ตอนที่ 65 โจวรี่
“อื้อ”
กลีบปากบางพยายามหลบหนีด้วยความตกใจ
แต่โจวมี่ก็ใช้ประสบการณ์ที่มากกว่า
ดูดดันกลีบเนื้อสีแดงสดด้วยสัมผัสแผ่วเบาชวนหลงใหล ลิ้นร้อนไล้เล็มทั่ว
ก่อนจะกดจูบแรงขึ้น เพื่อส่งปลายลิ้นเข้าไปสำรวจด้านใน เฮนรี่ถึงกับสะดุ้ง
เมื่อผู้บุกรุกเข้ามาควานหารสหวานไปทั่ว แม้จะรู้สึกแปลกไปทั้งกาย
แต่ความรู้สึกหวาบหวามก็แล่นริ้วขึ้นมา
จูบร้อนแรงที่ทำให้ขาเล็กทรุดฮวบลง
แต่มือหนาก็จับไว้ทัน
โจวมี่บดจูบร้อนแรงต่อไปจนกระทั่งรู้ถึงร่างเล็กที่กำไหล่เขาแน่น
ใบหน้าคมจึงผละออกอย่างเสียดาย ร่างสูงยิ้มบางๆ ให้ร่างที่แทบจะทรุดนั่งลงกับพื้น
“รู้สึกดีมั้ย” คำถามที่เฮนรี่รีบก้มหน้าหลบ
ซ่อนดวงหน้าใสที่ซับสีเลือดของตัวเอง
“ถ้าเธอไม่ตอบ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ” เสียงทุ้มถามพลางอุ้มร่างเล็กขึ้นอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะวางลงบนเตียงนุ่ม ขณะที่เฮนรี่ได้แต่นอนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะสบตา
“อยากพิสูจน์ไม่ใช่เหรอไง ถ้าฉันถามอะไรก็ต้องตอบ โอเคมั้ย” คำถามที่คนตัวเล็กกัดริมฝีปากบวมช้ำของตัวเองเบาๆ
“เอ่อ..ก็ดี” เสียงใสอุบอิบเบาๆ
แล้วราวกับร่างสูงไม่พอใจคำตอบ โจวมี่ผลักร่างเล็กให้นอนหงายลงกับเตียง
ก่อนจะตามมาคร่อมทับอย่างรวดเร็ว
อย่างนี้มันต้องพิสูจน์กันหลายขั้นตอนหน่อย
“แล้วอย่างนี้ล่ะ” คำถามที่มาพร้อมกับมือหนาที่ล้วงลงในเสื้อเนื้อบาง
สัมผัสหน้าท้องเรียบเนียนที่ถึงกับสะดุ้งเกร็ง ริมฝีปากบางรีบเม้มแน่น
ก่อนที่เสียงอะไรก็แล้วแต่หลุดออกมาจากลำคอ
ความร้อนที่แทบจะเพิ่มองศาตามมือหนาที่ลูบไล้อย่างแผ่วเบา
สูงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆจ นเสื้อเนื้อบางเลิกขึ้นปรากฏแต้มตุ่มสีหวานกลางอก
“อายมั้ย” เสียงทุ้มถามอีกครั้ง
ที่เฮนรี่ถึงกับพยักหน้าเร็วๆ ดวงหน้าใสขึ้นสีแดงก่ำแต่ก็ไม่มีแม้แต่แรงจะต่อต้าน
ราวกับนัยน์ตาคมตรงหน้าดูดดึงเรี่ยวแรงไปจนหมด
คำตอบที่โจวมี่จัดการดึงเสื้อตัวนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
ริมฝีปากร้อนผ่าวโน้มลงมาประกบอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
แถมมือหนายังเริ่มออกแรงเคล้นคลึงเนื้อนุ่มไม่ว่างเว้น
“อ้ะ..อือ”
เสียงครางแผ่วหวานที่ดังลอดออกมาจากกลีบปากบางทำให้โจวมี่กระตุกยิ้มนิดๆ
ก่อนจะผละมากดจูบผ่านแก้มนวลผ่อง ลากไล้ลงมาตามลำคอระหงเพียงกดจูบลงแล้วดูดแรงๆ
ก็ทำให้เฮนรี่หลุดเสียงครางอย่างง่ายดาย จนกระทั่งทั่วทั้งอกเล็กมีรอยแดงแต่งแต้ม
เฮนรี่ก็ไม่มีแม้แต่ปฏิกิริยาต่อต้าน
แถมมือเล็กยังจับไหล่หนาไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว
“แล้วอย่างนี้ล่ะ”
“อ๊า..อื้ม..” คำตอบที่คราวนี้เป็นเสียงครวญครางไม่เป็นภาษายามที่นิ้วเรียวสะกิดยอดอกสีหวาน
ก่อนจะบดขยี้แรงๆ อกขาวผ่องก็เด้งขึ้นรับสัมผัสอย่างไม่รู้ตัว
“ตอบหน่อยสิเฮนรี่” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่อด้วยเสียงที่เจือความหวาน
ทำให้ดวงหน้าใสกดหน้าลงอย่างรวดเร็ว
“อื้อ..ดี..อ้ะ...” คราวนี้เสียงหวีดร้องก็ดังมาจากริมฝีปากสีก่ำ
เมื่อโจวมี่ก้มลงใช้ปากครอบครองยอดอกสีสวย ลิ้นร้อนที่ดุดดันพร้อมกับขบเม้ม
ทำให้เฮนรี่ละทิ้งความคิดของตัวเอง มีเพียงสัญชาตญาณของร่างกายเข้าควบคุม
“อะ..ดี..มาก..อื้อ..อีก”
เสียงเล็กวอนขอไม่เป็นภาษาจนคนที่กดจูบกระตุกยิ้มอย่างพอใจ
โจวมี่ผละริมฝีปากออกเพื่อมองดวงหน้าหวานที่ฉ่ำเยิ้มด้วยแรงอารมณ์ จริงๆ
แค่นี้คำตอบมันก็ออกมาแล้ว แต่มาให้กินถึงที่จะปล่อยไปก็เสียดายอยู่
ความคิดที่ทำให้มือหนาลูบไล้ลงมาที่แก่นกายเล็ก
จนดวงหน้าหวานสะบัดไปอีกทาง เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มไหลซึมทั้งที่อากาศก็เย็นเฉียบด้วยเครื่องปรับอากาศ
โจวมี่จัดการปราการด่านสุดท้ายอย่างรวดเร็ว
ร่างขาวๆ ที่ปรากฏแก่สายตาทำให้ดวงหน้าคมมองอย่างหลงใหล
สวยกว่าที่เขาคิดซะอีก
ความคิดของร่างสูงที่มองเฮนรี่บิดกายน้อยๆ
เผยอปากหอบเบาๆ มือหนาจัดการหยอกล้อแก่นกายเล็กที่โป่งพอง
จนเฮนรี่กัดริมฝีปากล่างเต็มแรง
“ยะ..อย่าแกล้งกัน..อื้อ” แทบจะหายใจไม่ทัน
เมื่อโจวมี่กำรอบแล้วรูดอย่างรวดเร็ว เสียงใสหอบปนครวญครางไม่เป็นภาษา
มือหนาจัดการจังหวะเร็วสลับช้า จนเฮนรี่แทบทนไม่ไหว
ยามนี้ความต้องการในกายมีมากกว่าสิ่งอื่น
“อ้ะ..ดี..อื้อ.”
เสียงใสร้องบอกโดยไม่ต้องถาม
แต่แน่นอนว่าโจวมี่ไม่มีทางให้ร่างเล็กไปถึงจุดหมาย
ร่างสูงผละออกก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
ร่างสูงกำยำสมชายชาตรีทำให้เฮนรี่ได้แต่หน้าแดง
แต่อารมณ์ความรู้สึกกลับมีมากขึ้นเมื่อเห็นร่างกายของอีกฝ่าย
โจวมี่กลับมาทาบทับร่างเล็กอย่างรวดเร็ว
จูบร้อนผ่าวสัมผัสกลีบปากบางอย่างรุนแรง
ร่างกายท่อนล่างก็ขยับบดเบียดปลุกอารมณ์ของร่างเล็กให้มากกว่าเดิม
ก่อนจะใช้จังหวะสอดแทรกนิ้วเรียวลงไปที่ช่องทางสีหวานที่เต้นตุบ
จัดการแทรกเข้าไปอย่างเชื่องช้า ที่ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งวาบ
ความเจ็บแปล๊บเข้าหาตัวเอง แต่ไม่มากพอที่จะดับอารมณ์ที่ลุกโชนขึ้นมา
ขาเรียวทั้งสองข้างแหวกออกกว้างราวเชื้อเชิญ
“อ้ะ..อื้อ”
เสียงหวานครวญครางไม่เป็นภาษาเมื่อรู้สึกถึงนิ้วที่เคลื่อนไหวในกาย
เพียงไม่นาน ก่อนที่สิ่งที่ใหญ่กว่าจะเข้ามาแทนที่ เสียงหวีดเล็กๆ หลุดจากลำคอระหง
เจ็บจนน้ำตาแทบไหล แต่ยามที่เริ่มคุ้นชิน และโจวมี่ขยับกาย เร็วขึ้นเรื่อยๆ
เขา...กลับรู้สึกดี
“เข้ามา..อีก..อื้อ..อ้ะ”
ร่างเล็กร้องขออย่างทนไม่ไหว
ขาเรียวยิ่งแยกออก ที่ทำให้โจวมี่ขยับกายอย่างถนัด แรงกระแทกกระทั้นยิ่งมากขึ้น
เท้าเล็กจิกแน่นกับที่นอน รู้สึกดียามที่อีกฝ่ายกำลังเคลื่อนไหวไปมา
จนหลุดรอดออกมาเป็นเสียงครวญครางหวานๆ ถูกใจคนที่อยู่ด้านบน
“ดี..มั้ย” เสียงทุ้มพร่าถามด้วยแรงอารมณ์
“อ้ะ..อื้อ..ดี..อ๊า” มือเรียวทั้งสองข้างกำไหล่แน่น
ศีรษะเล็กส่ายไปมา ร่างกายร้อนรุ่มราวกับไฟ แต่ก็รู้สึกดีจนปฏิเสธไม่ได้
ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะกระตุกถี่ พร้อมกับเสียงครางดังๆ
ของทั้งสองจะหลุดรอดออกมาพร้อมกัน
สายน้ำอุ่นที่พุ่งเข้ามาในกายทำให้ร่างเล็กหลับตาแน่น
“แฮ่ก..ยังต้องให้ฉัน..สรุปมั้ยว่าเธอเป็นอะไร” คำถามที่พร้อมเสียงหอบหนักๆ
ทำให้คนที่สติพึ่งกลับเข้าร่างรีบส่ายหน้าเร็วๆ ด้วยใบหน้าที่ซับสีเลือด
ก็คำตอบมันชัดแสนชัด
จะบอกทำไมให้ต้องอายเล่า
“แต่ฉันอยากบอกนะ” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมหู
ที่เฮนรี่จะขยับหนีก็ไม่ได้ ในเมื่อโจวมี่ยังค้างคาส่วนนั้นในร่างกายเขา
“อะ..อะไร”
“เธอเป็นเคะ แถมเป็นของฉันคนเดียวด้วยสิ”ประโยคที่ทำให้ดวงหน้าใสเบือนหลบไปอีกทาง
ไม่กล้าแม้จะมองดวงตาเจ้าเล่ห์ตรงหน้า
ไม่ต้องย้ำหรอก รู้แล้วล่ะน่า
..........................................................
ตอนนี้หมดกำลังใจจริงๆ ใครมีเหลือ
ขอเมย์สักนิดนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น