วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

NC_ปาฏิหาริย์รัก มนตราแห่งหัวใจ 20


NC ปาฏิหาริย์รัก มนตราแห่งหัวใจ_20



            “เจ้าช่างหอมหวานกว่าผู้ใดที่ข้าเคยประสบพบเจอน้ำคำหวานหูกระซิบชิดริมปาก ก่อนที่จะเรียวปากจะกดย้ำลงไปอีกครั้ง เรียกเสียงครางผะแผ่วจากร่างน้อยที่รู้สึกว่าทั้งร่างร้อนรุ่มขึ้นมา ใบหน้าสวยเงยขึ้นรับความปรารถนาที่อีกฝ่ายป้อนให้

            ฝ่ามือเรียวขยับไปซุกไซ้ที่กลุ่มผมหนา ขณะที่ได้แต่ครางแผ่วในลำคอ แผ่นหลังบอบบางลงแนบชิดกับกลีบดอกไม้แสนนุ่มนวลยามที่คิบอมผละห่างอีกนิด

            อ้ะ...คิบอม...ยะ...อย่า...อื้อ...ดงแฮร้องห้ามเสียงสั่นพร่า เมื่อริมฝีปากได้รูปกำลังซุกเข้าที่ซอกคอขาวผ่อง ริมฝีปากอุ่นร้อนแนบที่ผิวเนื้อนวลลออ ขบเม้มแผ่วเบา ผิวขาวก็ขึ้นรอยสีระเรื่อ ขณะที่ฝ่ามือแข็งแกร่งก็ลูบไล้เรือนร่างบอบบาง ปลายนิ้วกดคลึงเบาๆ อารมณ์หวามก็พุ่งพรวดเข้ามาร่างเล็ก

            ยะ...อย่านะ....อ้ะ...ความรู้สึกหวามไหวสาดซัดเข้าหาร่างน้อยจนเสียงที่ร้องห้ามแผ่วเบา ไร้ความหนักแน่นใดๆ มือเรียวที่ควรจะผลักไสกลับกำแน่นที่หัวไหล่แกร่ง ได้แต่เอนใบหน้าไปด้านข้าง เปิดโอกาสให้ร่างสูงฉกฉวยความนุ่มละมุนของซอกคออย่างตามใจ

            ดงแฮ...ข้าขอสัมผัสความอ่อนหวานของเจ้าได้หรือไม่

            ใบหน้าคมคร้ามที่เงยขึ้นมาสบตาคู่สวยแฝงด้วยความขอร้องอ้อนวอน จนร่างน้อยที่ไม่เคยพานพบกับเล่เหลี่ยมของบุรุษเพศ ทั้งยังอ่อนเดียงสามากนัก เมื่อมาเจอกับคารมขององค์ชายหนุ่มที่ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาอย่างโชกโชน ร่างน้อยก็ได้แต่ใจอ่อนยวบยาบ ความเชื่อมั่นและถือศักดิ์ปลิวหายไปทันที

            แม้จะเป็นวีล่าสูงศักดิ์ แต่มีหรือจะห้ามปรามหัวใจตัวเองได้เมื่อรู้ว่ามอบมันให้แก่มนุษย์ผู้นี้แล้ว

            คิบอมรู้ดีว่าตนกำลังเอาเปรียบวีล่าน้อยที่ไม่ประสา รับรู้ได้ว่าผิวเนื้ออ่อนนุ่มที่ปลุกอารมณ์ของตนไม่เคยมีผู้ใดได้แตะต้อง แต่ตนไม่ได้เพียงเอ่ยคำหวานพล่อยๆ...ทุกคำล้วนออกมาจากหัวใจขององค์ชายรัชทายาทผู้นี้ทั้งสิ้น

            หากตนมีเวลาก็พร้อมจะรอ แต่นี่ทุกอย่างกลับพลิกผันเพราะคำรายงานของคนสนิท หากทางออกที่ต้องการคือการรังแกร่างน้อย ตนก็ต้องทำ

            ข้า...ข้า...ดงแฮได้แต่อ้ำอึ้ง นัยน์ตาคมที่ฉายแววขอร้องอ่อนวอนกำลังทำให้วีล่าแสนสวยที่วัยเพียง 16 ได้แต่พูดไม่ออก ทั้งที่หัวใจก็โอนอ่อนให้อีกฝ่ายไปอย่างหมดสิ้น...ข้าควรทำเช่นไรดี

            ความคิดที่พลันเลือนหายไปเสียสิ้น เมื่อคิบอมโน้มใบหน้าลงแนบชิดกับกลีบปากสีระเรื่อ ดงแฮก็ทำได้เพียงหลับตาลง พ่ายแพ้ต่อมนุษย์หนุ่มที่เคยรังเกียจรังงอนอย่างสิ้นเชิง

            ท่าทียินยอมที่แม้ไม่เอื้อนเอ่ยออกมา ทำให้คิบอมแย้มยิ้มกว้าง นัยน์ตาคมมองวีล่าน้อยอย่างแสนรัก

            จำไว้ว่าข้าไม่เคยเอ่ยคำหวานกับผู้ใด เว้นแต่เจ้าเพียงผู้เดียว

            คิบอมกระซิบลงชิดใบหู ก่อนจะซุกไซ้เข้าที่ลำคอระหง ดูดเม้มเบาๆ ละลายความไม่มั่นใจของดงแฮเสียสิ้น มือเรียวยกขึ้นคล้องลำคอแกร่ง ปล่อยให้ความรู้สึกนำทางว่าควรจะทำเช่นไร      

            จูบร้อนผ่าวดำเนินไปอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่ร้อนแรงจนแทบเผาไหม้เรือนร่างของทั้งสอง ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างนุ่มละมุนอย่างหลงใหล โดยที่ดงแฮก็ได้แต่กอดลำคอแกร่งมั่น ปล่อยให้ฝ่ามือใหญ่ที่ปลดรั้งชุดของตนหลุดออกจากไหล่บอบบางทีละน้อย

            “อ้ะ...คิบอม...” ริมฝีปากรูปกระจับเม้มเข้าหากันทันที เมื่อคิบอมกำลังพรมจูบไปทั่วลำคอขาว ไล่เลื่อยลงมาจนถึงเนินเนื้ออกที่ผ้าผืนนุ่มกำลังเลื่อนหลุดออกไป เปิดเผยเนื้อตัวขาวผ่องที่แสนงดงามของร่างบาง

            จุ๊บ

            “อึ้ก...ข้ารู้สึก...แปลกๆ...” ดงแฮเชิดหน้าขึ้นทันที เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวกดลงที่เม็ดบัวสีหวานที่กำลังชูชันเรียกร้องสัมผัส นัยน์ตาคมก็จับจ้องมันตาวาววับจนช่องท้องยิ่งบิดเกร็ง ความตื่นเต้นไหลพล่านไปทั่วกายผสานไปกับความหวาดกลัว

            “เจ้ารู้สึกอย่างไรก็ร้องออกมา ไม่ต้องกลัว เสียงของเจ้าไพเราะเหลือเกิน”

            “อ๊าาา...คิบอม...อึ้ก...” สิ้นคำของมนุษย์หนุ่ม ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ก้มลงครอบครองยอดอกสีหวานที่งดงามกว่ายอดปทุมถันของสตรีคนใด ดูดกลืน ปัดผ่านด้วยปลายลิ้นราวกำลังลิ้มรสของหวานรสอร่อยจนร่างน้อยหวีดร้องออกมา แผ่นอกบอบบางสะท้อนขึ้นลงอย่างหอบสะท้าน มือเรียวจิกเข้ากับไหล่กว้างอย่างเสียวซ่านในอารมณ์

            “ข้า...อึ้ก...อื้อ...” เสียงหวานได้แต่ครวญครางออกมาอย่างหวังระบายความอึดอัดที่พุ่งลงกึ่งกลางลำตัว ยิ่งฝ่ามืออีกข้างกำลังปัดป่ายที่ยอดอกเบาๆ แล้วบีบคลึงก็ยิ่งทำให้ร่างน้อยบิดกายเร้าอยู่บนกลีบดอกไม้ใหญ่ ใบหน้าสวยเชิดขึ้น แก้มแดงก่ำกับอารมณ์ที่เพิ่งเคยได้เจอะเจอ

            “เพราะ...เสียงเจ้าเพราะเหลือเกิน” คิบอมกระซิบบอก ยามที่ดึงผืนผ้าที่ห่มกายออกไปจนหมด แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามอง

            กึก

            นัยน์ตาคมเบิกกว้างขึ้นนิด ราวกับได้เห็นนางฟ้านางสวรรค์เบื้องหน้า...นัยน์ตาคมกวาดมองใบหน้าเรียวสวยที่เชิดขึ้นอย่างเสียวซ่าน แก้มนวลแดงปลั่ง และไล่เรื่อยมาที่เรือนร่างขาวนวลเป็นประกาย ไร้รอยตำหนิใดๆ ผิวขาวที่เคยเห็นล้วนขาวผ่องไปทั้งเนื้อทั้งตัว แผ่นอกบอบบางที่ประดับด้วยเม็ดอัญมณีล้ำค่าก็กำลังแดงเรื่อเพราะรสจูบ เรียวขาขาวผ่องที่เบียดชิดเข้าหากัน โดยที่มีส่วนน่ารักอ่อนไหวที่เหมือนยั่วยวนให้ก้มลงไปครอบครอง

            “สวย...เจ้าสวยเหลือเกิน ดงแฮของข้า” เสียงทุ้มกระซิบพร่า ปวดหนึบไปทั้งท่อนเนื้อด้านล่างกับภาพที่ได้เห็น นัยน์ตาคมยิ่งวาวเข้มจนร่างน้อยยิ่งสะท้านอาย มือเรียวจะขึ้นขึ้นบดบังเรือนร่างของตน

            หมับ

            “ให้ข้าได้ชื่นชมความงามของเจ้าเถอะนะ” คิบอมบอกเสียงทุ้มที่สั่นสะท้านใจคนฟัง ใบหน้างามยิ่งแดงก่ำได้แต่เสหลบไปทางอื่น สิ้นฤทธิ์เดชใดๆ จนคิบอมโน้มลงไปจูบที่แผ่นท้องขาวผ่องอย่างเบาแรง

            “อ้ะ...อ๊า...” เสียงหวานครางแผ่วออกมาทันที ยามที่จูบร้อนกำลังขบเม้มไปทั่วแผ่นท้องขาว มือเรียวกำกันแน่นขึ้น ยามที่รู้สึกว่าฝ่ามือสากกำลังลูบไล้ไปทั่วเรียวขาวผ่องและกำลังดึงให้ขาที่เบียดชิดกันชันขึ้นทีละน้อย

            “คิบอม...อื้อ...ข้า...อึดอัด...อึ้ก...” ดงแฮร้องบอกอย่างหวังระบายความต้องการที่จวนเจียนจะระเบิดออกมา ยิ่งฝ่ามือใหญ่กำลังยกขึ้นมาบีบคลึงแผ่นอกของตน ริมฝีปากก็ดูดเม้มไปทั่วท้องน้อย ตนก็ได้แต่ร้องขอเสียงพร่า

            อึดอัดเหลือเกิน

            “อ๊า...ยะ...อย่า...ตรง...นั้น...อ๊าาา!!” ร่างน้อยเบิกตาโพลง ยามที่ฝ่ามือแข็งแกร่งกำลังลูบไล้ส่วนอ่อนไหวอย่างเบามือจนร่างสะท้านเยือก ร่างเล็กละล่ำละลักบอกเมื่อความอึดอัดยิ่งเล่นงาม รับรู้ได้ว่าแก่นกายเล็กกำลังพองโตอย่างอัดอั้น แต่แล้วเสียงหวานก็ต้องหวีดร้องออกมา ใบหน้าสวยส่ายสะบัดแรงๆ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวกำลังกดจูบที่ส่วนปลายเบาๆ

            “ฮื่อ...อื้อๆ...อ้ะอ๊า....คิบอม...มะ...ไม่นะ...” เสียงหวานร้องแทบไม่เป็นภาษา ยามที่คิบอมกำลังส่งส่วนอ่อนหวานเข้าไปในโพรงปากร้อน จนความเสียวซ่านซัดเข้ามาดังคลื่นลูกใหญ่จนทั้งร่างสะดุ้งเฮือก เรียวขาทั้งสองข้างยิ่งถูกดึงขึ้นจนชันออก เพื่อให้ริมฝีปากได้รูปได้ดูดกลืนอย่างร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

            ในเวลานี้คิบอมกำลังอึดอัดกับความต้องการของตัวเองแทบบ้า แต่ร่างสูงกลับพึงพอใจกับเสียงครวญครางหวานๆ ไม่ขาดปาก

            “อ้ะ...บะ...เบากว่านี้...อื้อ...ข้า...อึ้ก....อ๊าๆ...” ดงแฮยิ่งถดร่างหนี เมื่อความเสียวซ่านแทบขาดใจซัดเข้ามาพร้อมกับริมฝีปากที่ขยับแรงขึ้น ทั้งยังฝ่ามือใหญ่ที่จับขาเรียวไว้มั่น บังคับให้ขยับสะโพกนุ่มเข้าหาความร้อนผ่าวแรงๆ จนนัยน์ตาสวยเต็มไปด้วยหยดน้ำของอารมณ์

            แต่เพียงไม่นาน ผู้ที่กำลังถูกอารมณ์ร้อนครอบงำก็ได้แต่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ขยับสะโพกเข้าหาความร้อนที่ช่วยปลดปล่อยความอึดอัด ใบหน้าสวยยิ่งเชิดสูงอย่างเสียวซ่าน เสียงดูดท่อนเนื้อเล็กดังคลอไปกับเสียงครวญครางไม่ขาดปาก

            “อื้อ...ข้า...ข้า...ฮึก...คิบอม...ข้า...เหมือน....จะตาย...อ๊าๆ...” ดงแฮหวีดร้องออกมาเสียงสั่น เมื่อความรู้สึกที่พัดเข้าหากำลังทำให้ร่างกายเหมือนระเบิดพรู เรือนร่างเล็กยิ่งขยับเข้าหาโพรงปากอุ่นมากขึ้น น้ำหยดใสไหลคลอลงมาทางหางตาจากแรงอารมณ์ มือเรียวที่กำไหล่กว้างขยับมาบีบคลึงยอดอกตัวเองอย่างหวังคลายความอึดอัดที่เต็มไปทั้งช่องท้อง

            เสียงหวานที่สารภาพอย่างไม่ประสา ทำให้คิบอมยิ่งชอบใจ ริมฝีปากร้อนผ่าวยิ่งป้อนความเสียวกระสันด้วยการรูดรั้งแรงๆ จนได้ยินเสียงที่หวีดร้องอย่างต้องการ

            “คิบอม...คิบอม...อ้ะ...อ๊า....อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

            แล้วดงแฮก็หวีดร้องออกมาสุดเสียง ระเบิดความต้องการออกมาเข้าเต็มโพรงปากอุ่น ร่างกายกระตุกถี่ รับรู้ถึงความสุขสมที่พัดเข้ากระแทกเต็มเรือนร่างเล็ก ร่างทั้งร่างหอบสะท้าน ใบหน้าแดงก่ำ หยาดเหงื่อไหลซึมไปทั่วกาย

...................................................

อ่านต่อได้ที่


ขอบคุณค่ะ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น