วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

NC_CL ตอนที่ 56 เกมเดียวตลอดชีวิต


ตอนที่ 56 เกมเดียวตลอดชีวิต



            ซองมินที่มั่นอกมั่นใจว่าหนนี้จะทำให้หมาป่าจอมเจ้าเล่ห์สิ้นท่าจึงพาร่างตัวเองเข้ามาในห้องนอนหรูที่เคยมาแล้วครั้งหนึ่ง นัยน์ตาแป๋วมองร่างสูงที่นอนเหยีดยาวกระสับกระส่ายอยู่ที่เตียงหลังใหญ่อย่างหมายมาด ขาเล็กพาร่างตัวเองมายืนมองคนที่หลับด้วยท่าทางทรมาน เพราะเหงื่อเม็ดโตไหลซึมทั่วไรผม ใบหน้าคมดูทรมานกับการนอนเสียจนคนที่คิดจะมาเอาคืนใจอ่อนยวบ

            นายไม่ใช่คนใจอ่อนนี่ซองมิน

            แม้จะคิดเช่นนั้น แต่ซองมินกลับรู้สึกถึงเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นแปลกๆ เหมือนจะเจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อเห็นสภาพคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นหนักว่าที่คิด

            “นี่นาย...”มือบางแตะไหล่หนาอย่างเบามือ แต่เท่านั้นก็เพียงพอให้คนที่หลับสะดุ้งขึ้นมา

            “ออกไป!!! ไม่ต้องมาดูแล ฉันจะนอน”ชายหนุ่มไม่แม้แต่ลืมตาขึ้นมามอง เสียงทุ้มที่พร่าหน่อยๆตวาดลั่น ก่อนจะพลิกไปอีกทาง เสียงตวาดที่ทำให้ความเจ็บแปลบๆยิ่งทวีความหนักหน่วงขึ้นเมื่อคนตรงหน้ากลับไล่เขาต่างจากยามปกติ แม้จะรู้สึกเช่นนั้นแต่ร่างเล็กก็ข่มความรู้สึกโดยการเชิดหน้าขึ้น

            เพี๊ยะ

            “โอ๊ย หูแตกเหรอไง ฉันบอกว่าไม่ต้องมายุ่ง ใครที่ไหนก็ไม่ต้อ..ซองมิน”คราวนี้กระต่ายอวบฟาดมือลงที่ไหล่หนาไม่แรงนัก แต่ก็มากพอให้คนที่หงุดหงิดหันขวับมาพร้อมตวาดลั่น แต่พอหันมาเห็นว่าใครกำลังยืนกอดอกอยู่ เสียงตวาดแข็งๆจึงเปลี่ยนเป็นชื่อของคนน่ารัก

            “ใช่ ฉันเอง ทำไม เอาสิ ตวาดอีกสิ”ซองมินไม่วายท้า แต่เจ้าตัวน่ะ ยืนอยู่ห่างขนาดที่มั่นใจว่าคยูฮยอนไม่มีทางเอื้อมถึง ยิ่งมองหน้าซีดๆของคนป่วยก็รู้เลยว่าไม่มีแรงมาจับตัวเขาแน่ๆ

            คำท้าที่ทำให้คนป่วยกัดฟันกรอด

            “ออกไป”คยูฮยอนยังคงออกปากไล่ ทั้งที่ในเวลาปกติคงยิ้มกริ่มที่คนน่ารักวิ่งมาหาถึงที่ นัยน์ตาคมที่ฉายประกายกร้าว ทำให้ซองมินรู้สึกแปลกๆ ใจดวงน้อยรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาอีกครั้งกับคำขับไล่ แต่ร่างอวบยังคงปักหลักอยู่กับที่ไม่ไปไหน

            “ไม่ นายต้องกินยา แล้วก็เช็ดตัว ป่วยแล้วยังไม่เจียม”กระต่ายอวบเชิดหน้าขึ้นเหมือนถือไพ่เหนือกว่า ทั้งที่ในใจรู้สึกแย่ไม่น้อยกับท่าทีไม่สนใจใยดีของชายหนุ่ม

            ซองมินนายต้องเป็นเอามากแน่ๆ มันไล่เราก็ดีแล้ว นายจะไปสนใจทำไม

            “ไม่ต้องมายุ่ง ฉันนอนเดี๋ยวก็หาย”คำพูดอวดดีของคนเจ้าเล่ห์ทำให้ซองมินเบ้ปากน้อยๆ

            “ปกติก็ฉลาดน่ะนะ แต่ป่วยขึ้นมาไข้มันบังตาเหรอไง ไม่กินมันจะหายได้ยังไง แล้วไล่คนเหมือนหมูเหมือนหมาตอนป่วย นี่มันนิสัยเด็กโข่งชัดๆ”น้ำคำดูถูกพร้อมกับนัยน์ตาแบ๋วที่ถือดีทำเอาคยูฮยอนกัดฟันกรอด

            “หรือนายว่าไม่ใช่ ถ้าแน่จริงก็กินยาซะ แล้วก็ยอมให้ฉันเช็ดตัวดีๆ”ซองมินท้าด้วยใบหน้าที่เชิดขึ้น เอาวิธีที่คยูฮยอนชอบใช้ย้อนกลับคืน จนชายหนุ่มที่ถูกหยาม คว้ายาเม็ดเล็กข้างหัวเตียงกรอกเข้าปากแล้วกระดกน้ำตามด้วยนัยน์ตาคมที่ฉายชัดว่าไม่ยอมแพ้

            แม้จะเห็นว่าคนร่างสูงกินยาตามที่เขาท้าแล้ว แต่ท่าทางไม่เต็มใจบวกกับไม่พอใจที่ซองมินยืนอยู่ตรงนี้ ก็ทำให้ร่างอวบรู้สึกถึงความร้อนผ่าวรอบดวงตากลมโต

            นายบ้าเหรอเปล่า แค่ท้าทาย ทำให้หมอนี่ยอมทำตามก็พอแล้ว นายจะได้รู้สึกว่าตัวเองชนะบ้างไง ให้คยูฮยอนรู้สำนึกที่คอยรู้ทันเขาเสียเรื่อยก็พอ นายจะอยากร้องไห้ทำไม

            “ฉันกินแล้ว”

            เสียงเรียกที่ดึงสติจากคนน่ารักกลับมาอีกครั้ง

            “ก็ดี ต่อไปก็เช็ดตัวสินะ”ซองมินเปรยเบาๆ ขณะที่เหล่มองดวงหน้าคมที่บ่งบอกความไม่พอใจ

            “ไม่ต้อง แค่นี้ก็พอแล้ว”

            “หึ ไม่กล้า”เสียงใสบอกเสียงดังฟังชัด นัยน์ตาแบ๋วจงใจส่งสายตาสะใจไปให้ ที่เห็นคยูฮยอนทำตัวแปลกไปจากปกติ ทั้งๆที่ในใจกำลังดำดิ่งด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอ แค่เสียงทุ้มๆออกปากไล่ก็ทำให้เขาเจ็บไปหมด ท่าทางที่ไม่อยากเข้าใกล้เขาก็ทำให้ทั้งอกตื้อจนคิดอะไรแทบไม่ออก แต่ถึงจะเถียงกับเด็กโข่งมากแค่ไหน แต่เขากลับไม่รำคาญความเอาแต่ใจสักนิดเดียว ตอนนี้ขอเพียงได้จัดการให้คนร่างสูงเลิกทำร้ายตัวเองด้วยการดื้อดึง เขาก็พอใจแล้ว เขาเป็นอะไรไป

            ซองมินนายเป็นอะไรไป

            เสียงดูถูกที่ทำให้นัยน์ตาคมฉายประกายกร้าว เสียงทุ้มเอ่ยออกไปทันที

            “เอาสิ เธอกล้าเช็ด ฉันก็ให้เช็ด”เสียงตกลงของเด็กดื้อที่ตกหลุมพลาง ทำให้ซองมินค่อยๆปรากฏรอยยิ้มกว้าง ร่างอวบหันหลังเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนเพื่อเตรียมอุปกรณ์เช็ดตัวให้คยูฮยอน รู้สึกมีความสุขกับชัยชนะเล็กๆและการที่อีกฝ่ายอ่อนให้ โดยไม่รู้เลยว่านัยน์ตาคมมองตามแผ่นหลัง ก่อนที่รอยยิ้มจะกว้างขึ้น นัยน์ตาแข็งกร้าวอ่อนลงฉายชัดถึงความอ่อนหวานในดวงตา

            “ถอดเสื้อ”เสียงใสสั่งเสียงดังฟังชัด ขณะที่วางอ่างน้ำเล็กๆลงข้างเตียงใหญ่ คำสั่งที่ทำให้คยูฮยอนเบ้หน้า ดวงหน้าคมหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจ ท่าทางไม่ยอมดีๆของคนตัวโตทำให้ซองมินกระตุกยิ้มเหี้ยม

            ยิ้มทั้งที่ในใจไม่ได้ยิ้มไปด้วย การแสดงออกที่ต่างจากจิตใจภายในลิบลับ

            “ฉันบอกให้ถอดเสื้อ นายบอกเองว่าฉันกล้าเช็ด ก็จะให้เช็ด ในเมื่อกล้านักก็ถอดซะ อย่ามาขี้ขลาดเอาตอนนี้”น้ำคำดูถูกของคนตัวเล็กทำให้นัยน์ตาคมตวัดกลับมามอง มือหนาจัดการปลดกระดุมเสื้อนอนของตัวเองอย่างรวดเร็ว ขณะพยุงร่างขึ้นมานั่งพิงพนักเตียง

            เมื่อเห็นว่าคนป่วยลุกมานั่งนิ่งมองแล้ว กระดุมเสื้อทุกเม็ดถูกปลดแม้จะยังไม่ถอดเสื้อออก แต่แค่นั้นก็เผยให้เห็นแผ่นอกที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวสวย มากเสียจนคนมองอดจะหน้าร้อนนิดๆไม่ได้ แม้จะแค่นิดเดียวแต่ก็เพียงพอให้คยูฮยอนสังเกตเห็น
ต่อค่ะ

            “แค่นี้ก็หน้าแดง แล้วเธอจะเช็ดตัวให้ฉันได้ยังไง”เสียงทุ้มว่าพลางกระตุกยิ้มนิดๆให้คนมองกัดริมฝีปากฉับ ร่างเล็กก้าวเท้าเข้ามาใกล้คนหน้าหล่อที่หน้าซีดผิดปกติ แล้วส่งยิ้มหวานให้เสียจนคยูฮยอนใจกระตุก ก่อนที่ร่างเล็กจะจัดการพาร่างตัวเองทรุดนั่งบนเตียงหลังใหญ่

            “กล้าไม่กล้าก็มาดูกันสิ”เสียงใสว่าขณะที่มือบางก็จัดการดึงเสื้อนอนตัวใหญ่ออกจากร่างสูงอย่างรวดเร็ว คราวนี้รูปร่างที่ได้สัดส่วนทำให้ซองมินแอบสูดหายใจเข้าลึกๆ และเพราะความรู้สึกผิดแปลกไปภายในใจทำให้กระต่ายอวบจัดการเอาผ้าที่ยังชุ่มน้ำโปะไปที่หน้าคมอย่างรวดเร็ว จนคยูฮยอนดึงออกแทบไม่ทัน

            “เธอทำอะไรของเธอ เปียกไปหมด”คยูฮยอนร้องลั่นที่ทำเอาซองมินหัวเราะเบาๆ มือบางดึงผ้าจากมือหนาไปชุบน้ำบิดหมาดแล้วมาเช็ดดวงหน้าคมอีกครั้งเพื่อกันเสียงต่อว่าใดๆ ขณะที่คยูฮยอนจะอ้าปากพูดมือบางก็เอาผืนนั้นแหละปาดปิดทั่วทั้งคางแกร่งและริมฝีปากจนชายหนุ่มหุบปากสนิทเพื่อป้องกันผ้าชื้นๆผืนนั้น

            ทั้งที่ซองมินทำเพื่อป้องกันไม่ให้คำพูดระคายหูดังขึ้นอีก ทำทั้งที่ไม่ได้อยากแกล้ง แต่ต้องทำเพื่อไม่ให้คยูฮยอนรู้ถึงความผิดปกติของเขา

            พอทั่วหน้า มือบางก็จัดการเช็ดตัวให้คนตัวใหญ่อย่างคล่องแคล่ว โดยที่เจ้าตัวพยายามบังคับมือไม่ให้สั่นไหว ท่าทางตั้งอกตั้งใจของซองมินจึงไม่เห็นนัยน์ตาคมที่อ่อนแสงลง ก่อนจะกลับมาหมายมาดดังเดิม เมื่อเห็นว่าร่างเล็กเช็ดถึงหน้าท้องแกร่ง คยูฮยอนก็เปรยเสียงเรียบ

            “เก่งนี่”คำชมที่ซองมินหันมามองด้วยรอยยิ้ม

            “แน่นอน นี่ขนาดเช็ดตัวให้เด็กดื้อครั้งแรก ไม่มีอะไรที่ฉันตั้งใจแล้วทำได้ไม่ดีสักครั้ง”เสียงใสว่าขณะที่โยนผ้าผืนเล็กลงในอ่าง ซองมินหยัดกายลุกขึ้นเตรียมหาเสื้อตัวใหญ่มาเปลี่ยนให้

            หมับ

            ตุบ

            “โอ๊ย นี่นาย”แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเดินไปตรงไหน มือหนาที่เมื่อครู่ยังสิ้นเรี่ยวแรงก็กระตุกข้อมือบางอย่างแรงจนร่างเล็กหงายหลังตุบลงกลางที่นอนใหญ่ โดยมีร่างสูงทาบทับอย่างรวดเร็ว จนคนถูกดึงตั้งสติไม่ทัน

            “หึ เหมือนเธอจะแพ้แรงคนป่วยนะ”เสียงทุ้มเอ่ยคลอเคลียอยู่ข้างแก้มใส จนร่างเล็กต้องดีดดิ้นไปมา ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะนิ่งค้างเมื่อคยูฮยอนจัดการก้มลงปิดปากช่างท้าอย่างรวดเร็ว

            ตึกตัก

            นี่มันอะไร ทำไมใจถึงเต้นแปลกๆ ทำไมเขาถึงดีใจที่คนตรงหน้ากลับมาทำตัวปกติ...ทำไม

            ความยินดีที่แล่นทั่วใจดวงน้อยทำให้ร่างเล็กยอมเผยอปากขึ้นรับจุมพิตอย่างง่ายดาย ริมฝีปากหนาที่กดจูบร้อนผ่าวดูดดึง ขบเม้มอย่างร้อนแรง ก่อนจะแทรกปลายลิ้นเข้าตวัดไล่ต้อนลิ้นเล็กที่พลิกหนีเกาะเกี่ยวจนซองมินเผลอตอบสนองโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ความเป็นจริงบางอย่างตีเข้าแสกหน้า

            อารมณ์ความรู้สึกบางอย่างกำลังบอกว่าเขายอมคนตรงหน้า ทั้งตอนนี้และที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะรู้ไม่ทันไม่ใช่ว่าคนตรงหน้าทำให้เขาแพ้ทาง ไม่ใช่เพราะความเจ้าเล่ห์ของคยูฮยอน แต่เพราะเขาต่างหาก เขาที่เป็นฝ่ายยอม ยอมที่จะปิดหูปิดตารับรู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้คยูฮยอนเสียทุกเรื่อง

            พึ่งรู้ในยามที่ถูกขับไล่

            พึ่งรู้ในยามที่คยูฮยอนไม่มองหน้า

            พึ่งรู้ในยามที่เห็นคนร่างสูงนอนป่วยแล้วเจ็บไปทั้งใจ

            พึ่งรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายต้านทานจูบตรงหน้าไม่ได้ ไม่ใช่เพราะพละกำลัง แต่เพราะ...หัวใจ

            ใช่ ลีซองมินพึ่งรู้ตัวในยามที่กำลังจะถูกข่มเหงว่ามอบใจให้คนที่ตามล้อมหน้าล้อมหลังมาตลอด จนเป็นฝ่ายตอบโต้จูบร้อนด้วยความร้อนแรงไม่แพ้กัน มือบางโอบรอบลำคอแกร่ง ขณะที่ปลายลิ้นของทั้งคู่ยังตวัดเกี่ยวกันแน่น

            เมื่อเห็นว่าร่างเล็กตรงหน้าไม่ยอมแพ้ คยูฮยอนก็กระตุกยิ้มนิดๆ ริมฝีปากร้อนผ่าวไล่ดูดดึงปากเล็ก เก็บเกี่ยวน้ำหวานอย่างร้อนแรง ขณะที่หลอกล่อให้ร่างเล็กเคลิ้มไปกับสัมผัสที่มอบให้ มือหนาก็จัดการปลดกระดุมเม็ดเล็กอย่างรวดเร็ว  
           
            ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าซองมินรู้ตัวตลอด รู้ว่าถูกจูบ รู้ว่าทำไมตัวเองลังเลยามที่ตอบเรียวอุคว่าไม่สนใจคนตรงหน้า และรู้ว่าคยูฮยอนกำลังเอาจริง แต่เพราะความที่เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง ยามที่รู้แล้วว่าใจตัวเองหลุดลอยไปหาคนตรงหน้า กระต่ายน้อยต่างหากที่เป็นฝ่ายยอมให้คยูฮยอนยุ่มย่ามกับเสื้อตัวเอง

            ด้วยความคิดที่ว่า ถ้าเขาจะรัก เขาก็กล้าที่จะให้ และหากคยูฮยอนอยากทำให้เป็นเกม เขาก็จะเล่นให้มันเป็นเกมตามที่ร่างสูงต้องการ

            ความคิดที่ทำให้ซองมินไม่ถอยห่าง มือบางคว้าสะเปะสะปะทั่วไหล่กว้าง ลูบไล้จนมาถึงหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเรียงตัวสวย ท่าทางของร่างเล็กที่ดูจะร่วมมืออย่างง่ายดายทำให้คยูฮยอนถอนริมฝีปากอย่างแปลกใจ

            “แฮ่ก..ฉันจะไม่แพ้นาย”เสียงหอบหายใจของร่างเล็กที่บัดนี้หน้าแดงก่ำทำให้คยูฮยอนมองด้วยอารมณ์แสนรักใคร่ เปล่าเลย เขาไม่ได้อยากให้มันเป็นแค่เกมที่เขาสร้างขึ้น มันไม่เคยเป็นการเอาชนะมาตั้งแต่ต้น ทั้งที่เขาถูกใจกับเสียงใสๆ จมูกรั้นๆที่ไม่เคยยอมแพ้ใคร ชอบยามที่ร่างเล็กแว๊ดลั่นเมื่อเขารู้ทันเสียร่ำไป ชอบในท่าทางที่บอกว่าฉลาดพอที่จะไม่รับคำท้า แต่ก็สู้ไม่ถอยทุกครั้ง

            และที่ยิ่งกว่านั้น...เขารักซองมินที่เป็นซองมินไม่ว่าร่างเล็กจะมองว่าเขาเป็นศัตรูที่ต้องเอาชนะก็ตาม

            ความคิดที่ตรงกันของคนสองคน แต่กลับแสดงออกมาว่ามันเป็นเพียงแค่...เกม

            “งั้นพิสูจน์สิ”สิ้นคำท้า ริมฝีปากอิ่มก็เป็นฝ่ายประกบจูบก่อน ฝ่ามือบางลูบไล้ไปตามไหล่หนาเรียกเสียงครางพึงพอใจเล็กๆ ก่อนที่คยูฮยอนจะเป็นฝ่ายรุกไล่ร่างเล็กบ้าง ปลายลิ้นร้อนแทรกลึกเข้าตวัดเกี่ยวอย่างรุนแรง ฝ่ามือหนาเคล้นคลึงเนื้อนุ่มอย่างมีชั้นเชิง บีบเค้นเนื้อขาวๆให้ขึ้นสีแดงเรื่อ ลูบไล้ทั่วตารางผิวทั้งที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังไม่ผละออกจากกัน ไล่ต้อนคนไร้ประสบการณ์จนซองมินหายใจแทบไม่ทัน สติที่อยู่กับตัวตลอดกำลังถูกความร้อนแรงของคนตรงหน้าทำลายทิ้ง

            ฝ่ามือร้อนผ่าวจัดการดึงรั้งเสื้อออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความร่วมมือของร่างเล็กเอง ก่อนจะกลับมาเค้นคลึงทั่วกายขาวที่แสนเต็มไม้เต็มมือ

            “อ้ะ..อา”บีบเฟ้นเนื้อขาวผ่องจนเรียกเสียงครวญครางจากร่างเล็ก เสียงที่ทำให้คยูฮยอนสะกิดแต้มตุ่มสีหวานอย่างไม่ผ่อนแรง เรียกความต้องการที่ซองมินไม่รู้จักแผ่ซ่านทั่วกาย จนอกขาวเด้งขึ้นตามสัณชาตญาณ
           
            “อื้อ..อ้ะ”เสียงครางหวานยิ่งดังขึ้นเมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ มือหนาจัดการขยี้ กดบีบเม็ดทับทิบสีสวยจนขึ้นสีแดงก่ำ ขณะที่ซองมินกระตุกร่างอย่างแรง มือบางจิกหมอนไว้แน่น ขณะที่เชิดหน้าขึ้นสูงเมื่อริมฝีปากร้อนเข้าครอบครองเม็ดทับทิมสีสวย

            “อ้ะ..อื้อออ”

            ลิ้นร้อนไล่เลียแต้มสีหวาน หน้าท้องแบนราบของร่างอวบกระตุกเกร็ง ปลายเท้าเรียวจิกแน่นกับเตียงนอน ขณะที่คยูฮยอนยังปรนเปรอความรู้สึกแปลกใหม่ไม่หยุด

            อาจจะมองเหมือนเป็นแค่เซ็กซ์ แต่คยูฮยอนรู้ดีในสิ่งที่เขาทำ เขาอย่างนี้เพื่อให้คนข้างใต้รู้สึกดี เขาถึงรุนแรงอย่างนี้ทั้งที่เป็นครั้งแรก เขารู้ดีว่าซองมินไม่มีทางยอมถ้าเขาทำเหมือนไม่เต็มที่ เหมือนเขาอ่อยให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมอารมณ์ เขารู้ว่าซองมินจะต้องไม่พอใจ และนั่นทำให้คยูฮยอนไม่คิดผ่อนแรงขบเม้ม

            สัมผัสร้อนที่แล่นพร่านทั่วกายทำให้ซองมินบิดเร้าน้อยๆ ความรู้สึกต้องการที่พุ่งวาบเข้ามากระจายทั่วร่าง มือบางจึงคล้องคอหนามอบจูบร้อนแรงไม่ต่างกัน

            ไม่ได้เพราะเกม แต่เพราะเป็นคยูฮยอน เป็นคยูฮยอนที่เขาพึ่งรู้ตัวว่า...รัก

            “อ๊า”มือร้อนผ่าวบีบเฟ้นเนื้อนุ่ม ขณะที่ริมฝีปากก็ขบกัดสลับกับดูดเม้มแรงจนซองมินเกร็งสะท้าน มือเรียวทั้งสองข้างกำไหล่หนาแน่น ใบหน้าขาวสะบัดไปด้านข้างเมื่อความร้อนแล่นวูบทั่วทั้งกาย

            ยิ่งยามที่มือหนาลูบไล้แก่นกายเล็กผ่านเนื้อผ้า ซองมินก็ถึงกับกระตุกเกร็ง ปฏิกิริยาที่ทำให้คยูฮยอนยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ริมฝีปากร้อนประกบจูบลงมาอีกครั้ง ก่อนที่ปราการด้านสุดท้ายของซองมินจะถูกกำจัดออกไป ขณะที่ร่างสูงไล่ขบเม้มตั้งแต่ติ่งหูเล็ก ลำคอระหงจนถึงแผ่นอกขาวดูดเม้มจนขึ้นสีสวย

            “อ๊า....”

            ซองมินถึงกับหวีดออกมาเบาๆเมื่อคยูฮยอนกดจูบลงแก่นกายกลางลำตัวเบาๆ มือหนาก็รูดเข้าออกอย่างไม่เบามือนัก ริมฝีปากครอบครองแก่นกายสีหวานไล้ลิ้นร้อนทั่วส่วนปลายอย่างไม่รังเกียจ จนใบหน้าหวานสะบัดไปอีกทาง มือบางจิกหมอนใบนุ่มแน่น

            ทั้งที่อยู่ในท่วงท่าน่าอายแต่ซองมินกลับรู้สึกดี มากเสียจนอยากเป็นฝ่ายกระทำ

            ร่างเล็กที่กำลังถูกเล้าโลมอย่างชำนาญจึงผลักไหล่หนาเต็มแรงจนดวงหน้าคมเงยขึ้นมอง ดวงหน้าแดงก่ำ กับนัยน์ตาหวานเยิ้มยิ่งปลุกอารมณ์ดิบในตัวให้พลุ่งพล่านและยิ่งแข็งขึงจนปวดหนึบ เมื่อได้ยินประโยคต่อมา

            “ฉะ..ฉันบอกแล้ว..อา..ว่าไม่แพ้”ดวงหน้าใสฉายชัดว่าไม่ยอมทั้งที่ตัวเองกำลังต้องการการปลดปล่อยจากสิ่งที่คยูฮยอนทำไว้ ประโยคที่ทำให้คยูฮยอนยอมให้ร่างเล็กดึงกางเกงของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องกัดฟันแน่นเมื่อกระต่ายตรงหน้ากล้าที่จะก้มลงใช้ปากเล็กครอบครองแก่นกายขนาดใหญ่ของเขาเหมือนที่เขาทำ

            “อา..ซองมิน”เสียงทุ้มที่บ่งบอกความพึงใจ ทำให้ร่างเล็กที่ไร้ประสบการณ์อยากจะทำให้ดีที่สุด ลิ้นเล็กไล้เลียตั้งแต่ส่วนโคนถึงปลาย มือบางก็จัดการขยับตามที่ได้รับ เสียงครางต่ำๆยิ่งทำให้ร่างเล็กต้องการมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนจะทำมากกว่านั้น ร่างทั้งร่างกลับถูกกระชากกลับขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าคมที่กัดฟันแน่นบ่งบอกความต้องการทำให้ซองมินชะงัก

            “ฉันทำเอง”ว่าขณะที่จะพลิกร่างเล็กลงไปกับเตียงอีกครั้ง แต่ซองมินกลับนั่งทับหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั้นไว้ ริมฝีปากร้อนเป็นฝ่ายจูบคยูฮยอนบ่งชัดว่าเขาจะไม่ยอมอยู่ล่าง ขณะที่ปล่อยให้นิ้วเรียวยาวสำรวจช่องทางสีหวานเบื้องหลัง ร่างทั้งร่างยิ่งกำลังร้อนรุ่มเพราะความต้องการ

            “ทำ..อา..สิ.แต่ฉันอยู่บน..อ่ะ”ใช่ เพราะเขาเคยพูดไว้ว่าถ้าจะออนทอปก็จะคนที่เขารักเท่านั้น แล้วเขาก็ไม่อยากผิดคำพูด ทั้งที่รู้ดีว่าคนอย่างคยูฮยอนคงไม่ใส่ใจ

            แต่หารู้ไม่ว่าหมาป่าหนุ่มกำลังใจเต้นแรงจากสิ่งที่ได้ยิน เขาจำได้ดีในวันนั้น ในวันที่เขาไปส่งซองมินครั้งแรก ความรู้สึกที่ส่งผ่านให้มือหนาทั้งสองข้างบีบเค้นสะโพกมนอย่างหนักหน่วงตามใจตัวเอง ขณะที่มอบจูบร้อนลึก นิ้วเรียวยาวกลับมากดย้ำที่ช่องทางที่เต้นตุบอย่างเบามือ แค่สะกิดก็ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก ผละริมฝีปากมาหอบปนครางหวานๆที่ไหล่กว้าง

            “อึ้ก..อ่ะ..จะ..เจ็บ”ปลายนิ้วที่ชากับช่องทางคับแคบทำให้คยูฮยอนกัดฟันเบาๆกับความต้องการของตัวเอง ริมฝีปากกดจูบทั่วเนินไหล่ขาวผ่องของกระต่ายอวบที่นั่งคร่อมเขาอยู่ สอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปจากสองเป็นสาม ขยับให้ซองมินคุ้นเคย ช่องทางคับแน่นที่ตอดรัดยิ่งทำให้คยูฮยอนต้องการต่างกับร่างเล็กที่กำลังหลุดครางด้วยความรัญจวน

            “อื้อ..ฉันไหว”ซองมินที่เริ่มคุ้นชินกับปลายนิ้วกระซิบเสียงแผ่ว เพราะรู้ดีว่าคยูฮยอนกำลังข่มอารมณ์ที่ต้องการ แล้วเขาจะยอมแค่นี้อย่างนั้นเหรอ

            ประโยคที่คยูฮยอนถอดนิ้วเรียวยาวของตัวเองออก มองดูซองมินที่ค่อยๆกดช่องทางคับแคบตัวเองลงช้าๆ อาการเจ็บแปลบที่แล่นวูบเพราะคนไม่เจียมกับความไร้ประสบการณ์ของตัวเองทำให้คยูฮยอนกัดฟันแน่น ท่าทางที่ทำให้ซองมินผู้ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อคนตรงหน้า กดร่างทั้งร่างลงรวดเดียวจนคยูฮยอนตกใจ

            “ซองมิน”

            “อึ้ก..จะ..เจ็บ”มากเสียจนน้ำตาหยดใสร่วงหล่นกระทบแผ่นอกกว้าง จนคยูฮยอนใจเสีย ร่างสูงข่มอารมณ์ความรู้สึกเมื่อยามแก่นกายถูกความร้อนเข้ากดทับ

            “อย่าพึ่ง..อึ้ก..ขยับ”เสียงทุ้มกัดฟันแน่น มือหนาประคองใบหน้าหวานขึ้นกดจูบร้อนแรงเบี่ยงเบนความสนใจขณะที่มืออีกข้างก็ลูบไล้แก่นกายเล็กให้ร่างน้อยชินกับสิ่งแปลกใหม่ที่อยู่ในกาย สัมผัสอ่อนโยนที่ทำให้ใจดวงน้อยเต้นด้วยความยินดี ยินดีจนไม่สนใจกับความเจ็บจนชาของตัวเอง ร่างเล็กขยับขึ้นลงเป็นจังหวะตามสัณชาตญาณไม่สนใจว่าร่างสูงห้ามยังไง เพราะรู้ดีว่าคยูฮยอนก็ต้องการไม่ต่างจากความเจ็บของเขา

            ความเจ็บปวดที่เปลี่ยนเป็นความหรรษาเมื่อรู้ดีว่ากำลังทำสิ่งนี้กับคนที่รัก

            “อื้อ ..อ๊า..”ความทรมานที่เปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานบ่งบอกอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงในเวลาต่อมา เอวบางถูกมือหนาประคองมั่นช่วยจับจังหวะ ขณะที่ปลายเท้าเรียวจิกแน่น ใบหน้าหวานสะบัดไปด้านหลังจนเม็ดเหงื่อเล็กกระจาย

            “ดี..อึก..เก่งมากซองมิน”เสียงทุ้มเอ่ยชมขณะที่มองภาพสวยๆตรงหน้า เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังลั่นยิ่งกระพืออารมณ์ให้ลุกโหม แม้จะรู้ว่าคนน่ารักไร้ประสบการณ์ แต่คยูฮยอนกลับยอมเป็นฝ่ายเฉย หากสิ่งนี้ทำให้ซองมินสบายใจว่าชนะเขา เขาก็ยอม

            “อ๊า..อ่ะ”เสียงครางหวานดังไม่ขาดสาย ก่อนที่ซองมินจะกระตุกถี่ยิบ เมื่อความเสียวกระสันพุ่งถึงขีดสุด

            “อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงหวานหวีดลั่นเมื่อไปถึงปลายทางขณะที่กัดฟันขยับต่อให้คนร่างสูงไปถึงจุดหมายจนสายน้ำอุ่นพุ่งวาบจนไหลเปรอะออกมา ซองมินถึงกับทิ้งร่างลงบนอกกว้างอย่างหมดแรง

            “ฉันชนะ”แต่ยังไม่วายว่าเสียงแผ่ว ที่คยูฮยอนถึงกับยิ้มอย่างเอ็นดู เพราะเขายอมให้ร่างเล็กชนะอยู่แล้ว

            เพราะแค่ได้ร่างเล็กมาเป็นของเขาอย่างเต็มใจ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง คยูฮยอนก็ยอม

            ความคิดของทั้งคู่ที่บ่งชัดว่ายกนี้ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ เพราะทั้งสองเล่นด้วย...หัวใจ
           
..................................................................

อ่า ติชมได้นะคะ เพราะคู่นี้อยากเขียนแบบ เขารักกันแต่แสดงออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง
รู้ใจตัวเอง และรู้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ในเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายก็คิดว่าเป็นแค่เกม
ต่างฝ่ายเลยแสดงออกเช่นนี้
แหะๆ คิดยังไงบอกได้นะคะ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น