วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Special CL_1 ว่าที่ภรรยา

Special CL_1 ว่าที่ภรรยา
Note: ต่อจากตอนพิเศษในเล่มจ้า หลังจากบอมขอแต่งงานที่ริมหาด


            ในเวลาเช้ามืดที่ท้องฟ้ายังไร้แสง คฤหาสน์ตระกูลคิมที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางพื้นที่มหาศาลก็กำลังเริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างสดใส และเหมือนว่าวันนี้จะสดใสกว่าทุกวันเสียด้วย ด้วยสาเหตุหลักๆ เพียงอย่างเดียว...คุณหนูดงแฮมาค้างที่นี่

            ภายในห้องครัวแสนกว้างขวาง มีสิ่งที่แปลกออกไปจากทุกวัน ด้วยเหล่าแม่บ้านหลายคนที่มักจะต้องเร่งรีบเตรียมอาหารเช้าให้ทันเจ้าของบ้านลงมากลับกำลังยืนอยู่วงนอก ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ สายตาทุกคู่ก็อดจะเมียงๆ มองๆ ภาพแสนน่ารักตรงหน้าไม่ได้

            ภาพของคนหน้าหวานที่กำลังยืนเคียงคู่กับคุณผู้หญิงของบ้านอยู่หน้าเตา

            “หนูด๊อง ช่วยแม่ดูเตานู้นหน่อยนะลูก เดี๋ยวแม่จัดการตรงนี้เอง” คุณนายคิม มารดาของคิมคิบอมที่ยังคงความสวยงามไม่สร่างซาบอกด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ขณะที่จัดการน้ำซุปอีกหม้อหนึ่ง ซึ่งคนฟังก็รับคำเสียงหวาน แล้วจัดการตามที่อีกฝ่ายต้องการ

            ดงแฮจัดการใช้ช้อนคันเล็กขึ้นมาตักชิม ก่อนที่จะหันไปจัดการปรุงรสอีกหน่อย ริมฝีปากบางเฉียบก็ปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ อย่างชอบใจ มือเรียวก็ยกฝาหม้อขึ้นปิดอีกครั้งเป็นการเสร็จสิ้นการปรุงอาหารเช้าของวันนี้ แล้วใบหน้าหวานๆ ก็หันไปมองมารดาของคนรัก

            “คุณแม่ฮะ มีอะไรให้ด๊องช่วยมั้ยฮะ ตรงนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว” ดงแฮหันไปถามเสียงใส ขณะที่จัดการจะเอาอุปกรณ์ทำครัวไปล้าง ถ้าไม่ใช่เพราะแม่บ้านหลายคนปราดเข้ามาช่วยเสียก่อน จนได้แต่ปลดผ้ากันเปื้อนสีหวานออกจากกาย

            คำถามที่ทำให้คนฟังหันมามองก่อนจะหัวเราะเบาๆ กับดวงตากลมโตที่พราววิบวับอบ่างมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ จนเธอยิ่งเอ็นดู เพียงมองตาก็รู้แล้วว่าว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอไม่ได้เสแสร้งทำให้เธอพอใจ

            “ไม่มีอะไรแล้วลูก หนูด๊องเหนื่อยมั้ย ตื่นมาทำอาหารเช้ากับแม่ตอนตีห้านี่” คุณนายคิมถามด้วยรอยยิ้มน้อยๆ พลางนึกถึงเมื่อวานเย็นที่ลูกชายพาลูกสะใภ้มาทานข้าวด้วยกันที่บ้าน แล้วก็มาค้างที่นี่ซะเลย เธอก็เลยนึกครึ้มอยากแสดงฝีมือตอนเช้าบ้าง แล้วดงแฮก็รับปากทันทีว่าจะลงมาช่วย

            พอตีห้าปุ๊บ เด็กน้อยหน้าหวานก็มารอเธอ แถมคุยเจื้อยแจ้วกับคนในครัวเสียเรียบร้อย

            “ไม่เหนื่อยฮะ ด๊องมีความสุขที่ได้ทำให้คนที่ด๊องรักทาน” ดงแฮบอกด้วยรอยยิ้มหวานๆ บอกเต็มปากเต็มคำอย่างที่คนฟังหัวเราะร่วน ก็คนที่เด็กคนนี้รักก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกชายแสนเย็นชาของเธอนี่นะ

            หญิงวัยกลางคนมองร่างบอบบางตรงหน้านิ่ง สายตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานจ้องมองใบหน้าเรียวสวยที่แสนมีเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มน่ารัก ดวงตากลมโตที่ยังแฝงด้วยความไร้เดียงสาที่ยิ่งมองก็ยิ่งเรียกความเอ็นดูให้พุ่งวาบเข้ามาในหัวใจ

            เด็กคนนี้ที่ทำให้ลูกชายเธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

            “ขอบคุณมากนะลูก”

            “ฮะ?” ดงแฮเอียงคอน้อยๆ เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็ขอบคุณเขาเสียเฉยๆ จนต้องหันมามองทั้งตัว จนเจอกับรอยยิ้มเอ็นดูที่ถูกส่งมา แล้วผู้ใหญ่ตรงหน้าก็เลื่อนมือมาลูบเส้นผมนุ่มเบาๆ สัมผัสแสนอ่อนโยนที่เหมือนแม่ซอนแฮของเขา

            “ขอบคุณหนูมาก แม่ไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้มานานมากแล้ว เพราะต้องไปต่างประเทศกับพ่อเขาบ่อยๆ คิบอมคงลืมรสมือแม่ไปนานมากแล้ว ถ้าไม่ได้หนู แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้กลับเข้าครัวมาทำอะไรอย่างนี้หรือเปล่า ขอบคุณที่ลงมาช่วยแม่นะ” เสียงหวานๆ ที่ดงแฮนิ่งไปนิด ก่อนที่รอยยิ้มหวานจะปรากฏที่ริมฝีปาก มือเรียวก็เลื่อนไปกอดเอวของคนตรงหน้าเอาไว้แน่น

            “ฮะ ถ้าแม่มีอะไรให้ด๊องช่วย บอกด๊องได้เลยนะฮะ ด๊องเต็มใจทำทุกอย่าง” ดงแฮบอกเสียงหวานที่ทำให้คนฟังยิ้มบาง แล้วเอ่ยแซวอย่างขำๆ

            “ทำทุกอย่างให้ตาลูกชายแสนเย็นชาของแม่ใช่มั้ยล่ะจ๊ะ” เสียงแซวที่ไม่ได้ทำให้คนฟังเคอะเขิน นอกจากใบหน้าสวยที่กดขึ้นลงเร็วๆ

            “ฮะ ด๊องทำให้พี่คิบอมได้ แต่ว่า...พี่คิบอมไม่ได้เย็นชาสักหน่อย” ดงแฮแย้งเบาๆ อย่างไม่เห็นด้วย พลางช้อนตากลมโตขึ้นมามองตาแป๋ว จนคนฟังหัวเราะ

            “ลูกชายแม่ไม่เย็นชากับหนูคนเดียวนั่นแหละ...ว่าแต่ แม่จะถามว่าช่วงนี้หนูเหนื่อยมั้ยลูก ต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวน่ะ” คุณแม่คนสวยถามไปอีกเรื่องที่ทำให้แก้มขาวๆ เริ่มขึ้นสีระเรื่อ แล้วใบหน้าสวยก็ส่ายไปมาน้อยๆ

            ก็ถึงจะช้ายังไง เขาก็รู้ตัวนะว่ากำลังจะเป็นเจ้าสาวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าน่ะ

            ตั้งแต่เมื่อวันที่พี่คิบอมขอเขาแต่งงานที่ริมหาดก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วนี่นา งานแต่งงานเล็กๆ ที่มีเพียงแค่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาฉลองให้กันเท่านั้น และถึงแม้มันจะเป็นงานแต่งที่จัดกันเฉพาะคนสนิท แต่ก็ยังไม่ถือว่าสมบูรณ์ เพราะตระกูลคิมเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ยังไงก็ต้องมีการจัดงานให้สมเกียรติ

            ตอนนี้ ลีดงแฮจึงยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่กับคิบอมถาวร ต้องรอจัดงานแต่งที่อยู่ในช่วงเตรียมการผ่านพ้นไปก่อน แล้วช่วงนี้ใครว่าดงแฮอยู่ไปเปล่าๆ คนสวยแสนช้าแห่งชมรมคหกรรมต้องเรียนอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายสำหรับการเข้ามาเป็นภรรยาของคิมคิบอม ยังไม่นับรวมการขัดเนื้อขัดตัว อาบน้ำแร่แช่น้ำนมที่มารดาของคิบอมจัดการให้อีกนั่นแหละ

            เรียกว่า...เหนื่อยเอาเรื่องเลยทีเดียว

            “ก็...เหนื่อยบ้างฮะ แต่เห็นพี่คิบอมเหนื่อยกว่า ด๊องก็ไม่เหนื่อยแล้ว” คนตัวเล็กนิ่งไปนิด ก่อนที่ใบหน้าสวยจะส่ายดุ๊กดิ๊กไปมา เสียงหวานก็ตอบคำอย่างน่ารัก พลางคิดถึงคนรักรูปหล่อที่แม้จะทำตัวเป็นปกติ แต่เขามองออกนี่นาว่าพี่คิบอมน่ะ...เหนื่อยกว่าเขาตั้งเยอะ
           
            ก็ถ้าเป็นเรื่องของพี่คิบอม ลีดงแฮคนนี้มั่นใจว่ารู้มากกว่าใครเพื่อนนี่นา

            “ตอบน่ารักอย่างนี้ ไม่น่าล่ะ คิบอมถึงรักหนูขนาดนี้” คนฟังหัวเราะ ก่อนจะบอกอย่างเอ็นดู

            “งั้นลูกสะใภ้แม่ไปปลุกลูกชายแม่ได้แล้วล่ะ ทุกทีน่าจะตื่นมาออกกำลังแล้วนี่นา” คำพูดที่เปรยๆ กับตัวเองทำให้ดงแฮส่ายหน้าน้อยๆ แล้วส่งผ้ากันเปื้อนที่พับแล้วให้กับแม่บ้านอีกคน ใบหน้าหวานก็มุ่ยลงน้อยๆ แล้วบอก

            “เมื่อคืนพี่คิบอมทำงานถึงดึกเลยฮะ กว่าจะอ้อนให้กลับมานอนได้ก็ตั้งนาน” ดงแฮบอกอย่างไม่ปิดบัง แต่ทำเอาสาวใช้หลายคนหน้าแดงน้อยๆ พากันนึกถึงวิธีอ้อนของคนน่ารักตรงหน้าแล้วก็อดเขินแทนไม่ได้ แต่เหมือนคนพูดจะไม่รู้ตัว เพราะเพียงพักเดียวก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานๆ ให้

            “งั้นด๊องไปปลุกพี่คิบอมก่อนนะฮะ” ว่าแล้ว ร่างบางก็หันหลังวิ่งดุ๊กๆ ออกไปนอกห้อง เรียกสายตาของมารดาพี่คิบอมให้มองตามแล้วอดจะอมยิ้มไม่ได้

            “นี่เจ้าตัวเขาจะรู้มั้ยนี่ว่าทำหน้าที่เป็นภรรยาเต็มตัวแล้ว” คำถามที่แม่บ้านคนเก่าคนแก่ได้แต่ตอบคำด้วยเสียงหัวเราะ

            “น่าจะไม่รู้ค่ะคุณผู้หญิง แต่ทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่องเลยนะคะ”

            “นั่นสินะ” คำตอบที่ทำให้คนในห้องอดจะหัวเราะไม่ได้

            ก็ตอนนี้ แม้จะยังไม่ได้ย้ายเข้ามาเต็มตัว แต่ลีดงแฮจะรู้ตัวมั้ยว่าทำหน้าที่เป็นภรรยาของคิมคิบอมเรียบร้อยแล้วน่ะ

................................................................


ต่อค่ะ

            “พี่คิบอมฮะ”

            ดงแฮเปิดประตูห้องนอนเข้ามาอย่างเบามือ ใบหน้าสวยก็โผล่เข้ามาก่อน แต่ห้องนอนที่ยังคงเงียบสนิทเหมือนยามที่เขาก้าวออกไป ทำให้ร่างบางก้าวเข้ามาเสียงเบา แล้วขยับเข้าไปหาเตียงนอนหลังใหญ่ที่แยกออกเป็นสัดส่วนจากห้องรับแขกภายในห้อง

            เวลานี้ บนเตียงนอนหลังใหญ่ยังคงมีร่างของชายหนุ่มร่างสูง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคายนอนหลับสนิทอยู่ จนร่างเล็กขยับตัวเข้าไปหาช้าๆ แล้วทรุดนั่งที่ขอบเตียง ดวงตากลมโตกวาดมองทั่วใบหน้าก่อนที่ริมฝีปากจะยู่เข้าหากัน

            “พี่คิบอมทำงานไม่ยอมพักอีกแล้วใช่มั้ยฮะ” ดงแฮพึมพำเบาๆ เวลากว่าสองปีที่คบกันมาทำให้เขารู้ดีว่าพี่คิบอมน่ะชอบทำงานหนักๆ แล้วไม่ยอมพัก แล้วยิ่งสัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ เขามาค้างกับพี่คิบอมแค่สองวัน เผลอๆ คงเป็นแค่สองวันที่คนตรงหน้ายอมพักผ่อน

            ก็ถ้าเป็นเรื่องของคนๆ นี้ เขารับรู้ทุกอย่างนี่นะ

            คนหน้าหวานนั่งมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่แก้มใสๆ จะแดงเรื่อขึ้นมาทีละน้อย มือเรียวก็เลื่อนไปลูบที่แก้มสากเบาๆ แล้วใช้ปลายนิ้วแตะที่แนวกรามแกร่ง เสียงหวานก็พึมพำเบาๆ

            “พี่คิบอมหล่อจังเลยนะฮะ” เสียงพึมพำเบาๆ ที่ฟังดูก็รู้ว่าคงเขินไม่น้อย ทำให้คนแกล้งทำเป็นหลับอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก แต่คิบอมก็ยังคงนอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น เพื่อรอดูว่าดงแฮจะทำอะไรต่อ

            คนหน้าหวานยังคงนั่งมองชายหนุ่มตรงหน้านิ่ง ก่อนที่นัยน์ตาสวมจะเหลือบมองนาฬิกาข้างหัวเตียงแล้วพบว่ายังพอมีเวลา ร่างเล็กๆ เลยจัดการเอนตัวลงนอนข้างร่างสูงอีกครั้ง มือเรียวก็เอื้อมไปกอดท่อนแขนแกร่งเอาไว้มั่น

            จุ๊บ

            แล้วริมฝีปากได้รูปก็กดจูบที่แก้มสากเบาๆ จนคนได้รับใจเต้นแรงขึ้นอีกนิดกับความน่ารักที่ไม่เคยลดน้อยลงเลย มีเพียงแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน

            “ด๊องรักพี่คิบอมนะฮะ”

            หมับ

            “ฉันก็รักเธอ” เพียงแค่ดงแฮบอกรักเบาๆ แล้วทำท่าจะซุกเข้าหาแผ่นอกอุ่นๆ อ้อมกอดแข็งแรงก็ตวัดรัดเข้าที่เอวบอบบางแล้วดึงเข้ามากอดเอาไว้แน่น เสียงทุ้มก็กระซิบริมหู จนคนฟังแย้มยิ้มหวาน

            ดงแฮเงยหน้าขึ้นทันทีจนสบเข้ากับดวงตาคมกริบที่ทอดมองอย่างอ่อนโยน มือใหญ่ก็กระชับเข้าที่เอวเล็กหลวมๆ อย่างที่ดงแฮไม่คิดปฏิเสธเลยว่ารู้สึกดีเหลือเกิน

            “พี่คิบอมตื่นนานแล้วหรือฮะ” แล้วก็ไม่มีเสียล่ะที่คนหน้าหวานจะเขินอาย เสียงใสก็ถามทันที ทั้งยังขยับตัวไปกดจูบที่ริมฝีปากได้รูปเบาๆ อย่างออดอ้อนให้คนได้รับหัวเราะ นัยน์ตาคมเป็นประกายวาววับขึ้นมาหน่อย

            น่ารักแต่เช้าเลยนะดงแฮ

            “เพิ่งตื่น...ตอนที่เธอเข้ามา” คิบอมกระซิบบอก ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะขยับไปชิดกับใบหน้าแสนสวย ริมฝีปากได้รูปกดจูบเข้าที่กลีบเนื้อนิ่มแล้วขบเม้มเบาๆ แล้วคนได้รับก็ไม่มีเสียล่ะที่จะปัดป้อง นอกจากเผยอปากน้อยๆ รับจูบยามเช้าที่พาให้หัวใจเต้นแรงอย่างเต็มใจ

            ความน่ารักที่ทำให้คิบอมอดไม่ได้จะกดจูบเสียอีกที

            “อรุณสวัสดิ์” คิบอมขยับไปกระซิบชิดริมหูเบาๆ ทั้งยังขบเม้มให้คนตัวเล็กหัวเราะคิก มือเรียวขยับมาโอบรอบลำคอแกร่งแล้วตอบรับเสียงหวาน

            “อรุณสวัสดิ์ฮะ” เสียงทักทายที่ทำให้ชายหนุ่มก้มมองคนน่ารักนิ่ง แววตาที่ทอดมองมาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรักอย่างที่ดงแฮบอกกับตัวเองเสมอ

            พี่คิบอมไม่เคยเย็นชา...ไม่เย็นชาสำหรับเขา พี่คิบอมอบอุ่นเสมอ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้

            “ทำไมมองด๊องอย่างนั้นล่ะฮะ” เสียงหวานถามเบาๆ ขณะที่เอียงคอน้อยๆ จนคิบอมอดไม่ได้จะก้มลงจรดปลายจมูกที่แก้มใสแรงๆ

            “ฉันอยากกอดเธออย่างนี้ทุกเช้า อยากเห็นเธอคนแรกอย่างนี้ทุกวันเลยนะ...ดงแฮ” เสียงทุ้มที่กระซิบแผ่วๆ อยู่ชิดแก้มใสเรียกให้ดงแฮแก้มแดงน้อยๆ ใจทั้งดวงมีความสุขกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอก มือเรียวก็เลื่อนไปกอดแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่น

            แม้ดงแฮจะไม่ค่อยรับรู้การเปลี่ยนแปลงหรือสิ่งรอบตัวเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังรู้นะ เขาอาจจะต้องเตรียมตัวอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่เขาไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยรู้สึกเบื่อ เพราะเขารู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้เขาทำเพื่อได้อยู่กับคนที่เขารัก แล้วก็เหมือนกัน พี่คิบอมน่ะทำเพื่อเขาหลายอย่าง เขาอาจจะไม่รู้ว่าพี่คิบอมทำอะไรบ้าง แต่แทยอนก็ชอบมากระซิบบอกเขาว่าพี่คิบอมเลือกสถานที่เอง จัดการอะไรหลายๆ อย่างเอง เพื่อให้งานแต่งออกมาดีที่สุด

            แล้วเขาก็เหมือนกัน เขาอยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเหมือนกัน...หน้าที่ของคนที่ชื่อว่าภรรยา

            “เหมือนกันฮะ ด๊องก็อยากอยู่กับพี่คิบอมทุกวันเหมือนกัน” คนน่ารักบอกด้วยรอยยิ้มหวานๆ ก่อนที่จะหัวเราะ เมื่อใบหน้าคมคายขยับมากดจูบที่แก้มใส แล้วคิบอมก็ทิ้งร่างลงมาทับคนตัวเล็กนิ่งๆ ใบหน้าคมคายซุกลงที่ซอกคอขาวผ่องอย่างที่คนน่ารักไม่ว่าอะไร นอกจากลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ

            ความอบอุ่นที่ถ่ายทอดผ่านอ้อมกอดของกัน ประสานไปกับหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

            “หนักมั้ย” คิบอมถามเบาๆ ให้คนตัวเล็กส่ายหน้าน้อยๆ

            “ไม่ฮะ พี่คิบอมเหนื่อยใช่มั้ย นอนไปก่อนก็ได้นะฮะ ยังเช้าอยู่เลย” ดงแฮตอบคำอย่างน่ารัก ไม่ว่าอะไรที่ถูกทับอยู่อย่างนี้ ก็ไม่ใช่ว่าคนตัวโตทิ้งแรงมาทั้งหมดนี่นา อีกอย่าง อยู่ในอ้อมกอดของพี่คิบอมอย่างนี้...อุ่นออกจะตาย

            “อยากอยู่อย่างนี้ทั้งวันจริงๆ” คิบอมสูดกลิ่นกายหอมหวานเข้าเต็มปอด ไล่ความเหนื่อยล้าจากการโหมงานหนักมาหลายวัน แล้วเนื้อตัวอุ่นๆ กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของดงแฮก็ทำให้เขาผ่อนคลายเสมอ

            เวลาเขาอยู่กับดงแฮ เขาเป็นแค่พี่คิบอมเท่านั้น

            “ด๊องก็อยากอยู่กับพี่ทั้งวัน...พี่คิบอมอุ่น...อุ่นมากๆ เลยฮะ” คนหน้าหวานบอกด้วยรอยยิ้ม พลางซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นที่ทำให้คนตัวโตยกมือขึ้นลูบเส้นผมนิ่มเบาๆ อย่างเอ็นดู แล้วยอมตัดใจลุกขึ้นนั่ง โดยไม่ลืมดึงคนตัวเล็กขึ้นมาด้วย ก่อนที่เขาจะเผลอทำตามใจตัวเองไปจริงๆ

            “พี่คิบอมฮะ”

            “หืม” แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นจากเตียง มือนุ่มก็คว้าเข้าที่ข้อมือแกร่งแล้วกระตุกเบาๆ ให้ใบหน้าคมคายหันไปมอง จนสบเข้ากับดวงตากลมโตที่ฉายแววห่วงใย

            “ด๊องเป็นห่วงพี่นะฮะ เวลาด๊องไม่มาค้างด้วยทีไร พี่ทำงานหนักทุกที” ดงแฮพึมพำเบาๆ พลางมุ่ยปากลงน้อยๆ ให้คนมองยกมุมปากขึ้น แล้วคิบอมก็โน้มตัวมากดจูบที่ขมับบางเบาๆ

            “ฉันอยากเลื่อนงานแต่งขึ้นมาเป็นวันนี้พรุ่งนี้ซะเลย” คำที่ทำให้ดงแฮยิ้มแห้งๆ แล้วส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กไปมา

            “พ่อไม่ยอมหรอกฮะ เลื่อนมาเร็วกว่านี้ พ่อได้โกรธด๊องแน่เลย” ดงแฮบอกเบาๆ จนคิบอมหลุดหัวเราะกับพ่อตาที่แม้จะยอมรับเรื่องของพวกเขาแล้ว แต่ก็ยังหวงลูกหนักไม่ต่างจากเมื่อก่อน อาจจะเพลาๆ ลงบ้างหลังจากวันที่ชายหาด แต่ก็ยังหวงมากอยู่ดี

            “แล้วก็...พี่คิบอมยังไม่ตอบด๊องเลย...พักบ้างนะฮะ” แล้วปลาน้อยความรู้สึกช้าก็ยังวกกลับมาเรื่องเดิม จนคิบอมยิ้มจาง ร่างสูงทรุดนั่งเคียงข้างคนตัวเล็กอีกครั้ง แล้วยกมือโอบเข้าที่ไหล่บอบบาง ชอบความรู้สึกยามที่ดงแฮกำลังเป็นห่วงเขาอย่างนี้

            ดวงตาคู่คมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยนิ่ง...นานเสียจนแก้มใสๆ ขึ้นสีระเรื่อมากขึ้นเรื่อยๆ จนแดงก่ำ จากนั้นคนที่ไม่ค่อยรับรู้ถึงอะไรเท่าไหร่ก็ได้แต่อุบอิบเบาๆ

            “มองด๊องอย่างนี้ ด๊องก็เขินเหมือนกันนะฮะ” ว่าแล้วก็ซุกหน้าเข้าหาไหล่แกร่ง จนคิบอมหลุดยิ้มออกมา แล้วเสียงทุ้มก็เอ่ยบอกอย่างหนักแน่น

            “ดงแฮ ตอนนี้ที่ฉันทำงานให้หนักเพราะอยากจัดการงานแต่งของเราให้ดีที่สุด แล้วเมื่องานแต่งงานเราผ่านไปแล้ว ฉันจะได้มีเธอมาคอยห่วงใย มีเธอมาคอยบอกว่าฉันควรจะพักตอนไหน...เพราะฉะนั้น ตอนนี้ขอฉันทำงานให้หนัก ให้สมกับการได้เธอมาเป็นภรรยาในอนาคต...นะ” เพียงแค่เสียงทุ้มเอ่ยอย่างจริงจัง เด็กดีของคุณแม่ลีก็พร้อมจะรับฟังทุกอย่าง แล้วพอคิมคิบอมบอกลงท้ายราวกับอ้อนอย่างที่ไม่เคยมีใครได้ยินนอกจากคนน่ารักคนนี้ มีหรือที่ดงแฮจะไม่ตกลง

            หมับ

            “ด๊องก็จะพยายามนะฮะ ด๊องช้าไปบ้าง ไม่ค่อยรู้อะไร แต่ด๊องจะพยายามเป็นภรรยาที่ดีของพี่คิบอม” คนตัวเล็กขยับมาซบหน้าเข้าที่แผ่นอกแข็งแกร่ง เสียงหวานบอกเบาๆ ทว่าก็หนักแน่นในที เรียกให้คนฟังยิ้มกว้างอย่างไม่ยากเย็น

            เมื่อใดที่มีดงแฮ คนยิ้มยากก็ยิ้มง่ายขึ้นมาทันตาเห็น

            “ทำตัวน่ารักอีกแล้วนะดงแฮ” คิบอมกระซิบเบาๆ ก้มลงจรดปลายจมูกที่แก้มนุ่ม ก่อนจะยอมตัดใจจากร่างนุ่มนิ่ม เพื่อก้าวไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับจัดการงานในวันนี้ต่อ โดยมีคนตัวเล็กที่อมยิ้มน้อยๆ มือเรียวลูบแก้มแดงก่ำป้อยๆ มองตามจนลับสายตา

          พี่คิบอมทำด๊องเขินอีกแล้ว

            แล้วดงแฮก็นั่งเขินเพียงแต่พักเดียวเท่านั้น ร่างเล็กๆ ก็ลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น แล้วจัดการงานประจำที่ทำทุกครั้งเมื่อมาค้างกับพี่คิบอม

            เขาทำตามอย่างที่แม่ซอนแฮทำให้พ่อในทุกๆ วันนี่นะ

................................................................

            เมื่อคิบอมก้าวออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเดียว นัยน์ตาคมก็ตวัดมองไปยังปลายเตียงก่อนเป็นอันดับแรก แล้วสิ่งที่เห็นก็ทำให้ริมฝีปากได้รูปขยับขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างง่ายดาย ในเมื่อเสื้อผ้าของวันนี้เตรียมไว้พร้อมแล้ว พร้อมกับเนคไทอีกสามเส้นที่วางเป็นระเบียบให้เขาเลือกเอง

            ชายหนุ่มกวาดมองไปรอบห้องแล้วพบว่าคนน่ารักของเขาคงลงไปข้างล่างแล้ว จนได้แต่แต่งตัวอย่างรวดเร็ว แล้วก้าวออกจากห้องด้วยอารมณ์ที่ดีเหมือนทุกครั้งที่มีดงแฮมาค้างด้วยกัน

            “ได้ฮะ วันนี้ด๊องเข้าไปคุยกับพ่อเองฮะ” เพียงแค่คิบอมก้าวเท้าเข้ามาในห้องอาหาร ภาพที่เห็นก็ทำให้นัยน์ตาคมอ่อนแสงลงอย่างง่ายดาย

            ภาพของคนน่ารักที่กำลังคุยเจื้อยแจ้วกับมารดาของเขาที่โต๊ะอาหาร โดยมีบิดาเขานั่งฟังอย่างตั้งใจ รอยยิ้มน่ารักที่ประดับบนริมฝีปากเรียกความสดใสให้กับคฤหาสน์แห่งนี้อย่างที่ดงแฮทำได้เสมอ

            “อ่ะ แม่ฮะ เดี๋ยววันมะรืนนี้ ด๊องคงเข้ามาหาแม่ไม่ได้นะฮะ พอดีฮยอกกลับมาจากจีนแล้วจะแวะมาหาน่ะฮะ” ดงแฮยังคงคุยกับมารดาคนรัก ซึ่งคนฟังก็พยักหน้ารับคำ

            “ได้จ้ะ ไม่มีปัญหา หนนี้ตาฮันเอาหนูฮยอกแจไปจีนด้วยเป็นเดือน แม่ก็ได้ยินมาบ้างว่าพาไปเปิดตัวที่โน้น...อ้าว คิบอม มาเร็วลูก เดี๋ยวอาหารเช้าฝีมือแม่และลูกสะใภ้จะเย็นหมด” เพียงแค่หันมาเห็นลูกชายแสนเย็นชากำลังก้าวเข้ามา คุณแม่ยังสาวก็บอกด้วยรอยยิ้ม เรียกให้คิบอมขยับมานั่งที่ประจำอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหน ถ้าไม่ใช่...ข้างดงแฮ

            จากนั้น คนที่ไม่ค่อยชอบแสดงความรู้สึกเท่าไหร่ก็ลูบหัวเล็กเบาๆ อย่างที่ได้รับรอยยิ้มน่ารักตอบกลับมา ท่าทางของคนทั้งสองที่ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ จนทำให้คนเป็นแม่นึกยินดี

            หลังจากนั้น อาหารเช้าที่มีคนตัวเล็กคอยเรียกบรรยากาศที่สดใสก็ดำเนินไปเรื่อยๆ โต๊ะอาหารตระกูลคิมที่ไร้เสียงหัวเราะมานาน...นานจนกระทั่งมีคนตัวเล็กคนนี้เข้ามาในชีวิต

            นัยน์ตาคมที่ทอดมองคนข้างกายแทบตลอดเวลา ทำให้คนเฝ้ามองทั้งสองอดจะยิ้มไม่ได้ พวกเขารู้เลยว่าคนที่นำชีวิตชีวาคืนมาให้แก่คิบอมน่ะ มีแค่คนน่ารักที่กำลังแจกรอยยิ้มหวานๆ ไปทั่วคนนี้เท่านั้น

            “งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ วันนี้แม่จะพาดงแฮไปไหน โทรบอกผมแล้วกันนะครับ ผมจะไปรับตอนเย็น” คิบอมหันไปบอกพ่อแม่ของตัวเอง จนคนฟังหัวเราะเบาๆ

            “โอเคจ้ะ เดี๋ยวแม่โทรหานะ ไปเถอะ หนูด๊องก็ไปส่งพี่เขานะลูก” คุณนายคิมบอกอย่างเอ็นดู ขณะที่มองลูกชายที่เติบโตมาเป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมกำลังเดินโอบไหล่บอบบางของลูกสะใภ้ที่เธอทั้งรักทั้งหลงให้ก้าวไปด้วยกัน แล้วอดจะหันไปหาคนเป็นสามีไม่ได้

            “คิบอมหลงเมียเอาเรื่องนะคะเนี่ย” คำถามที่ทำให้คนฟังยิ้มบาง แล้วกดหน้ารับคำภรรยาอย่างไม่คิดแย้ง

            ไม่ว่าใครเห็นก็คงคิดเหมือนกันล่ะว่าคิมคิบอมน่ะ หลงว่าที่ภรรยาสุดน่ารักมากแค่ไหน

.........................................................................

            “พี่คิบอมยังไม่ไปทำงานหรือฮะ มองหน้าด๊องทำไมกัน”

            บริเวณหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ดงแฮกำลังยืนเอียงคอน้อยๆ มองใบหน้าคมคายของร่างสูงที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ทั้งที่คนรถเตรียมรถไว้พร้อมแล้ว ดวงตาคู่คมก็เหมือนจะยิ้มได้ ที่เรียกอาการหน้าร้อนแปลกๆ จากคนตัวเล็ก

            “งือ มองอย่างนี้ ด๊องก็เขินเหมือนกันนะฮะ” เสียงหวานพึมพำเบาๆ ที่ทำให้คนฟังหัวเราะในลำคอ มือใหญ่ก็ยื่นมาแตะที่แก้มนุ่มเบาๆ แล้วเลื่อนมาดันปลายคางให้เงยขึ้น

            สายตาคู่คมที่ทอดมองมา แม้จะยังดูนิ่งเย็นสำหรับคนอื่น แต่สำหรับดงแฮแล้ว มันนุ่มละมุนจนใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น จนทำให้คนน่ารักกัดปากนิดๆ แล้วมือเรียวก็เลื่อนไปกอดเอวสอบ จากนั้นก็ยืดตัวไปกดจูบที่ริมฝีปากได้รูปเบาๆ

            “ตั้งใจทำงานนะฮะ” ดงแฮขยับไปกระซิบริมหูอย่างน่ารัก จนคนฟังกดจูบที่ขมับบางเบาๆ อย่างอ่อนโยน แล้วก็เอ่ยต่อ

            “เดี๋ยวเย็นนี้เจอกัน แล้วอาจจะแวะไปทานข้าวกับแม่ซอนแฮด้วย โอเคมั้ย” คิบอมบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มีมอบให้แก่เด็กน้อยในอ้อมกอดเท่านั้น จนคนฟังกดหน้าหงึกหงักอย่างยินดีที่อีกฝ่ายจะไปทานข้าวบ้านเขา ร่างเล็กๆ ก็ขยับไปหอมแก้มซ้ายขวาอย่างไม่อายสายตาใคร

            “จริงนะฮะ เย็นนี้แวะไปบ้านด๊องนะฮะ” คำถามที่คิบอมพยักหน้ารับ

            “ไปบ้านเธอแล้วกัน” คิบอมรับคำง่ายๆ พอใจที่เห็นคนตัวเล็กมีความสุข ก่อนที่มือใหญ่จะยอมคลายจากไหล่บอบบางแล้วก้าวลงจากบ้าน

            “เย็นนี้เจอกัน”

            “ฮะ ตั้งใจทำงานนะฮะพี่คิบอม” ดงแฮแย้มยิ้มหวาน มือเรียวก็ยกขึ้นโบกน้อยๆ มองคนที่ก้าวขึ้นรถคันหรูด้วยดวงตาที่พราววิบวับ รับรู้ได้ดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ แล้วมันก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเรา...เหมือนสามีภรรยากันเลย

            แม้ว่าตอนนี้สำหรับคนทั้งคู่ พิธีการทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย แต่...สำหรับความรู้สึกแล้ว หนูด๊องแด๊งคนน่ารักที่ช้าแสนช้าก็เป็นภรรยาของอดีตประธานสภานักศึกษาแสนเย็นชาอยู่ดี...หรือไม่จริงล่ะ ^^


...............................................................



1 ความคิดเห็น: