรา

Special CL_5 ค่ำคืนของสองเรา



            ผืนผ้าสีรัตติกาลคลี่คลุมท้องฟ้าภายนอกจนมืดสนิท ประดับด้วยดวงดาวที่อาจจะดูอ่อนจางในตัวเมืองเช่นนี้ ตรงข้ามกับท้องถนนเบื้องล่างที่เปิดไฟสว่างไสว ขณะเดียวกัน คอนโดหรูที่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมก็กำลังเปิดไฟสว่างไปทั่วทั้งชั้น หลังจากที่เจ้าของหายไปจีนนานนับเดือน

            ในเวลานี้ บนโซฟาสีเข้ม ร่างสูงใหญ่ของฮันคยองกำลังกึ่งเอนกึ่งเหยียดขายาวลงบนโต๊ะตัวเล็กตรงหน้า สายตาก็จับจ้องข่าวที่ฉายบนโทรทัศน์เครื่องใหญ่ บนกายมีเพียงกางเกงนอนขายาวสีดำสนิทเท่านั้น เปิดเผยแผ่นอกแข็งแกร่งที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวสวย

            แม้ว่าผู้รายงานข่าวสาวตรงหน้าจะรายงานข่าวภาคดึกไปเรื่อยๆ แต่เหมือนว่าหนุ่มจีนจะไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก นอกจากยกมุมปากขึ้น ในหัวก็มีเพียงภาพของอดีตลูกไก่ขี้กลัวที่ยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่ามีคนมาให้ท่าเขา

          ดีแล้วที่ไม่รู้ เดี๋ยวก็ร้องไห้อีก

            ฮันคยองบอกตัวเองอย่างขำๆ นึกย้อนไปถึงเมื่อสัปดาห์ก่อนที่คนตัวเล็กคิดมากเรื่องมีลูก ทั้งที่เขาก็พอจะคิดเอาไว้ว่าสักวันฮยอกแจต้องสัมผัสกับคำถามนี้ แม้ไม่ใช่จากคนในบ้านก็ต้องเป็นคน...นอกบ้าน

            ยังไงสักวันก็ต้องมีคนถามว่าเขาจะให้ใครเป็นทายาทคนต่อไปของตระกูลหาน แต่เจ้าตัวก็ต้องมาคิดมากเสียก่อนเพราะ...คำพูดพล่อยๆ ของสาวใช้สองคน

            สำหรับฮันคยองมันไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดที่จะหาว่าใครเป็นตัวการ แค่เขาเอ่ยถามเสียงหนักว่าไปพูดอะไรลับหลังเขาหรือเปล่า สาวใช้สองคนก็ตัวสั่นงันงก กลัวจนแทบทรุด ถ้าไม่ได้ฮยอกแจขอไว้ เขาคงทำอะไรรุนแรงมากกว่าส่งตัวไปทำงานให้ห่างไกลจากเมืองหลวงเช่นนี้

            ทั้งที่...มีวิธีจัดการมากมายหลายวิธี

            “ฮึ เมียดันขี้ใจอ่อนนี่นะ” ฮันคยองบอกกับตัวเองเบาๆ นึกถึงวีธีอ้อนขอให้เขาลดโทษสาวใช้สองคนนั้นทั้งที่ก็ทำให้ตัวเองคิดมากแล้วนึกพอใจ...ก็เขาเล่นหนักเสียวันนั้นฮยอกแจไปไหนกับม๊าเขาไม่ได้วันเต็มๆ

            ฮันคยองปล่อยความคิดของตัวเองไปเรื่อยๆ ยามที่สายตาก็จับจ้องภาพตรงหน้า แล้วอดไม่ได้จะกวาดมองห้องชุดที่เปรียบเหมือนบ้านของเขาจริงๆ เสียแล้ว...ไม่ใช่บ้านใหญ่ที่จีน

            สำหรับเขาที่นี่ต่างหากคือบ้านของเขาและฮยอกแจ...

            บ้านของเราที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาหลายปี

            บ้านที่เขาทำให้ฮยอกแจเชื่อว่าที่นี่คือที่ของเรา

            บ้านที่เขาได้ร่างกายของฮยอกแจครั้งแรก

            บ้านที่เขา...อยากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฮยอกแจ

            ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขำๆ ที่เขาพยายามเคลียร์งานในเสร็จ ทั้งยังเร่งมารดาให้จัดการพาฮยอกแจเปิดตัวตามที่ต่างๆ ให้เร็วที่สุด รู้จักกับคนในตระกูลให้ครบ เพียงเพราะว่า...ฮยอกแจอยากกลับบ้าน

            ทำไมหานฮันคยองจะไม่รู้ล่ะว่าคนรักตัวขาวของเขาอดทนมากแค่ไหนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่จีน ฮยอกแจต้องใช้ภาษาที่เรียนมา ต้องปรับตัว แม้แต่อาหารการกินที่ไปช่วงแรกๆ เจ้าตัวยังทานอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ทุกอย่างเขารู้ดีว่าคนขี้กลัวพยายามทำเพื่อให้อยู่ใกล้ๆ เขา

            ไม่ว่าอะไร ฮยอกแจไม่เคยปริปากบ่น มีเพียงน้ำตาหยดใสที่แอบไปร้องไห้เงียบๆ คนเดียวเท่านั้น แล้วแน่ล่ะว่าเขาต้องรับรู้ เขารู้ทุกอย่าง แล้วเขาก็พยายามปลอบที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างที่ฮันคยองบอกกับตัวเองหลายครั้ง ฮยอกแจไม่จำเป็นกลัวว่าเขาจะทิ้ง

            เขาต่างหาก...ที่ไม่มีวันขาดคนขี้กลัวคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว...คนที่ทำทุกอย่างเพื่อเขาได้ แล้วมันจะผิดอะไร หากเขาพยายามทำตามความต้องการของฮยอกแจ

            การกลับมาที่บ้านของเรา

            “ฮึ มึงนี่หลงเมียเอามากจริงๆ อาเกิง” ฮันคยองส่ายหน้านิดๆ ยามที่นึกถึงคำของบิดาที่ชอบเปรยกับเขาบ่อยๆ แล้วเขาก็สวนกลับไปทันควัน

          ก็เหมือนป๊าตามใจม๊าไม่ใช่หรือไง

            คำตอบที่อาจจะตรงใจของสองพ่อลูก เพราะรู้ดีที่สุดว่าใครสำคัญที่สุดสำหรับตัวเอง

            “พี่ฮันฮะ...ยังไม่นอนหรือฮะ”

            ขวับ

            กึก

            แต่แล้ว เสียงหวานใสของคนที่เข้าไปอาบน้ำเสียนานจนเขาไปอาบอีกห้องก็เอ่ยเบาๆ จนชายหนุ่มต้องหันกลับไปมอง แล้วเพียงเท่านั้น ร่างสูงก็ชะงักกึก กวาดมองร่างบอบบางตรงหน้าด้วยสายตาที่ทำให้ฮยอกแจแก้มแดงปลั่ง

          ตอนแรกว่าจะให้พักเพราะนั่งเครื่องมาหลายชั่วโมง แต่เหมือนควรจะล้มเลิกความคิดเสียแล้ว

            ฮันคยองบอกตัวเองด้วยแววตาที่วาววับขึ้น ยามที่มองคนตัวเล็กที่เขานึกว่าจะกลับมาสวมเสื้อนอนเข้าชุดกัน แต่ฮยอกแจกลับสวม...ชุดนอนกี่เพ้า

            ชุดนอนที่เขารู้แล้วว่าชอบให้เมียตัวเองใส่มากแค่ไหน ยิ่งยามที่สัมผัสความลื่นของผิวผ้าที่ไหลไปกับผิวเนื้อเนียน...เขายิ่งหลงรักมัน

            แล้วในเวลานี้ คนตัวเล็กเจ้าของผิวขาวผุดผาดก็อยู่ในชุดนอนสีน้ำเงินเข้ม เนื้อผ้าเรียบลื่นแขนกุดที่มีเพียงสายเชือกเส้นเล็กผูกรั้งมันเอาไว้เท่านั้น อย่างที่เพียงกระตุกไม่กี่ที ผ้าลื่นๆ ก็พร้อมจะเลื่อนหลุดจากไหล่บางอย่างง่ายดาย ท่อนล่างเป็นกางเกงขาสั้นกุดที่โชว์เรียวขาขาวผ่องที่แสนน่าลูบไล้...ชุดนอนสบายๆ ที่อาจจะไม่ได้โป๊หรือยั่วยวนสำหรับคนทั่วไป แต่ไม่ใช่กับหนุ่มจีนคนนี้

            “พะ...พี่ฮันมองผมอย่างนั้นทำไมฮะ” ฮยอกแจถามเสียงเบา ทั้งที่พอจะรับรู้จากสัญชาตญาณว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา แล้วก็เลยได้แต่ก้มมองตัวเองที่สวมชุดนอนกี่เพ้าที่อาจจะ...ไปปลุกอารมณ์มังกรบางตัว

            “เปล่า มานั่งนี่สิ” ฮันคยองยักไหล่นิดๆ เมื่อเห็นว่าดวงตาเรียวรีกำลังหลุกหลิกไปมา ทั้งยังก้มมองชุดนอนตัวเองอย่างไม่แน่ใจ จนตบเบาะข้างๆ ให้คนตัวเล็กก้าวเข้ามาหาช้าๆ

          เปล่าได้ยังไงอ่ะ เมื่อกี้ไก่มั่นใจนะว่าสายตา...แทบจะกลืนลงไปทั้งตัว

            แม้จะคิดเช่นนั้น แต่คนที่เวลานี้คุ้นเคยกับการสวมชุดนอนกี่เพ้า (แล้วก็ตื่นมาด้วยสภาพไร้ชุดนอน) ก็ก้าวเข้ามาหาอย่างรู้ว่าอย่าไปขัดใจจะดีที่สุด ร่างเล็กก็หย่อนก้นนั่งข้างๆ ยามที่สัมผัสถึงมือใหญ่ที่สอดลึกเข้ามาโอบรอบเอวคอด

            “คิดถึงที่นี่มั้ย” ฮันคยองถามขึ้นมาง่ายๆ ขณะที่ก้มลงไปสูดดมความหอมหวานของแก้มเนียนเบาๆ จนคนตัวเล็กหน้าร้อนวูบ แต่ก็ได้แต่พยักหน้าแรงๆ

            “คิดถึงฮะ ไปอยู่โน่นตั้งเดือนกว่า...” ฮยอกแจพึมพำ ยามที่สัมผัสได้ว่ามือใหญ่ที่กอดเอวเล็กเหมือนจะไม่กอดอย่างเดียวเฉยๆ แต่ลูบไล้ไปมาอย่างพอจะรับรู้ชะตากรรมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าของเขาได้อย่างดี แล้วเขาก็ไม่คิดหลบหนี

          ถ้าพี่ฮันอยาก...เอ่อ...ง่ะ ไก่ก็ให้ไง

            “พะ...พี่ฮัน พรุ่งนี้ผมไปหาพ่อแม่นะฮะ...ได้มั้ย” ฮยอกแจถามเสียงเบา ขณะที่ช้อนดวงตาเรียวสวยขึ้นสบอย่างไม่แน่ใจ แต่เขาก็คิดถึงพ่อแม่นี่นา

            คำขอที่ทำให้ฮันคยองขมวดคิ้วฉับ แล้วเอ่ยบอกขำๆ

            “ถ้าฉันไม่ให้ไป จะร้องไห้หรือเปล่าล่ะ”

            “กะ...ก็...” ร้องแน่ๆ ล่ะฮะ

            คำตอบที่ไม่ต้องบอกก็รู้กันดี จนฮันคยองหัวเราะหึๆ ในลำคอ มือใหญ่ก็ขยับมาลูบต้นแขนเนียนนุ่มเบาๆ แล้วเอ่ยตอบ

            “ได้ เดี๋ยวฉันไปส่ง แล้วฉันค่อยเข้าบริษัท” คำตอบตกลงที่ทำให้ฮยอกแจยิ้มออก แต่สิ่งที่ตัวเองต้องการมันยังไม่มีเพียงเท่านี้นี่นะ

            “แล้ว...ผมไปค้างที่บ้านนะฮะ”

            กึก

            คำขอที่ฮันคยองชะงักกึกทันที ดวงตาคู่คมวาววับขึ้นมาหน่อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฮยอกแจก็กลับไปนอนบ้านประจำเวลาที่พ่อแม่ไม่ได้ออกต่างจังหวัด แต่ช่วงเดือนกว่ามานี้เขามีฮยอกแจนอนอยู่ข้างๆ ทุกคืน มันก็เลยแปลกๆ ถ้าต้องกลับมานอนคนเดียว

            ท่าทางนิ่งเงียบไปของมาเฟียรูปหล่อที่ทำให้คนขอเริ่มหน้าหดเหลือสองนิ้ว มือเรียวก็เลื่อนมาจับท่อนแขนแกร่งเอาไว้ แล้วบอกเสียงสั่น

            “นะฮะ...คะ...คือผมคิดถึงพ่อแม่นี่นา...คืนเดียวก็ได้” คำขอที่ฮันคยองรู้ดีว่าเขาก็ให้ได้ แต่มันผิดหรือไงที่เขาไม่คิดอยากให้

            “ก็ได้ พรุ่งนี้กลับไปค้างบ้านพ่อแม่เธอก็ได้” คำตอบตกลงที่ทำให้ฮยอกแจยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี ใบหน้าสวยก็เอนซบที่ไหล่แกร่งอย่างหลงลืมตัว มือเรียวกอดท่อนแขนแกร่งมั่น

            “ขอบคุณฮะพี่ฮัน”


            คำขอบคุณที่มาเฟียมากเล่ห์พร้อมจะแปลให้มันเป็นอย่างอื่น มือใหญ่ที่โอบรอบไหล่เล็กจึงสอดเข้าไปที่เอวบอบบางอีกครั้ง ใบหน้าคมคายก็ขยับไปชิดริมหูแล้วบอกเสียงนุ่ม

            “งั้นมาขอบคุณฉันดีๆ” ฮันคยองขบเม้มติ่งหุเล็กเบาๆ อย่างที่คนตัวเล้กก็รู้ความหมาย ใจดวงน้อยเต้นระรัว มือเรียวเผลอบีบท่อนแขนแกร่งแรงขึ้น ร่างกายรับรู้ทันทีที่ว่าคนรักต้องการอะไร แล้วจริงๆ เขาก็เต็มใจมอบให้

            ใครว่าฮยอกแจไม่รู้ล่ะว่าพี่ฮันชอบชุดนอนกี่เพ้า เขารู้ และเพราะรู้ว่าพี่ฮันชอบ...เขาก็เลยใส่

            “ฉันบอกตั้งแต่ร้านอาหารแล้วใช่มั้ยว่าอยากกินนมน่ะ” ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า ยามที่ดึงร่างเล็กให้ขยับมานั่งที่ตักแกร่ง มือใหญ่ก็แกล้งปัดผ่านเม็ดเล็กๆ ตรงแผ่นอกบอบบางเบาๆ จนฮยอกแจกัดปากตัวเองแน่น ใบหน้าสวยแดงซ่านขึ้นมาทันที

            “กะ...ก็กินสิฮะ...” เสียงใสที่เอ่ยเบาแสนเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่กับในห้องที่เงียบขนาดนี้ มีหรือจะไม่ได้ยิน

            สิ้นคำตอบรับน่ารักๆ ฮันคยองก็ดึงร่างเล็กให้ขยับหันหน้ามานั่งคร่อมทับที่ต้นขาแกร่งเสียเรียบร้อย มือใหญ่ก็ยกขึ้นแตะที่แก้มนุ่มแล้วลูบไล้ไปมาเบาๆ

            “จูบหน่อยสิฮยอกแจ” นัยน์ตาคมที่ทอดมองริมฝีปากอย่างมีความหมาย ทำให้คนขี้กลัวขยับมือไปกอดรอบลำคอแกร่งหลวมๆ ใบหน้าหวานก็ขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่...จะแนบริมฝีปากลงไปอย่างสิ้นแรงจะขัดขืน...อีกทั้ง เต็มใจเหลือเกิน


            ริมฝีปากนุ่มๆ ที่แตะแนบลงมาแผ่วเบา แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความน่ารักสมกับเป็นฮยอกแจ ใบหน้าสวยเอียงน้อยๆ ยามที่สัมผัสกับริมฝีปากได้รูปของคนรักเบาๆ แล้วดึงออก จากนั้นก็แนบลงมาใหม่อย่างที่ฮันคยองนึกพอใจ

            หมับ

            “อ้ะ!” คนตัวเล็กร้องเบาๆ ยามที่มือใหญ่ยื่นมากระชับเข้าที่ต้นคอระหงแล้วบดเบียดริมฝีปากเข้ามาหา ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียกลีบเนื้อนุ่มแล้วสอดลึกเข้าไปอย่างที่ฮยอกแจก็เผยอปากน้อยๆ ส่งลิ้นนิ่มมาเกาะเกี่ยวแลกเปลี่ยนสัมผัสที่แสนรัญจวนใจ มือเรียวก็ขยับไปขยุ้มเส้นผมดกดำอย่างเบาแรง

            “อื้อ...อ้ะ...” เสียงครวญครางหวานๆ ดังแผ่วในลำคอ ยามที่ริมฝีปากถูกดูดดึงเบาๆ ยามที่ฮันคยองผละออก ฮยอกแจก็ขยับเข้าหา เกาะเกี่ยวปลายลิ้นอย่างที่ไม่อยากให้มันหยุดลง

            ท่าทางน่ารักๆ ของคนตัวเล็กที่ฮันคยองยิ่งพอใจ มือใหญ่ก็ลูบไล้ที่สะโพกกลมมนที่สวมเพียงกางเกงเนื้อบางเอาไว้อย่างเบามือ

            ฟึ่บ

            “อ้ะ...พี่ฮัน...” คนตัวเล็กได้แต่ร้องเบาๆ ยามที่ฮันคยองขยับมือมาดึงรั้งเส้นเชือกตรงคอทีเดียวมันก็หลุดไปเสียสามเส้น ผืนผ้าที่ทบกันเอาไว้ขยับแยกออกทันที แก้มขาวแดงก่ำ เมื่อปลายนิ้วยาวกำลังลูบคลึงตรงเนินเนื้อนิ่มเบาๆ

            “ทำไมหอมขนาดนี้นะฮยอกแจ” เสียงทุ้มพึมพำเบาๆ ยามที่กำลังใช้ปลายจมูกสูดดมความหอมตรงซอกคอขาว ประทับรอยแดงแนบเข้าที่เดิมที่ทำทุกค่ำคืน ปลายลิ้นร้อนก็ลากเลียผิวเนื้ออ่อนนิ่มจนฮยอกแจเสียวซ่าน ขาเรียวที่แบะกว้างออกคร่อมคนตัวโตก็สัมผัสถึงความโป่งนูนที่กำลังขยับขยายทีละน้อย

            “พะ...พี่ฮัน...” เสียงหวานครวญครางชื่อคนตัวโตเบาๆ ยามที่ขยับมือมาเกาะเกี่ยวที่ไหล่กว้าง สัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นร้อนของฮันคยองที่กำลังพรมจูบไปทั่วเนินเนื้อขาว บางก็ดูดเม้ม ฝ่ามือใหญ่ก็เอาแต่เคล้นคลึงก้นกลมเบาๆ จนมันแยกออกกว้างนิดให้พอเสียวซ่านในอารมณ์

            “อยากกินตั้งแต่ที่ร้านแล้วรู้มั้ย” ฮันคยองว่าเสียงพร่า ยามที่ลากปลายลิ้นร้อนมาถึงยอดอกสีหวานที่ชูชันอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาคมก็ตวัดกลับมามองใบหน้าแสนสวยที่กำลังแดงก่ำด้วยอารมณ์ ดวงตาเรียวรีฉ่ำน้ำน้อยๆ

            ฟึ่บ

            “อ้ะ!!” ฮยอกแจได้แต่สะดุ้งสุดตัว เมื่อปลายลิ้นร้อนปาดเลียยอดอกสีหวานแรงๆ ความสากของปลายลิ้นและน้ำลายที่ทำให้แผ่นอกบอบบางเด้งเข้าหาอย่างที่เจ้าของควบคุมไม่ได้

            “หึๆ อร่อยที่สุดจริงๆ ฮยอกแจ”

            “อ๊าาาา!!! พะ...พี่ฮัน...ดูดระ...แรงไป...แรงจัง...” ฮยอกแจยิ่งกัดปากตัวเองแน่น ใบหน้าสวยส่ายซ่านไปมา เมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองลงไป อีกทั้งยังใช้ปลายลิ้นตวัดเกี่ยวไปมาให้ยิ่งแข็งขืน มือเรียวบีบบ่ากว้างแน่น ขณะที่แอ่นอกให้อีกฝ่ายดูดกลืนมากยิ่งขึ้น

            สัมผัสของเม็ดเล็กๆ ที่ยิ่งดูดกลืนมากเท่าไหร่ ยิ่งแข็งชูชันโต้ตอบปลายลิ้นมากเท่านั้น จนฮันคยองยิ่งขบเม้มอย่างหิวกระหาย มือใหญ่ที่สอดลึกเข้าไปประคองก้นนุ่มก็บีบแรงๆ จนฮยอกแจยิ่งเสียวสะท้านไปทั้งร่าง ขาเรียวจิกเกร็งเอาไว้เต็มแรง

            “อึ้ก!” ฮยอกแจได้แต่กัดปากตัวเองแน่น เมื่อมือใหญ่กำลังสอดเข้ามาระหว่างก้นทั้งสองข้าง ปลายนิ้วยาวก็กำลังยกเกลี่ยช่องทางสีหวานทั้งที่ยังมีกางเกงขาสั้นปิดบังเอาไว้ นิ้วมือทั้งสองก็ถูไถช่องทางเบาๆ จนต้องยกก้นขึ้นนิด

            “อะ...อีกนิดฮะพี่ฮัน...อีก...” ฮยอกแจบอกเสียงสั่น ยามที่ขมิบช่องทางด้านหลังแรงๆ หวังจะได้รับการสัมผัสมากกว่านี้ จนชายหนุ่มที่กำลังดูดเลียส่วนบนหัวเราะเบาๆ มือใหญ่ก็คว้าหมับเข้าที่มือเรียวแล้วบังคับให้ล่วงลึกเข้าไปในกางเกงนอนขายาวของตน

            ความใหญ่โตที่แสนร้อนผ่าวและคุ้นเคย ทำให้ฮยอกแจใช้ปลายนิ้วลูบไล้มันไปตามความยาว จนเสียงทุ้มคำรามเบาๆ

            “ดะ...ดีมั้ยฮะ” ฮยอกแจถามเสียงพร่า ดวงตาคู่สวยยามนี้ฉ่ำด้วยหยดน้ำแห่งอารมณ์ ขณะที่กำลังใช้ก้นนิ่มกดลงมาให้สัมผัสกับมือใหญ่มากยิ่งขึ้น

            “อืม...อย่างนั้น...” ฮันคยองบอกอย่างพอใจ ยามที่ละปากจากยอดอกสีหวานขึ้นมามองหน้าขาวผ่องที่แดงก่ำ มือเรียวก็ลูบไล้ไปตามลูกชายเขาอย่างเบามือ ใบหน้าสวยก็กัดปากน้อยๆ เสียวซ่านกับนิ้วมือที่กำลังลูบไล้ไปตามช่องทางสีสดผ่านกางเกงตัวเล็ก

            “อยากได้มากกว่านี้มั้ยที่รัก” ชายหนุ่มถามเสียงพร่า ยามที่กดปลายนิ้วย้ำลงบนช่องทางนุ่มเบาๆ จนคนตัวเล็กหลุดเสียงครางอย่างห้ามไม่อยู่ หากแต่ความต้องการที่มีมากกว่าก็ปัดไล่ความอายออกไปจากใจ จนใบหน้าเรียวสวยกดลงแรงๆ

            “มะ...มากกว่านี้ฮะ...อึ้ก...พี่ฮัน...มากกว่านี้”

            คำตอบตกลงที่ทำให้ฮันคยองดึงมือเรียวจากกางเกงนอนของตน แล้วดันให้ฮยอกแจที่ขาแทบไร้แรงให้ลุกขึ้น จนคนตัวเล็กขยับอย่างไม่เข้าใจ

            “หันหลังมาสิ” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม จนคนที่ใช้ขาสั่นๆ ยืนอยู่ตรงพื้นพรมได้แต่หน้าแดงก่ำ พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร แต่ร่างเล็กก็ขยับหันหลังให้อย่างว่าง่ายจนก้นนิ่มอยู่ในระดับสายตาของคนที่นั่งอยู่บนโซฟา

            ฟึ่บ

            “พะ...พี่ฮันฮะ...ผมอาย...”

            “หึๆ ทุกทีเธอก็ชอบนี่นา” เพียงแค่กางเกงตัวเล็กถูกดึงออกไปทิ้งไว้ที่ปลายเท้าเปิดเปลือยเนื้อตัวช่วงล่างที่แสนน่ารักให้แก่สายตาคนมอง ฮยอกแจก็ได้แต่บอกด้วยตัวที่แดงเรื่อ ทั้งที่ความต้องการแสดงออกชัดเจนผ่านแก่นกายเล็กที่กำลังขยายเสียเต็มที่

            คำพูดที่ทำให้ชายหนุ่มเพียงยกยิ้มมุมปาก แล้วจับมือเรียวให้เอื้อมมาจับที่ก้นนิ่มทั้งสองข้าง แล้ว...แหวกมันออก

            ท่วงท่าน่าอายที่ฮยอกแจปิดตาแน่น รู้ดีว่าตัวเองกำลังยืนเอามือแหวกก้นนิ่มให้อีกฝ่ายเห็นช่องทางสีสดที่กำลังเต้นตุบอย่างน่าอาย อีกทั้งแอ่นกายไปด้านหลังน้อยๆ รู้ดีว่าฮันคยองจะทำอะไร

            “อ้ะอ๊า...” เพียงแค่ฮันคยองยกปลายนิ้วเกลี่ยไปตามกลีบเนื้อที่ปิดสนิท ฮยอกแจก็กัดปากตัวเองแน่น ความเสียวซ่านพุ่งวาบเข้ามาในร่าง เปลือกตาสีอ่อนยิ่งปิดแน่น

            ฟึ่บ

            “อ๊าาาา!!!” แล้วเพียงแค่ฮันคยองฉกวูบลงมาที่ช่องทางสีสด ฮยอกแจก็หวีดร้องออกมาลั่น ขาเรียวแทบไร้แรงจะยืน ได้แต่อาศัยมือใหญ่ที่ประคองสะโพกมนเอาไว้มั่น ปลายลิ้นร้อนผ่าวกตวัดเลียไปมาอย่างหยอกเย้า จนคนตัวเล็กยิ่งจิกขาลงกับพื้นพรม

            “สะ...เสียว...อื้อ...พะ...พี่ฮัน...อึ้ก...” เสียงหวานที่ครวญครางแทบไม่เป็นภาษา มือเรียวยิ่งแหวกก้นนิ่มกว้างขึ้น ให้ปลายลิ้นร้อนที่ตวัดเลียสอดเข้ามาลึกขึ้น สมองขาวโพลนทันทีกับอารมณ์ที่สาดซัดเข้ามายิ่งกว่าคลื่นยักษ์ ส่วนอ่อนไหวยิ่งขนานไปกับพื้นห้องอย่างน่าอาย

            “ฮือ...พะ...พี่ฮัน...ลึกอีก...อีก..” ฮยอกแจบอกเสียงพร่า ยามที่เผยอปากน้อยๆ ปล่อยน้ำหยดใสไหลซึมที่ขอบปาก แอ่นก้นเข้าหาปลายลิ้นร้อนมากยิ่งขึ้น ยิ่งยามที่ฮันคยองกำลังกดลิ้นเข้ามาแล้วดึงออกเป็นจังหวะ...ฮยอกแจก็แทบขาดใจตาย

            หมับ

            ฮยอกแจยิ่งสะดุ้งสุดตัว ยามที่มือใหญ่ขยับมากอบกุมส่วนอ่อนไหวแล้วขยับอย่างเนิบนาบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนขาเรียวยิ่งสั่นระริก

            โครม!

            “อื้อ...ฮือ...อึ้ก...” มือเรียวที่จับก้นตัวเองมั่นต้องขยับไปยันกายกับโต๊ะตรงหน้าอย่างหมดแรงจจะพยุงตัว เสียงครางยิ่งครางพร่า ดวงตาเรียวรีเปิดกว้างขึ้นอีกนิด ยามที่มองเงาสะท้อนของตัวเองจากหน้าจอดำสนิทของโทรศัพท์เบื้องหน้า...ภาพของคนที่กำลังมีอารมณ์อย่างที่สุด

            “พะ...พี่ฮัน...มะ...ไม่ไหวแล้วฮะ...ผะ..ไม่มะ...” คนตัวเล็กบอกเสียงพร่า ยามที่ยิ่งกระดกก้นเข้าหาความร้อนแรงที่สุด อีกทั้งมือใหญ่ยังลูบไล้ไปตามแก่นกายเล็กไปทั่วจนอารมณ์ภายในยิ่งปั่นป่วนจนยากจะหยุดยั้ง

            ไม่ต่างกัน ภาพสวยๆ ของคนรักยามที่ฮันคยองเงยหน้าขึ้นมามองก็เซ็กซี่เสียจนแทบทนไม่ไหว ความปวดหนึบยิ่งเล่นงานอยู่ใต้กางเกง จนชายหนุ่มยกตัวแล้วดึงมันทิ้งอย่างไม่สนใจ

            “มาสิ ฮยอกแจ” เสียงคำรามต่ำที่แฝงอันตรายบอกมาจากด้านหลัง จนคนฟังที่กำลังยันมือกับโต๊ะตรงหน้าแทบจะทรุดไปกองกับพื้น ดวงตาเรียวยาวที่ฉ่ำด้วยหยดน้ำก็หันกลับมาสบตา แล้วก้มมองแก่นกายใหญ่ที่บ่งบอกชัดถึงความต้องการ

            หมับ

            ร่างเล็กขยับตัวหันหน้ากลับเข้ามาในอ้อมกอดแกร่งอีกครั้ง มือเรียวกอดหมับเข้าที่ลำคอของคนรัก เรียวปากหวานฉ่ำขยับไปบดเบียดแนยชิดกับปากอีกฝ่ายจนได้รับจูบที่แสรเร่าร้อนเสียจนร่างแทบไหม้ เรือนกายช่วงล่างต่างขยับเข้าเสียดสีกันจนอุณภูมิในห้องยิ่งพุ่งขึ้นสูง

            “อึ้ก!!!!” ฮยอกแจได้แต่ร้องครางในลำคอ ยามที่เป็นฝ่ายยกตัวแล้วกดกายลงครอบครองแท่งเนื้อร้อนใหญ่โต ความร้อนผ่าวที่ทำให้ร่างกายแทบจะทนไม่ไหว ความเสียวซ่านสาดซัดเข้ามาในร่างพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงที่ข้างแก้ม

            “อาห์ ฮยอกแจ...แน่น...แน่นมาก...” ฮันคยองที่ขยับมาซุกที่ซอกคอขาวคำรามก้อง มือใหญ่กระชับเอวเล็กเอาไว้แน่น ยามที่ดันตัวขึ้นไปในช่องทางเล็กอีกแรง รับรู้ถึงความน่ารักที่โอบเขาจนร้อนผ่าวไปหมด

            เพียงแค่สอดเข้าไป เขาก็แทบจะถึงจุดหมายปลายทาง

            “อ้ะอ๊า...พะ...พี่ฮัน...ฮื้อ...” ใบหน้าสวยเอนซบกับไหล่กว้าง ยามที่กดกายลงไปจนสุด เสียงหอบหายใจดังห้องไปทั่วห้องกว้าง ยามที่ขยับใบหน้ามาสบกับดวงตาคู่คมที่วาววับด้วยแรงอารมณ์

            “ไหวมั้ย ฮยอกแจ” คนตัวเล็กที่กดกายลงมานิ่งๆ ทำให้ฮันคยองห้ามอารมณ์ที่กำลังจะสวนกายกลับไปแรง เสียงทุ้มถามอย่างเป็นห่วง ยามที่ขยับไปกดจูบซับน้ำตาที่เปลือกตาเบาๆ จนลูกไก่ตัวน้อยกดหน้าแรงๆ

            “วะ...ไหวฮะ...อึ้ก...” คนที่ว่าไหวขย่มตัวลงมาเบาๆ ความเสียวซ่านที่ได้รับก็ทำเอาสะดุ้งสุดตัว มือเรียวกอดรอบลำคอแกร่งมั่น ยามที่ดึงกายออกแล้วกดลงมาช้าๆ

            การกระทำแสนเนิบนาบที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อฮยอกแจปรับตัวได้

            “อ้ะอ๊า...อ๊า....อื้อ...” เสียงหวานหวีดดังก้อง เมื่อแท่งเนื้อร้อนกระแทกเข้าที่จุดอารมณ์ภายใน มือเรียวยิ่งจิกเข้าไปบนบ่ากว้างมากขึ้น ยามที่ฮันคยองกำลังซุกไซ้ไปทั่วแผ่นอกบอบบาง มือใหญ่ก็ประคองสะโพกมนมั่น เพื่อกระแทกกายกลับเข้าไปด้วยจังหวะที่แรงขึ้น

            “อาห์...ฮยอกแจ...สุดยอดเลย...” เสียงทุ้มคำรามต่ำ ยามที่กระแทกกายเข้าไปโดนจุดอารมณ์ภายในทุกครั้ง จนคนตัวเล็กหวีดก้อง ช่องทางสีสดก็ขมิบถี่แรงทุกครั้งที่เขาเข้าไป

            พั่บๆ

            เสียงเนื้อกระทบเนื้อยิ่งดังก้องไปทั่วทั้งห้องกว้างมากยิ่งขึ้น มือใหญ่ก็บีบคลึงสะโพกมนแรงๆ เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมไปทั่วกาย ยามที่ทั้งสองประกบจูบเข้าหากันครั้งแล้วครั้งเล่า

            อารมณ์ร้อนๆ ที่กำลังทำให้ทั้งห้องถึงจุดเดือด

            “อ้ะ...อ๊า...อ๊า...พี่ฮันนนนนน...อ๊าาาา!!!” เสียงหวานหวีดร้องออกมาก้องห้องกว้าง ยามที่กดกายลงมาครั้งสุดท้าย ปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะเปรอะเปื้อนแผ่นท้องแกร่ง ใบหน้าสวยเอนซบที่ไหล่กว้างยามที่ชายหนุ่มจัการพลิกร่างเล็กให้นอนราบไปกับโซฟาตัวใหญ่

            ใบหน้าคมคายที่ฉายชัดถึงอารมณ์อยู่เหนือร่างที่ฮยอกแจกอดคอเอาไว้แน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองคนรักที่กำลังหอบหายใจแรงๆ แล้วกดกายไปเพียงไม่กี่ที เสียงทุ้มก็คำรามก้อง ก้มลงมาประกบปากกับคนตัวเล็กที่เผยอปากรับอย่างเต็มใจ

            ร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆ กับน้ำรักที่ไหลอาบไปทั่วเรียวขาขาว เสียงหอบหายใจดังก้องไปทั่วทั้งห้องกว้าง ยามที่ฮันคยองก้มลงมากดจูบที่แก้มนุ่มอย่างแสนรัก



            “จะทำให้ฉันทั้งรักทั้งหลงไปไหนหืม ฮยอกแจ” มาเฟียหนุ่มบอกชิดริมหู กดจูบที่กกหูเบาๆ จนคนฟังหน้าแดงจัด ใบหน้าสวยก็เอนซบกับไหล่กว้างแล้วงึมงำเบาๆ

            “ผมก็รักพี่นะฮะ”

            “แล้วไม่หลงฉันบ้างหรือ” คำถามของคนตัวโตที่คนฟังยิ่งแก้มแดงจัด ซุกอกกว้างอย่างเขินแสนเขิน

          ก็ดูพูดเข้าสิ

            “ว่าไง ฮยอกแจ” แต่เมื่อมาเฟียหนุ่มเร่งอีกนิด คนขี้กลัวก็ได้แต่ตอบเบาๆ

            “กะ...ก็หลงฮะ” ก็รักอยู่คนเดียวจะไปหลงใครที่ไหนเล่า

            คำตอบที่ทำให้ฮันคยองยิ้มกว้างอย่างพอใจ มือใหญ่ก็โอบกระชับร่างเล็กมั่น แล้วดึงมานั้งตักทั้งที่ยังเชื่อมต่อกันจนฮยอกแจได้แต่ครางประท้วงในลำคอ

            “เราไม่ได้กลับบ้านตั้งเดือน...มาระลึกความหลังให้ครบทุกมุมดีมั้ย” คำพูดง่ายๆ ของมาเฟียรูปหล่อที่ทำให้ฮยอกแจเบิกตากว้าง ใบหน้าสวยเผลอเหลียวไปมองรอบห้องชุดสุดหรู พร้อมกับความคิดที่วิ่งวูบเข้ามาในใจ

          ทะ...ทุกมุม อย่างนี้ไก่ก็ตายแน่น่ะสิ...ในเมื่อ...ก็ทำกันมาทุกมุมในห้องนี้แล้ว ฮือ สงสัยไก่ไม่ต้องไปนอนค้างบ้านพ่อแม่แล้วล่ะ กว่าจะระลึกครบทุกมุมคง...อีกสักสามวัน ฮือออออ ไก่อยากทึ้งหัวววว

..................................................................

          

            ในเวลาบ่ายที่ค่อนไปทางบ่ายแก่ๆ บ้านหลังน้อยที่ช่วงหลังไม่ค่อยมีใครอยู่ ด้วยคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องทำงานต่างจังหวัด ส่วนคนเป็นลูกก็ถูกมังกรหิ้ว วันนี้กลับอยู่กันพร้อมหน้ารวมทั้ง...พ่อลูกเขยมาเฟียที่นั่งนิ่งอยู่กลางห้องรับแขกด้วยอีกคน

            “ไม่ได้เจอพ่อแม่นานนะครับ” ฮันคยองบอกพลางยกมุมปากขึ้นน้อยๆ อย่างหวังลดความน่ากลัวของใบหน้าลงอีกสักนิด แต่มันกลับทำให้ชายหญิงวัยกลางคนทำได้เพียงยิ้มกลับแห้งๆ เหลือบไปมองลูกชายสุดที่รักที่ดูจะอ่อนเพลียไม่น้อยแทน

          คือผ่านไปกี่ปี พ่อก็ยังกลัวน่ะนะลูก

            ความคิดของคนเป็นพ่อที่ส่งสัญญาณให้ลูกชายตัวน้อยให้ช่วย บ่งบอกว่าเวลาที่ผ่านมาหลายปีไม่ได้ทำให้ครอบครัวคนธรรมดาฐานะปานกลางครอบครัวนี้สนิทกับครอบครัวมาเฟีย...ไม่สิ ลูกเขยมาเฟียสักเท่าไหร่

            ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้ามุนฮวาลุกขึ้นมาเถียงกับคนอย่างคิมคิบอมหน้าดำหน้าแดงได้ยังไง

            “ก็...เอ่อ...ก็เดือนกว่าแล้วนะ...ตะ...ตาฮัน” คำเรียกขานที่ตะกุกตะกักนิดๆ ทำให้ฮันคยองเผลอขมวดคิ้วฉับ

            เฮือก

            เพียงแต่ท่าทางธรรมดา (สำหรับคนรอบตัวฮันคยอง) แต่ดูโคตรน่ากลัวสำหรับบ้านนี้ ทั้งพ่อทั้งแม่ลีก็สะดุ้งน้อยๆ เผลอใจหล่นวูบว่าไปตอบคำถามไม่ถูกใจอีกฝ่ายหรือเปล่า จนชายหนุ่มนึกอยากกุมขมับ

            นี่เขาพยายามทำตัวดีๆ ไม่แสยะยิ้มเวลาอยู่ต่อหน้าแล้วนะ

            ร่างสูงได้แต่คิดอย่างไม่เข้าใจว่าเขาน่ากลัวตรงไหน มือใหญ่ก็โอบรอบเอวเล็กของฮยอกแจมั่น สัมผัสถึงคนรักที่นั่งข้างๆ แล้วเข้าใจว่าทำไมคนอย่างเขาต้องพยายามไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้...ทั้งหมดก็เพราะคนขี้กลัวที่นั่งยิ้มแห้งๆ อยู่ข้างเขา

            เขาก็อยากปรับตัวเข้ากับบ้านหลังนี้เหมือนกัน

            “พ่อฮะ แม่ฮะ พี่ฮันเขาเอาของมาฝากจากจีนด้วยนะฮะ หม่าม๊าเพ่ยอิงก็ฝากของมาเพียบเลย” แล้วคนตัวเล็กก็ว่าเสียงใส พยายามทำให้บรรยากาศในบ้านดูผ่อนคลายลงอีกนิด ทั้งยังหันไปช้อนตามองคนข้างกายทำนองให้ช่วยพูด จนคนที่กำลังปั้นหน้าไม่ถูกรับคำ

            “ครับ...ผมซื้อของมาฝากจากจีน ไม่รู้พ่อกับแม่จะชอบมั้ย” คำตอบรับที่ฮยอกแจได้แต่มองอย่างเป็นห่วง ก็ใครๆ ก็รู้นี่นาว่าพี่ฮัน...อืม...ไม่ค่อยจะพูดสุภาพกับใครสักเท่าไหร่ เท่าที่เห็นก็มีพ่อแม่เขาเนี่ยล่ะ

            ท่าทางของลูกเขยที่ดูจะไม่น่ากลัวเท่าเมื่อก่อน ทำให้คนฟังพอจะเบาใจ รับรู้ว่าคำตอบก่อนหน้าไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ

            “ขอบใจมากนะ ตาฮัน...แล้ววันนี้...” มารดาของฮยอกแจว่าเบาๆ แล้วหันกลับไปหาลูกชาย ทำนองถามว่าจะกลับมานอนค้างที่บ้านหรือเปล่า แววตาของคนเป็นแม่ที่บอกว่าคิดถึงมากมายทำให้ร่างเล็กน้ำตารื้น จนคนที่เฝ้ามองอยู่ยอมปล่อยจาเอวบาง

            หมับ

            “คิดถึงพ่อกับแม่จังเลยฮะ” ฮยอกแจว่าเสียงอ้อน ยามที่โผเข้ามากอดบิดามารดาอย่างแสนคิดถึง จนชายหนุ่มอดจะยกยิ้มไม่ได้

            RRRRRrrrrr

            แต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ของฮันคยองก็ดังแทรกความเงียบขึ้นมา จนชายหนุ่มที่ล้วงมันขึ้นมาดูต้องเอ่ยขอตัวเสียงเบา แล้วก้าวไปอีกทาง จนทั้งพ่อทั้งแม่ที่เงียบกว่าปกติพอจะยิ้มออก

            ใครที่ไม่เคยมีลูกเขยเป็นมาเฟียไม่เข้าใจหัวอกพวกเขาหรอก

            “ว่าแต่ วันนี้ลูกจะกลับมาค้างที่บ้านหรือเปล่า พ่อกับแม่คิดถึงลูกมากเลยนะ” มารดาคนสวยบอกพลางลูบหลังบอบบางอย่างเบามือ จนคนที่จ่ายค่าตอบแทนที่จะกลับมาค้างบ้านหน้าแดงแปร๊ด นึกย้อนไปถึงการรับศึกหนักจากคนตัวโต แล้วรีบพยักหน้าแรงๆ มือเรียวก็กอดมารดาแน่น

            “ค้างฮะ ฮยอกขอพี่ฮันเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะกลับมาค้างที่บ้าน”

          แต่ต้องตอบแทนด้วยการยอมถูกพี่เขากดจนกว่าจะลุกขึ้นก็เมื่อตอนบ่าย

            “จริงหรือ ดีจริงๆ เดี๋ยวพ่อลงมือทำครัวเอง” คนเป็นพ่อบอกด้วยรอยยิ้ม พลางลูบเส้นผมสีดำเหลือบแดงของลูกชายอย่างเบามือ ดวงตาที่ผ่านอะไรมามากก็จ้องมองลูกชายนิ่ง แล้วพบบางสิ่งที่แปลกไป

            ฮยอกแจมีความสุขกับการได้อยู่กับหานฮันคยอง...และนั่นคือสิ่งที่คนเป็นพ่อแม่รู้สึกดี แม้จะหวาดเกรง แม้จะต้องอกสั่นขวัญแขวนทุกครั้งที่เจอกัน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาสัมผัสได้...มาเฟียคนนี้รักลูกของพวกเขาจริงๆ จนวางใจ...วางใจว่าฮยอกแจมีคนจะดูแล

            ดังนั้น เมื่อตอนที่ลูกชายบอกว่าต้องไปจีนกับฮันคยองเขาถึงอนุญาต...แต่ถึงไม่ไว้ใจยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีนี่นะ ก็พ่อลูกเขยเล่นยืนโอบเอวแสดงความเป็นเจ้าของซะขนาดนั้น

            “จริงหรือฮะ งั้นฮยอกเป็นลูกมือเอง รับรองว่าวันนี้อร่อยแน่ๆ” ฮยอกแจบอกด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างที่ทำให้คนที่ออกไปคุยโทรศัพท์เพียงครู่ยกยิ้มที่มุมปาก พอใจกับการที่เห็นลูกเจี๊ยบขี้กลัวทำหน้ามีความสุขขนาดนี้ จนเสียงทุ้มเอ่ยออกไปง่ายๆ

            “ดีสิ ฉันไม่ได้ชิมฝีมือเธอมาเกือบเดือนนี่นะ”

            ขวับ

            คำพูดของฮันคยองที่ทำให้คนทั้งบ้านหันขวับมามองอย่างพ้อมเพรียง พร้อมกับคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันน้อยๆ ฮยอกแจเริ่มสังหรณ์ใจบางอย่าง เสียงหวานจึงว่าเบาๆ

            “วะ...วันนี้พี่ฮันจะทานข้าวที่นี่หรือฮะ”

            “ใช่สิ คงไม่ปล่อยให้ฉันกลับไปกินข้าวคนเดียวที่คอนโดหรอกนะ” คำถามที่ชายหนุ่มก็ตอบกลับทันควันอย่างชัดเจน จนฮยอกแจต้องถามเพื่อความแน่ใจ

            “ละ...แล้วพี่จะกลับตอนไหนฮะ”

            ฉับ

            เพียงคำถามสั้นๆ แต่ทำให้ฮันคยองขมวดคิ้วเข้าหากันเพียงครู่แล้วคลายออก ร่างสูงที่ยืนพิงผนังก็ยกมือกอดอก นัยน์ตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์เพียงครู่แล้วตอบคำง่ายๆ

            “ใครว่าฉันจะกลับ ในเมื่อเธอจะค้างที่นี่ ฉันก็ค้างที่นี่ด้วย...ใช่มั้ยครับ” ท้ายประโยค ฮันคยองหันไปถามบุพการีของคนตัวเล็กที่เหมือนจะช็อกค้างไปเรียบร้อยแล้ว เพราะแม้ว่าฮันคยองและฮยอกแจจะคบกันมาก็กว่าสามปี แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ชายหนุ่มจะมาค้างที่นี่

            คำที่ทำให้ฮยอกแจได้แต่ว่าตะกุกตะกัก

            “ตะ...แต่ว่าพี่ให้...”

          “ฉันไม่ได้บอกสักคำว่าจะให้เธอมาค้างคนเดียว...ฉันให้เธอมาค้าง และฉันก็มาด้วยต่างหาก”

            คำตอบที่ชัดเจนเสียฟาดเปรี้ยงลงกลางใจของคนฟังทั้งสามที่นิ่งอึ้งไปเรียบร้อยด้วยความคิดที่แตกต่าง แน่ล่ะสำหรับคนเป็นพ่อแม่ แค่สบตายังยาก ให้มานอนค้างอย่างนี้คงเกร็งไม่น้อย แต่สำหรับฮยอกแจแล้ว...

          ก็บ้านไก่ไม่ได้มีระบบเก็บเสียงแบบบ้านพี่ฮันเขานะ ถ้าพี่เขาทำ...ไก่ไม่ครางลั่นบ้านเลยหรือ ฮืออ ไม่น่าเลยฮยอกแจ หลงกลพี่ฮันอีกแล้วววว แล้วที่จ่ายค่าตอบแทนเมื่อคืนคืออะไร...แงงงงงงงงงงงง

            สุดท้าย ลูกเจี๊ยบตัวน้อยก็ไม่พ้นมือมังกรตัวร้ายอยู่ดี...น่ะนะ


.................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น